เชียงราย – ระดมผู้ประกอบการวิทยุชุมชน-เคเบิลทีวีทั่วเมืองเชียงราย ติวเข้ม แนวทางการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร สกัดกั้นการหมิ่นสถาบัน หยุดเป็นเครื่องมือสร้างความแตกแยกในสังคม ชี้ชัดที่ผ่านมานักการเมืองที่สูญเสียผลประโยชน์ใช้วิทยุชุมชนเผยแพร่ข้อมูลที่บิดเบือนจากข้อเท็จจริง ปลุกปั่นชาวบ้าน
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า วันนี้ (28 เม.ย.) ตำรวจภูธร จ.เชียงราย ร่วมกับศูนย์เฝ้าฟังคลื่นความถี่ คณะกรรมการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ได้จัดการประชุมสัมมนาผู้เกี่ยวข้องกับกิจการวิทยุชุมชนในพื้นที่ จ.เชียงราย ณ ห้องประชุมศูนย์ส่งเสริมสุขภาพและการเรียนรู้ อบจ.เชียงราย
พล.ต.ต.ทรงธรรม อัลภาชน์ ผบก.ภ.เชียงราย ได้เชิญเจ้าของสถานที่ตั้งสถานีวิทยุชุมชนทั้งพื้นที่เข้าร่วมจำนวน 82 คน ผู้จัดรายการวิทยุชุมชนจำนวน 82 คน ผู้ประกอบการธุรกิจโทรทัศน์เผยแพร่ทางสาย (เคเบิลทีวี) จำนวน 2 คน รวมทั้งมีข้าราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมทั้งสิ้นจำนวนประมาณ 300 คน มีนายสุเมธ แสงนิ่มนวล ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานในพิธีเปิด ภายในการสัมมนามีการกล่าวต้อนรับจาก พ.ต.อ.ณรงค์ชัย วงศ์สามี รอง ผบก.ภ.เชียงราย การบรรยายจากเจ้าหน้าที่ กทช.
นอกจากนี้ ตำรวจได้จัดทำเป็นเอกสารประกอบการแถลงข่าวว่า จากสถานการณ์การก่อความไม่สงบในเดือน เม.ย.นี้ เกิดจากการได้รับข้อมูลข่าวสารที่ไม่ครบถ้วนและเป็นกลางของสื่อบางสื่อที่มีนักการเมืองที่สูญเสียผลประโยชน์อยู่เบื้องหลัง โดยเฉพาะต่อสถานีวิทยุชุมชน ดังนั้น ตำรวจจึงเห็นความจำเป็นในการชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ผลิตสื่อดังกล่าว
ขณะเดียวกัน พบว่า ผู้ประกอบการสถานีวิทยุโทรทัศน์ (เคเบิลทีวี) และสถานีวิทยุชุมชนใน จ.เชียงราย ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์ระบุเนื้อหาว่า จะเผยแพร่สื่อด้วยความระมัดระวังเพื่อไม่ให้เกิดการหมิ่นสถาบันสำคัญของชาติ หรือเป็นเครื่องมือของกลุ่มหรือฝ่ายการเมืองที่จะสร้างความแตกแยกให้กับสังคมด้วย
พ.ต.อ.ณรงค์ชัย กล่าวว่า วิทยุชุมชนถือเป็นสื่อที่เข้าถึงประชาชนในระดับรากหญ้าได้ดีที่สุด ขณะที่ทางตำรวจเอง ก็ถือเป็นตำรวจในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้รับการแต่งตั้งขึ้นเพื่อรับใช้ประชาชน แต่ที่ผ่านมาเราเข้าถึงกันได้ไม่มากนัก ขณะที่ตำรวจมีหน้าที่บำบัดทุกข์บำรุงสุขอยู่นั้น วิทยุชุมชนก็มีระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องอยู่ ดังนั้น เพื่อให้เกิดความเข้าใจกันตำรวจจึงร่วมกับศูนย์เฝ้าฟังคลื่นความถี่ กทช.ดำเนินการสัมมนา ซึ่งยืนยันว่าไม่ได้เป็นการจับผิดแต่เพื่อให้เราเข้าใจถึงกันและจะได้พัฒนาสังคมร่วมกันได้ง่ายขึ้นต่อไป
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า สำหรับพื้นที่ จ.เชียงราย ถือเป็นพื้นที่ที่กลุ่มคนเสื้อแดงหลากหลายกลุ่มใช้ในการเคลื่อนไหวปลุกระดมมวลชน โดยการประชาสัมพันธ์และปลุกระดมคนเสื้อแดงรวมทั้งรับบริจาค ผ่านทางวิทยุชุมชนจำนวน 1 คลื่นความถี่อย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลังเหตุการณ์ความรุนแรงในการปิดสี่แยกแม่กรณ์ ถนนพหลโยธิน อ.เมือง ระหว่างวันที่ 12-13 เม.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.เมืองเชียงราย ได้ดำเนินคดีกับแกนนำคนเสื้อแดงกลุ่มต่างๆ จำนวน 13 คน ซึ่งหนึ่งในคดีดังกล่าวคือการตั้งสถานีวิทยุชุมชนที่เปิดขึ้นโดยไม่ได้รับอนุญาตและมีการปลุกระดมมวลชนให้ก่อความวุ่นวาย ทำให้วิทยุชุมชนคลื่นดังกล่าวไม่มีการออกอากาศตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
