รัฐมนตรีคุมสื่อยันสั่งปิดดีทีวี-วิทยุชุมชนไม่ได้กลั่นแกล้ง ระบุเนื้อหารายการกระทำการปลุกปั่นมวลชนร่วมก่อเหตุกับคนเสื้อแดง แย้มดีสเตชั่นสามารถรีเทิร์นได้ แต่มีข้อเงื่อนไขต้องปรับเปลี่ยนเนื้อหา รูปแบบรายการไม่ให้กระทบความมั่นคง
วันนี้ (17 เม.ย.) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการสั่งปิดสถานีวิทยุชุมชนหลายแห่งของเครือข่ายกลุ่มคนเสื้อแดงว่า ความจริงวิทยุชุมชนมีกว่า 4,000 แห่ง ที่อยู่ในการควบคุมของอนุกรรมการคณะกรรมการกิจการวิทยุโทรทัศน์แห่งชาติ (กทช.) แต่มีวิทยุชุมชนเพียงจำนวนน้อยที่ปลุกระดมมวลชนจนก่อให้เกิดความเสียหายเกิดขึ้น โดยเฉพาะการยั่วยุให้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง จนทำให้เกิดเหตุไปปิดล้อมที่ประชุมอาเซียนและคู่เจรจา จนต้องเลื่อนการประชุมออกไปไม่มีกำหนด ทั้งนี้ ยืนยันว่าการปิดวิทยุชุมชนดังกล่าวไม่ได้มีการกลั่นแกล้งหรือเลือกปฏิบัติแต่อย่างใด เพราะเป้าหมายของรัฐบาลคือป้องกัน และระงับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ส่วนนอกพื้นที่ก็มีสถานีวิทยุชุมชนที่สำคัญๆ ที่จ.อุดรธานี เชียงใหม่และเชียงราย ซึ่งมีหลักฐานชัดเจนว่ามีการปลุกปั่นและปลุกระดมมวลชนให้เข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มเสื้อแดงจนเกิดเหตุจลาจลเกิดขึ้น และขณะนี้ทางอนุกรรมการกทช.ได้เปิดโอกาสให้วิทยุชุมชนที่ต้องการจะเปิดดำเนินการให้ไปลงทะเบียน ซึ่งจะออกใบอนุญาตชั่วคราว โดยเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. ที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าการส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจและบุกยึดเครื่องส่งวิทยุของสถานีวิทยุชุมชนบางแห่งเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ นายสาทิตย์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามกฎหมายอาญา และได้เชิญสื่อมวลชน รวมถึงประชาชนและฝ่ายที่สนับสนุนคลื่นวิทยุนั้นๆ เข้าไปร่วมตรวจสอบด้วย ยืนยันว่าไม่มีเหตุความุรนแรงแต่อย่างใด เพราะสถานีวิทยุดังกล่าวมีการกระทำผิดกฎหมายจริง เมื่อถามถึงการปิดสถานีโทรทัศน์ดีสเตชั่น นายสาทิตย์ กล่าวว่า การดำเนินการมีเจ้าหน้าที่และผู้เกี่ยวข้องกับกทช. รวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกิจการวิทยุโทรทัศน์และคมนาคมร่วมตรวจสอบด้วย เพราะมีหลักฐานชัดเจนว่าสถานีดีสเตชั่นมีการปลุกระดมมวลชนจนนำไปสู่ผลของการเกิดจลาจล หากเป็นการวิพากษ์วิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างตามระบอบประชาธิปไตยก็เป็นสิทธิที่จะดำเนินการได้ แต่หากเป็นการปลุกระดมมวลชนให้เกิดความเสียหาย และภาพลักษณ์ของประเทศรัฐบาลจำเป็นต้องดำเนินการ เพราะยังมีสถานีโทรทัศน์หลายแห่งที่ดำเนินการคล้ายกับดีสเตชั่น เช่น ทีทีวี และเอ็มยูทีวี ซึ่งเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ตามระบอบประชาธิปไตยแล้วสามารถเสนอความคิดเห็นที่แตกต่างได้ เมื่อถามว่า จะอนุญาตให้ดีสเตชั่น เปิดสถานีได้เมื่อใด นายสาทิตย์ กล่าวว่า จะต้องมีการพิจารณาและทบทวนกันอีกครั้ง หากการกลับมาเปิดและไม่มีการปลุกระดมมวลชนก็จะอนุญาตให้ทำได้ เชื่อว่าการปิดวิทยุชุมนุและดีสเตชั่นจะไม่ทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงลุกฮือแรงขึ้น เพราะรัฐบาลไม่ได้ปฏิบัติสองมาตรฐาน
เมื่อถามถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ พยายามใช้สื่อภายในประเทศชี้แจงสถานการณ์ แต่ถูกรัฐบาลสกัดกั้น นายสาทิตย์ กล่าวว่า เป็นสิทธิของแต่ละสถานีจะตัดสินใจเอง รัฐบาลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือเข้าไปแทรกแซงแต่อย่างใด
