รมต.ประจำสำนักนายกฯ ยันรัฐบาลไม่มีส่วนเอี่ยวสั่งปิด “วิทยุชุมชนคนแท็กซี่” อ้างเป็นอำนาจอนุ กทช. เผยคลื่นแท็กซี่ 92.75 ทำผิดกม.ต้องดำเนินคดีอาญาด้วย ฐานปลุกระดมประชาชนล้มรัฐบาล
วันนี้ (10 มี.ค.) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวการปิดสถานีวิทยุชุมชนคนแท็กซี่ 92.75 เมกะเฮิรตซ์ว่า เพิ่งทราบข่าวในช่วงเช้าวานนี้ จึงได้มีการสอบถามไปยังปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี จึงทราบว่าเป็นเรื่องของคณะอนุกรรมการกิจการวิทยุโทรทัศน์ ซึ่งเป็นอนุกรรมการที่ทำงานร่วมอยู่กับคณะกรรมการกทช. โดยคณะกรรมการกทช.ชุดนี้เขามีหน้าที่ดูแลวิทยุชุมชน
ซึ่งทราบว่าเมื่อวานทางอนุกรรมการ กทช.ได้ดำเนินการ 2 เรื่อง คือ 1.มีการส่งหนังสือเตือนไปยังวิทยุชุมชน เนื่องจากบางสถานีมีคนร้องเรียนเข้ามา อาจจะใช้ถ้อยคำที่ไม่ถูกต้อง แต่ไม่มีหลักฐานที่ปรากฏว่ากระทำความผิด จึงส่งหนังสือเตือนไปซึ่งสถานี 92.25 ก็เป็นสถานีหนึ่งที่ถูกเตือน และลงนามโดยนายนที เปรมรัศมี ปลัดสำนักนายกฯ ในฐานะประธานอนุกรรมการ กทช. 2.จะมีสถานีวิทยุที่จะถูกดำเนินการตามกฎหมาย เนื่องจากถูกร้องเรียนและมีพยานหลักฐานค่อนข้างจะชัดเจน โดยได้มีการแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว เพราะมีการกระทำที่เป็นความผิดทางอาญาซึ่งทั้ง 2 กลุ่มนี้ทางอนุกรรมการ กทช.ก็มีอำนาจตามกฎหมายที่จะไปดำเนินการ ไม่ได้เป็นอำนาจของฝ่ายบริหาร ยืนยันรัฐบาลไม่ได้เป็นผู้สั่งให้ดำเนินการใด ๆ ทั้งสิ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่าสถานีที่เข้าข่ายผิดกฎหมายมีกี่สถานี รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ไม่ทราบรายละเอียด เพราะเป็นเรื่องของอนุกรรมการ กทช. แต่ยอมรับว่าเคยเชิญอนุกรรมการ กทช.มาพบและได้มอบข้อมูลที่ชาวบ้านร้องเรียนมาเกี่ยวกับวิทยุชุมชนให้ไป ซึ่งไม่ทราบว่าอนุกรรมการ กทช.นำข้อมูลเหล่านี้ไปดำเนินการด้วยหรือไม่ ทั้งนี้ กรณีของ 92.25 นั้นทางอนุ กทช.บอกว่าเป็นการเตือนไปเมื่อวานนี้ครั้งหนึ่ง เมื่อถามว่าปกติตามระเบียบแล้วจะต้องมีการเตือนกี่ครั้งจึงปิด นายสาทิตย์กล่าวว่า ไม่ทราบ เป็นเรื่องของอนุกรรมการกทช. ทั้งนี้การปิดสถานีวิทยุชุมชนใดนั้น จะต้องเป็นไปตามกฎหมาย ขึ้นอยู่กับว่าเขาใช้กฎหมายฉบับใด
“ผมอยากบอกว่ากรณีของวิทยุชุมชน รัฐบาลไม่ได้เพิกเฉย หรือนิ่งนอนใจ เพราะมีการประสานกับอนุกรรมการชุดนี้ที่ทำงานร่วมกับกทช.ซึ่งเขามีอำนาจตามกฎหมายอยู่ และส่วนตัวเห็นว่าการดำเนินการโดยอนุกรรมการกทช.ก็ต้องดำเนินการโดยเคร่งครัด เพราะเรื่องของคลื่นความถี่มีผลต่อความคิด ความอ่านของประชาชนมาก ถ้าไปใช้ในทางที่เป็นเครื่องมือปลุกระดมการเมืองก็จะเกิดความวุ่นวายได้ ดังนั้นสถานีวิทยุชุมชนใดก็ตามที่ดำเนินการเข้าข่ายว่าผิด และมีพยานหลักฐานชัดเจนแน่นอน อนุกรรมการกทช.ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ละเว้นไม่ได้” รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า คลื่นที่จะถูกดำเนินการตามกฎหมายในขณะนี้ ได้รับรายงานว่ามีคลื่นไหนบ้าง นายสาทิตย์กล่าวว่า ทราบว่ามีหลายคลื่น แต่ไม่ทราบจำนวนที่ชัดเจนแน่นอน และบรรดาคลื่นที่มีการพูดถึงกันอยู่ ที่เป็นคลื่นที่เป็นประเด็นทางการเมืองนั้น เข้าใจว่าอยู่ในกลุ่มนี้ด้วยหลายสถานี เมื่อถามว่ารัฐบาลจะให้ความชัดเจนกับทุกสี ทุกคลื่นอย่างไรว่าจะไม่เข้าไปแทรกแซงหรือมีใบสั่ง รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลดำเนินการตามกฎหมาย ยืนยันว่ารัฐบาลส่งเสริมสื่อสารมวลชนให้ดำเนินการได้โดยเสรีแต่ต้องมีความรับผิดชอบ และอยู่ภายใต้กฎหมาย รัฐบาลไม่ได้เข้าไปแทรกแซงการแสดงความคิดเห็นแต่อย่างใด แต่ถ้ามีการดำเนินการที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลต้องกำชับหน่วยปฏิบัติให้ดำเนินการโดยเด็ดขาด
“ที่ผ่านมาสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้มีหนังสือแจ้งเตือนไปหลายคลื่น ไม่ว่าจะเป็น 92.25 หรือคลื่น 92.75 และบางคลื่นทางสำนักปลัดได้สั่งดำเนินคดีไปแล้วเพราะมีความผิดทางอาญาอย่างชัดเจน ทั้งนี้ รัฐบาลจะดำเนินการกับทุกคลื่นทุกสี ที่มีการกระทำผิดกฎหมายรวมไปถึงเว็บไซต์ต่างๆ รัฐบาลจะไม่ยอมให้คนไทย หรือต่างประเทศเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่อยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายไม่ได้ ทุกคลื่นทุกสีต้องได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งขณะนี้มีหลายคลื่นที่อยู่ในระหว่างการดำเนินการ ทั้งนี้หากพบว่าวิทยุชุมชุนจัดรายการที่ไม่เหมาะสมสามารถที่จะบันทึกเทปร้องเรียนมาที่ตนได้โดยตรง และพร้อมจะดำเนินการตามกฎหมายทันที” นายสาทิตย์ กล่าว
