“จตุพร” ไม่เลิกปั้นน้ำเป็นตัว ยัน “มาร์ค” ไม่ได้อยู่ในรถคันที่ถูกเสื้อแดงทุบ อ้าง ขรก.ระดับสูงมหาดไทยให้ข้อมูล ปากเก่งเตรียมส่งภาพให้สหรัฐฯ และอังกฤษพิสูจน์ กัด“เทพไท” ไม่น่าเชื่อถือ เปรียบ “ม.ล.ปนัดดา” ราชนิกุลปลายแถว อย่าช่วยนายกฯ สร้างภาพ ทะลึ่งทำนายรัฐบาล “มาร์ค” อยู่ไม่เกินสิ้นเดือน ก.ค.
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายจตุพร พรหมพันธุ์ ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (12 พ.ค.) ที่รัฐสภา นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีนั่งอยู่ในรถคันที่ถูกกลุ่มคนเสื้อแดงทุบในกระทรวงมหาดไทยว่า ภาพที่นายเทพไทนำมาแสดงนั้นเป็นภาพของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งจากการข่าวของตนซึ่งมาจากข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในกระทรวงมหาดไทยนั้น ยืนยันชัดเจนว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไร แต่ตนไม่อยากให้ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่คนดังกล่าวเดือดร้อนด้วย เนื่องจากรัฐบาลชุดนี้ย้ายคนเหมือนผักปลาและไม่มีจริยธรรม
นายจตุพรกล่าวต่อว่า ตามหลักสากลแล้วการพิสูจน์ภาพไม่ใช่เรื่องยาก ตนจะประสานกับประเทศอังกฤษ และประเทศสหรัฐอเมริกาที่มีความถนัดในการสแกนภาพว่ามีบุคคลอยู่ภายในรถหรือไม่ เพราะการพิสูจน์ในประเทศเราไร้มาตรฐาน ดังนั้นจึงต้องใช้สถาบันจากต่างชาติซึ่งคาดว่าไม่เกินสัปดาห์หน้าจะส่งภาพไปพิสูจน์เพื่อหาข้อเท็จจริงดังกล่าว ส่วนวันนี้ใครจะกล่าวหาอย่างไรก็ตามนั้น ทุกอย่างต้องรอการพิสูจน์
“นายเทพไทเป็นบุคคลที่ไม่น่าเชื่อถือ เคยเอาภาพนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถ่ายภาพคู่กับจอมพลประภาส จารุเสถียร มาบอกว่าเป็นต้นเหตุของเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 แต่ความจริงภาพนั้นเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2515 และประเด็นที่เคยกล่าวหาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สหรัฐอเมริกางดวีซ่าไม่ให้เข้าประเทศนั้นก็เป็นความเท็จทั้งสิ้น รวมทั้งที่ระบุว่าคอมมิวนิสต์เก่าฝึกกำลังจรยุทธ์เพื่อมาใช้อาวุธในเมืองนั้น ผมอยากให้นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี จับตัวมายืนยันให้ได้สักรายว่าใครเป็นคนฝึก แต่ทั้งหมดผมเห็นว่าเป็นเพียงเด็กเลี้ยงแกะเท่านั้น แล้วยังมีหน้ามาหาว่าผมเป็นเด็กเลี้ยงแกะ อีกไม่นานก็จะรู้กันว่าอะไรเป็นอะไร” นายจตุพรกล่าว
ส่วนกรณีที่ ม.ล.ปนัดดา ดิสกุล โฆษกฝ่ายข้าราชการกระทรวงมหาดไทย ระบุว่านายอภิสิทธิ์อยู่ในรถคันดังกล่าวนั้น นายจตุพรกล่าวว่า ตนคงไม่มีเกียรติอะไรไปเทียบเพราะตนเป็นแค่ไพร่ แต่ถ้าพิสูจน์มาแล้วว่านายอภิสิทธิ์ไม่อยู่ในรถจริง อยากถามว่าเกียรติยศของราชนิกุลปลายแถวอย่าง ม.ล.ปนัดดา จะแสดงความรับผิดชอบอย่างไร เพราะขนาดข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่ตำแหน่งสูงกว่า ม.ล.ปนัดดา รวมทั้งข้าราชการก็พูดกันทั้งกระทรวงว่านายอภิสิทธิ์เปลี่ยนรถ ที่สำคัญตำรวจคนสนิทของนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ก็ยังออกมายืนยันว่ากลุ่มคนเสื้อแดงเป็นคนที่ช่วยเหลือนายนิพนธ์
สำหรับกรณีที่นายกรัฐมนตรีเตรียมประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงในพื้นที่ภูเก็ตนั้น นายจตุพรกล่าวว่า ไม่มีความจำเป็น เพราะภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยว ซึ่งจะสร้างความเสียหาย ตนอยากให้รัฐบาลใช้มาตรฐานเดียวกันทั้งกลุ่มเสื้อเหลืองและเสื้อแดง อย่าเป็นเพียงทาสของกลุ่มเสื้อน้ำเงินและเสื้อเหลืองเท่านั้น ส่วนการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในครั้งต่อไปนั้น นายจตุพร กล่าวว่า คงต้องมีการหารือกันอีกครั้ง ส่วนการออกหมายจับเพิ่มของ สตช.นั้น ตนจะให้ผู้ที่ถูกออกหมายจับไปมอบตัวพร้อมกันและนัดประชาชนไปเรียกร้องความเป็นธรรมหน้า สตช.รวมทั้งหน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาลด้วย
นายจตุพรยังกล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลขึ้นภาษีเหล้าและบุหรี่ด้วยว่าจะเป็นการสร้างความยิ่งใหญ่ให้กับขบวนการค้าของเถื่อนและของหนีภาษีที่มีมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท โดยเฉพาะในเขตภาคใต้ และคนที่จะได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ก็คือคนที่รับส่วย ทั้งนักการเมือง ตำรวจ และทหาร
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคเพื่อไทยจะเสนอนิรโทษกรรมในการแก้รัฐธรรมนูญ นายจตุพรกล่าวว่า เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญและการนิรโทษกรรมนั้นเป็นเพียงเรื่องเล็ก เพราะตอนนี้เรื่องที่สำคัญคือต้องทำความจริงให้ปรากฏ และนำฆาตกรที่ฆ่าประชาชนที่บริสุทธิ์มาลงโทษให้ได้ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ารัฐบาลของนายอภิสิทธิ์คงไม่สามารถบริหารประเทศไปได้อีกนาน อย่างเก่งคงลากยาวได้ถึงเดือน ก.ค.เท่านั้น
ปัดตั้งกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย
สำหรับกรณีที่มีกระแสข่าวว่ากลุ่มคนเสื้อแดงฝึกแนวร่วมโดยใช้ชื่อว่า “กลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย” และมีการเตรียมส่งคนและอาวุธไปล้มการประชุมที่ภูเก็ตนั้น นายจตุพรกล่าวว่า หากเรื่องดังกล่าวเป็นความจริง ทำไมนายกรัฐมนตรี นายสุเทพ และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม จึงไม่ดำเนินการในเรื่องดังกล่าว ดังนั้น เรื่องนี้ตนเห็นว่าสมควรแจ้งข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เรื่องดังกล่าวเป็นการกุเรื่องมาทั้งหมด ส่วนทราบหรือไม่ว่า ขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณมีพาสพอร์ตของประเทศอะไรบ้าง นายจตุพรกล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีพาสปอร์ตของหลายประเทศ และเดินทางไปได้ทุกที่ในโลก ส่วนตัวมองว่าคงมีแต่ประเทศไทยเท่านั้นที่มีปัญหา
