xs
xsm
sm
md
lg

“ป๋าเหนาะ” โผล่ร่วมก๊วนกอล์ฟ โวยถูกหาว่ารับงาน “นช.ทักษิณ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช
“เสนาะ” โผล่สนามกอล์ฟอัลไพน์ร่วมก๊วน “111+37 = เพื่อไทย สังสรรค์กอล์ฟ ปาร์ตี้” อัดกรรมการสมานฉันท์ต่างคนต่างพูด แบ่งฝักฝ่ายไม่อะลุ้มอล่วย หวั่นเจอทางตัน โวยวายบอกพูดมากก็ถูกหาว่ารับงาน “ทักษิณ” พร้อมจี้ “อภิสิทธิ์” ย้ำจุดยืนจะแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่ แนะเปิดกว้าง ยกคำสมานฉันท์ขู่

คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายเสนาะ เทียนทอง ให้สัมภาษณ์

วันนี้ (11 พ.ค.) ที่สนามกอล์ฟอัลไพน์ เมื่อเวลา 13.00 น.นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ในฐานะประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้สัมภาษณ์ระหว่างเข้าร่วมงาน “111+37 = เพื่อไทย สังสรรค์กอล์ฟ ปาร์ตี้” ว่า ตนไม่อยากคุยเรื่องการเมือง เพราะวันนี้จะไม่มีบ้านเมืองให้เล่นการเมืองกันแล้ว จะเล่นอะไรก็แล้วแต่ แม้กระทั่งสื่อมวลชน เวลาจะทำอะไรก็ให้คิดถึงบ้านเมือง หลักการ คุณธรรม และความจริง เพื่อให้คนในชาติได้เข้าไปอยู่ในทิศทางที่ถูกที่ควร ใครพูดอะไรแล้วไปเป็นข่าวขยายความกันไปในทางเสื่อมเสียมันก็ไม่ดี ก็ไม่อยากจะพูดอะไรแล้ว เพียงแต่จะชี้ให้เห็นว่าที่มาของความขัดแย้งนั้นมาจากไหน แต่พอจะพูดความจริงก็หาว่าเราเอียงนั่นเอียงนี่ ก็เลยไม่รู้จะว่าอย่างไร

เมื่อถามถึงกรณีการนิรโทษกรรมให้นักการเมืองที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ 19 กันยายน 2549 นายเสนาะ กล่าวว่า ถามว่าที่ตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ ก็ต้องมาคุยกัน ไม่ใช่เอาชนะคะคานกัน ไม่ใช่ไปถกเถียงกัน เพราะถ้าคณะกรรมการฯยังปรองดองกันไม่ได้แล้วจะมาปรองดองกันทำไม เช่น พรรคนั้นพรรคนี้ส่งข้อมูลเข้าไป แต่ก็ยังมีปัญหาอยู่แค่ 2 พรรค ขั้วหนึ่งเป็นพรรคไทยรักไทยเดิม ย้ายมาพรรคพลังประชาชนแล้วมาเป็นพรรคเพื่อไทย อีกขั้วก็พรรคประชาธิปัตย์ ก็สู้กันมาตลอดเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ แล้วถามว่าอย่างนี้ประเทศจะได้อะไร เพราะเกิดแต่ความแตกแยกที่มีคน 2-3 ฝ่ายไปสร้างความแตกแยกร้าวลึกให้กับประชาชน ซึ่งตนไม่เคยเห็น

เมื่อถามว่า การทำงานของคณะกรรมการสมานฉันท์จะทำงานสำเร็จหรือไม่ นายเสนาะ กล่าวว่า ต้องหันหน้ามาคุยกัน เพราะถ้าส่งคนเข้ามาแล้วมีปัญหาก็ไม่ต้องส่งเข้ามา เพราะชื่อคณะกรรมการก็บอกอยู่แล้วว่าให้ปรองดอง ซึ่งต้องผ่อนหนักผ่อนเบา แล้วเรามาเริ่มต้นกันใหม่ให้ประเทศมั่นคง แต่อย่าไปปรองดองระหว่างนักการเมือง ต้องปรองดองเพื่อยุติการสร้าวความแตกแยกให้กับประชาชน ที่เป็นอยู่ในขณะนี้ เพราะถือว่าเป็นจุดอ่อนของประเทศ ที่เอาสีโน้น สีนี้มาอ้าง เพื่อหาประโยชน์ส่วนตัว

เมื่อถามว่า ฝ่ายหนึ่งบอกว่าแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แต่อีกฝ่ายไม่เห็นด้วย นายเสนาะ กล่าวว่า ตรงนี้ต้องอย่าไปยึดติดกับคนคนเดียว จะเอากันไปถึงไหน

“เวลาจับหนูได้เราก็ไม่รู้จะทำอะไร แต่กลับไปทำเรื่องไร้สาระ กล่าวหาเขาเยอะแยะ พอเวลาเราพูดบ้างก็ไปหาว่ารับงาน พ.ต.ท.ทักษิณ มา ผมก็พูดในที่ประชุมกรรมการว่าไปกล่าวหาเขาเรื่องใหญ่เรื่องโต ไปยึดทรัพย์เขาก็แปดหมื่นล้าน แสนล้าน แต่ไม่เห็นตัดสินอะไร กลับมาตัดสินเรื่องเมียเขาซื้อที่ เมียรอดแต่ผัวกลับติดคุก ชาวบ้านเขาไม่รู้ ดังนั้น ถ้าจะตัดสินเขาอย่างนี้ก็ต้องชี้แจงให้ชัด ให้ชาวบ้านรู้ว่าทำไม ซื้อโดยถูกต้อง ชอบธรรมหรือไม่ สามีไปเซ็นชื่อรับรองให้ภรรยาทำนิติกรรม กลับติดคุก มันมีที่ไหนวะ อันนี้พูดตรงๆ เรื่องใหญ่ๆ กลับไม่ไปตัดสินเขา ถ้าจะกล่าวหาเขาก็บอกว่า เฮ้ย! นายกฯใช้อิทธิพลมาซื้อที่ซื้อทางไม่ได้ ที่ก็ต้องไม่ได้ไป ซื้อโดยไม่ชอบ ที่ผมพูดไม่ได้ไปพูดเข้าข้างทักษิณ แต่ชาวบ้านเขางง ไปกล่าวหาเขาไว้เยอะ ชาวบ้านก็คิดว่าไปกลั่นแกล้ง เพราะคนที่รักเขาก็มีเยอะ” นายเสนาะ กล่าว

เมื่อถามว่า หากยังละลายพฤติกรรมของคณะกรรมการไม่ได้ เกรงว่าการทำงานอาจจะล่ม นายเสนาะกล่าวว่า คงไม่ล่ม แต่เราจะต้องทำให้คนรู้ว่าคนไหนเห็นแก่ตัว

เมื่อถามว่า สังคมจะเปิดใจยอมรับได้หรือไม่ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญและนิรโทษกรรมไม่เกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ นายเสนาะ กล่าวว่า การแก้ไขเพื่อให้บ้านเมือง สังคมและความถูกต้องตามจารีตประเพณี แต่อย่ามาหาว่าที่พูดอย่างนี้จะเข้าข้าง พ.ต.ท.ทักษิณ หรือใครคนใดคนหนึ่ง เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นปัญหาก็ไม่จบ ฉะนั้น ต้องดูที่มาว่าจะแก้เพราะอะไร พื้นฐานของความแตกแยกมาจากไหน ถ้ายังไม่รู้จุดเหล่านี้ก็อย่าเพิ่งไปแก้ และที่สำคัญ คือ ทุกฝ่ายต้องพูดความจริงว่าที่ทะเลาะกันทุกวันนี้ทะเลาะกันเรื่องอะไร ผู้ใหญ่ถึงจะลงไปไกล่เกลี่ยว่าต่อไปนี้ให้เลิกกันได้แล้ว

เมื่อถามว่า หลายฝ่ายอยากให้ทำประชามติสอบถามประชาชน นายเสนาะกล่าวว่า จะเอาอะไรไปถามประชาชนในเมื่อยังไม่มีหลักจะไปถาม ในคณะกรรมการต้องตกลงกันก่อน ถึงจะไปถามประชาชน เพราะประชาชนไม่รู้ว่ามีกี่ฝ่ายในขณะนี้

“หากยังไม่อะลุ้มอล่วย เถียงกันว่าสีโน้นสีนี้ทำให้บ้านเมืองวายวอด ไม่รู้ว่าที่ไปนั่งเป็นกรรมการฯ อยู่นั้นจะรู้บ้างหรือไม่ หากกรรมการฯ ที่มาจากต่างพรรคไม่อะลุ้มอะล่วย ยังเถียงกันเรื่องสีนั้นสีนี้ จนมีส่วนทำให้บ้านเมืองบรรลัยวายวอด รู้สำนึกกันบ้างไหม ถ้ารู้สำนึกก็บอกว่าต่อไปนี้จะไม่ทำกันแล้ว ไม่ใช่อะไรก็ไม่ได้ ไม่ยอมรับผลการกระทำของตัวเองก็พัง” นายเสนาะ กล่าว

เมื่อถามว่า รัฐธรรมนูญ มาตรา 237 ที่ระบุถึงการยุบพรรคและการนิรโทษกรรม มีข้อถกเถียงในสังคมมากมายว่าควรแก้ไขหรือไม่ เรื่องนี้ควรมีการทำประชามติหรือไม่ นายเสนาะ กล่าวว่า จะทำอย่างไรก็ได้ ขอให้บ้านเมืองอยู่รอด เรื่องนี้ตนพูดตลอดเวลา ที่ไม่กล้าพูดถึงมาตรานี้เพราะกลัวว่าจะมีคู่แข่งเกิดขึ้นใช่หรือไม่ ในเมื่อถามว่าปัญหาที่ขัดแย้งมีมาตราอะไรบ้าง เพราะตัวเองไม่โดนก็เลยบอกว่าทำไม่ได้ ถามว่านักการเมืองที่โดนลงโทษเป็นสมาชิกบ้านเลขที่ 111 และ 109 ได้รับความเป็นธรรมหรือไม่ ก็ต้องหาทางออก ส่วนรัฐบาลจะจริงใจในการดำเนินการหรือไม่นั้น ตนไม่อยากให้ไปพูดอย่างนั้น แต่อะไรที่จะคลี่คลายไปในทางที่ถูกและดีก็ต้องทำ ถ้าหากว่ามีใจต่อกันจริง
กำลังโหลดความคิดเห็น