xs
xsm
sm
md
lg

“เสื้อแดง” ชิงการนำ-ต้องถอยปรับขบวน!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พรหมินทร์ - จาตุรนต์ - ภูมิธรรม
เป็นที่แน่นอนแล้ว หลังฟังจากการแถลงของ “3 เกลอ” วีระ มุสิกพงศ์ จตุพร พรหมพันธุ์ และ ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ที่ย้ำว่ากลุ่ม “คนเสื้อแดง” จะนัดชุมนุมกันในวันที่ 10 พฤษภาคม ที่วัดไผ่เขียว ย่านดอนเมือง โดยกำหนดเวลาเอาไว้ชัดเจน คือเริ่มตั้งแต่ 16.00 น.-24.00 น.

ที่สำคัญยืนยันว่าจะไม่เคลื่อนขบวนไปประท้วงการประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียนที่จะมีการเปิดประชุมในวันที่ 7-8 พฤษภาคมนี้อย่างแน่นอน

สรุปก็คือจะไม่ยืดเยื้อ และชุมนุมอยู่ในวงจำกัด เท่านั้น

ท่าทีดังกล่าวดูเผินๆ อาจน่าแปลกใจ หรือไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นไปตามที่บรรดาแกนำ “หัวขวด” กลุ่มนี้แถลงยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะ แต่หากพิจารณาจากสถานการณ์ตามความเป็นจริงในปัจจุบันก็น่าจะเป็นไปตามนั้นค่อนข้างแน่

หลังจากเหตุการณ์บุกพังการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนจนล่มไม่เป็นท่า สร้างความเสียหายให้กับบ้านเมืองจนไม่อาจประเมินได้ หรือก่อนหน้านั้นมีกลุ่มเสื้อแดงจำนวนหนึ่งพยายามทำร้ายนายกรัฐมนตรี ที่พัทยา จากนั้นก็ก่อจลาจลเผาบ้านเผาเมือง จนถูกประณามไปทั่ว

ถือว่า เกมกลางถนนต้องพ่ายแพ้อย่างย่อยยับ ขณะที่เกมในสภาซึ่งใช้พรรคเพื่อไทยขับเคลื่อนก็อยู่ในสภาพเดียวกัน คือพ่ายยับเยิน

เมื่อเกมป่วนทั้งในและนอกสภาที่มีการวางแผนกันมาอย่างเป็นขั้นเป็นตอนต้องพังพาบไม่เป็นท่าแบบนี้ มันก็ย่อมส่งผลสะเทือนไปถึง “หัวโจกใหญ่” อย่าง นช.ทักษิณ ชินวัตร ที่ล่องลอยอยู่ต่างประเทศ อย่างช่วยไม่ได้

แม้ว่าในเวลาต่อมาจะมีการแถลงยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องหรือยุยงให้เกิดความรุนแรง แต่ถ้าลองย้อนกลับไปดูเทปเก่าๆทั้ง โฟนอิน และ วีดิโอลิงก์ เข้ามาทั้งในเวทีต่างจังหวัดปลุกระดมเข้ามาอย่างเต็มที่ เรียกได้ว่าทุ่มเทกันเต็มพิกัด หวังโค่นรัฐบาลแบบ “รวบรัดทีเดียวจบ”

เรียกได้ว่าระดมกันมาทุกทาง ทั้งบนดินใต้ดิน แต่เมื่อพลาดพลั้งจากการก่อจลาจลในวันสงกรานต์ จนสร้างความเกลียดชังให้กับชาวบ้านไปทั่ว จนเกิดกระแสตีกลับ แนวร่วมเริ่มตีจาก

ทำให้คนเสื้อแดงต้องถอยมาปรับท่าทีกันเป็นการใหญ่ ตั้งแต่หัวขบวนยันท้ายขบวน ซึ่งสังคมได้เห็นกันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น นช.ทักษิณ ที่นั่งไม่ติดถึงกับต้องออกแถลงการณ์ส่งตรงมาถึงสื่อในประเทศโดยตรงปฏิเสธเสียงแข็ง ยืนยันว่าตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการปลุกระดมให้เกิดความรุนแรงหน้าตาเฉย

ขณะที่แกนนำ “3 เกลอ” ก็ออกมากล่าวทำนองเดียวกันพร้อมทั้งโบ้ยความผิดให้กลุ่มอื่นเป็นตัวการ ปัดความรับผิดชอบอย่างสิ้นเชิง

อย่างไรก็ดีจากภาพและหลักฐานที่ปรากฏทั้งก่อนและหลังเหตุการณ์รวมทั้งปัจจัยแวดล้อมอื่นๆมันก็ชี้ชัดจนดิ้นไม่หลุด สลัดภาพผู้ร้ายไม่ออก อีกทั้งบรรดาแกนนำเสื้อแดงหลายคนถูกออกหมายจับ ถูกตั้งเงื่อนไขห้ามเคลื่อนไหวปลุกระดมก่อความวุ่นวายขึ้นมาอีก ทำให้ต้องปรับขบวนกันยกใหญ่

สิ่งที่ต้องพิจารณาในเวลาต่อมาก็คือ ระดับแกนนำที่ปรากฏเป็นข่าวที่ถูกดันหลังออกมามายืนอยู่หัวแถว ที่ส่วนใหญ่ล้วนเคยเป็นฝ่ายซ้าย “อกหัก” เพราะเคยร่วมขบวนการปฏิวัติประเทศไทยมากับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.)

เท่าที่เอ่ยชื่อออกมาตามข่าวไม่ว่าจะเป็น จาตุรนต์ ฉายแสง นพ.พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช ภูมิธรรม เวชยชัย และ เกรียงกมล เลาหไพโรจน์ เป็นต้น แม้ว่าในทางเปิดเผยจะดาหน้าปฏิเสธ แต่ในทางลึกจะพบว่ามีความเคลื่อนไหวในประเภทนี้จริง เพื่อต้องการปรับยุทธศาสตร์ ปรับภาพลักษณ์ใหม่ของคนเสื้อแดงให้ฟื้นคืนศักยภาพเพื่อสร้างแรงกดดันให้กับรัฐบาลอีกครั้ง

แต่ปัญหาก็คือมันไม่ง่ายอย่างที่หลายคนคิดหรือ อย่างที่ นช.ทักษิณ คิด เพราะการเปลี่ยนแปลงการนำใหม่ ให้คนอื่นเข้ามาแทน นั่นก็ย่อมหมายถึงบทบาท และ “ปัจจัย” ประเภท “กระสุนดินดำ” ที่เคยเข้ามาไม่อั้นหรือ “ยิ่งสู้ยิ่งรวย” ต่อไปก็จะหายไป เมื่อเป็นแบบนี้คิดหรือว่าเสื้อแดงกลุ่มเก่าจะยอมง่ายๆ

ดังนั้น การชุมนุมใหญ่ในวงจำกัดในวันที่ 10 พฤษภาคมจึงน่าจะเป็นการแสดงพลังให้ “นายใหญ่” ได้เห็นว่ากลุ่มของตัวเองยังมีความสำคัญจะสลัดทิ้งหรือลดความสำคัญลงไม่ได้ง่ายๆ

นอกจากนี้ ประเด็นสำคัญที่จะต้องถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็นหลักก็คือ กดดันให้ฟื้นคืนชีพของสถานี “ดีสเตชั่น” เพราะนอกจากเป็นบ่อเงินบ่อทองแล้วยังเป็นการเพิ่มศักยภาพให้ “3 เกลอ” ในจอทั่วประเทศอีกครั้ง เท่านั้น !!

3เกลอหัวขวด จตุพร-วีระ-ณัฐวุฒิ
กำลังโหลดความคิดเห็น