ข่าวคราวความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงกำลังจัดทัพใหม่ ปรากฏออกมาให้เห็นตรงกัน แม้จะยังไม่ชัดเจนว่า จะออกมาในรูปแบบไหนกันแน่ หรือใครจะเป็นแกนนำหลัก เพราะหลังจากนั้นไม่นานคนที่มีชื่อปรากฏต่างก็รีบออกมาปฏิเสธกันเป็นพัลวัน บางคนถึงขนาดยืนยันกับสังคมว่าตัวเองได้วางมือจากการเมืองแล้ว
แต่เอาเป็นว่า “คนเสื้อแดง” จะต้องมีการจัดทัพใหม่ ปรับรูปแบบเคลื่อนไหวอย่างแน่นอน
ถ้าสำรวจความเคลื่อนไหวอื่นๆในช่วงเวลาเดียวกันก็จะพบเห็นร่องรอยบางอย่างที่ผิดปกติ เริ่มตั้งแต่ข่าวการเพิ่มบทบาทของ “คนเดือนตุลา” อย่างเช่น จาตุรนต์ ฉายแสง นพ.พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช ภูมิธรรม เวชยชัย เกรียงกมล เลาหไพโรจน์ เป็นต้น ให้คนพวกนี้ออกมายืนข้างหน้า แทนที่จะแอบยืนอยู่ข้างเสาเหมือนเมื่อก่อน
ล่าสุด เป็นการออกแถลงการณ์ของ นช.ทักษิณ ชินวัตร ส่งตรงมาถึงสื่อในประเทศเน้นย้ำว่าตัวเองยึดมั่นในสันติวิธีสำหรับการต่อสู้เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยที่แท้จริง พร้อมกับโบ้ยความผิดไปให้ฝ่ายรัฐบาล กล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อให้เกิดความรุนแรงในช่วงเหตุการณ์วันสงกรานต์ที่ผ่านมา
ปัดความรับผิดชอบหน้าตาเฉย !!
แต่ในแถลงการณ์ดังกล่าวหากสังเกตให้ดีก็มีความมุ่งหมายแท้จริงเอาไว้อย่างชัดเจน นั่นคือ การส่งสัญญาณ “ให้คนเสื้อแดงสู้ต่อไป” โดยอ้างอุดมการณ์ประชาธิปไตยบังหน้า
ขณะเดียวกันหลังจากนั้นก็ปรากฏความเคลื่อนไหวอื่นๆที่บังเอิญสอดคล้องกันทันที ไม่ว่าการประกาศชุมนุมใหญ่ในสัปดาห์หน้า ต่อเนื่องกันไปในหลายพื้นที่ และบางแห่งก็มีการระบุวันเวลาชัด
สำหรับในพื้นที่กรุงเทพมหานครล่าสุดยังไม่กำหนดวันที่ แต่มีการประกาศยืนยันออกมาแล้วจาก “แกนนำ 3 เกลอ” คือ วีระ มุสิกพงศ์ ณัฐวุฒิ ใสเกื้อ และ จตุพร พรหมพันธุ์ ว่าชุมนุมคนเสื้อแดงในสัปดาห์หน้าแน่นอน
น่าจับตาก็คือ การชุมใหญ่อีกครั้งมีเจตนาอะไรกันแน่ เพราะบรรดาแกนนำทุกคนที่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวจากกรณียุยงปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ศาลมีเงื่อนไขห้ามยุ่งเกี่ยวกับการชุมนุม หรือมาปลุกระดมอีก
ดังนั้นต้องติดตามดูว่าจะเป็นการขัดคำสั่งศาลหรือไม่
นอกจากนี้ในช่วงสัปดาห์หน้า ถือว่าเป็นสัปดาห์มหามงคล วันที่ 5 พฤษภาคม เป็น “วันฉัตรมงคล” ซึ่งรัฐบาลมีกิจกรรมเทิดพระเกียรติยิ่งใหญ่ แต่แกนนำคนเสื้อแดงที่มี นช.ทักษิณ อยู่ข้างหลัง กลับประกาศชุมนุมใหญ่ ก็ย่อมน่าสงสัยว่ามีเจตนามุ่งหวังอะไรกันแน่
ขณะเดียวกันช่างน่าบังเอิญยิ่งไปกว่านั้นก็คือมีรายงานข่าวที่ยืนยันได้ว่า พจมาน ณ ป้อมเพชร(ชินวัตร) พร้อมลูกๆ ได้เดินทางกลับเข้ามาประเทศไทยเรียบร้อยแล้วเมื่อ 2-3 วันก่อน
และนาทีนี้สังคมก็เริ่มรับรู้แล้วว่าทั้งคู่เพียงแค่ “หย่า” กันแต่เพียงในนามเพื่อเหตุผลบางอย่างเท่านั้น ปัจจุบันทั้งคู่ไม่ได้หันหลังให้กันอย่างที่เคยเข้าใจกัน เมื่อไม่ได้หย่าขาดกันจริง การเดินทางกลับไทยครั้งนี้ของพจมาน ก็ย่อมทำให้สังคมคิดไปต่างๆนานา
ตั้งข้อสงสัยได้ว่าเป็นการกลับมาบัญชาการ จัดทัพเสื้อแดงใหม่เพื่อเปิดเกมสู้อีกรอบหรือไม่
เมื่อประมวลภาพให้เห็นและนำมาปะติดปะต่อกันมันก็ทำให้น่าเชื่อว่า นช.ทักษิณ ชินวัตร ยังไม่ยอมแพ้ แม้ว่า “ศึกวันสงกรานต์” จะพ่ายแพ้ยับเยินจนต้องถอยร่นออกมาจัดทัพกันใหม่
ดังนั้น สัญญาณล่าสุดที่อ่านจากแถลงการณ์ก็มีความหมายให้สู้ต่อไป ก็ต้องรอดูว่าเกมป่วนเมืองครั้งใหม่จะสร้างฉิบหายได้มากแค่ไหน !!