xs
xsm
sm
md
lg

“สาทิตย์” ลั่น “ดีทีวี” ผิดจริงปลุกปั่นรุนแรง ซัดไม่มีใบอนุญาต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกฯ
รมต.คุมสื่อ ปัดปฏิบัติ 2 มาตรฐาน ระหว่าง ดีทีวี กับ เอเอสทีวี เปรียบดีทีวีมีพฤติกรรมปลุกปั่นมวลชนใช้ความรุนแรง หวังร่วมล้มรัฐบาล ผิดอาญาชัดเจน แถมไม่มีใบอนุญาตออกอากาศ ส่วน เอเอสทีวี ไม่มีพฤติกรรมทำผิดกฎหมาย มีใบอนุญาตถูกต้อง เบรกหัวโจกหางแดงปลุกดีทีวี ซัดมีคดีติดตัวทำไม่ได้

วันนี้ (4 พ.ค.) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงถึงกรณีที่รัฐบาลถูกกล่าวหา ว่า มีการปฏิบัติต่อสถานีโทรทัศน์ดีสเตชั่น กับ เอเอสทีวี แบบไม่มีความเท่าเทียม ว่า รัฐบาลไม่เคยที่จะปฏิบัติ 2 มาตรฐานอย่างที่โดนกล่าวหาแต่อย่างใด กรณีของสถานีโทรทัศน์ดีสเตชั่นนั้น ได้มีการกระทำความผิดจริง เห็นได้จากกรณีเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในช่วงวันที่ 8-14 เมษายนที่ผ่านมานั้น เนื้อหาที่ทางสถานีโทรทัศน์ดีสเตชั่นออกอากาศล้วนเป็นเนื้อหาที่มุ่งจะเปลี่ยนแปลงรัฐบาลทั้งสิ้น อีกทั้งยังมีการชักชวนกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อเดินทางไปทำลายการประชุมสุดยอดอาเซียนที่พัทยา โดยใช้ความรุนแรง ความปั่นป่วน และกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อให้เกิดความไม่สงบในราชอาณาจักร ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือว่าเข้าข่ายการกระทำความผิดตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 116 เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นที่จะต้องเข้าดำเนินการต่อสถานีโทรทัศน์ดีสเตชั่น ซึ่งเรื่องดังกล่าวแตกต่างจากกรณีของสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี ที่มิได้มีการชักชวนกลุ่มผู้ชุมนุมไปทำผิดกฎหมายเหมือนดังเช่นสถานีโทรทัศน์ดีสเตชั่น ซึ่งถือว่าไม่ได้ดำเนินการที่จะเป็นการกระทำความผิดตามมาตราดังกล่าว

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ได้ตั้งข้อสังเกตว่าการทำสัญญาเช่าเส้นใยแก้วนำแสงของสถานีโทรทัศน์ดีสเตชั่นกับบริษัททีโอทีมีสิ่งที่ผิดปกติ เนื่องจากโดยปกติการเช่าสายส่งสัญญาณต้องทำสัญญา แต่กรณีนี้ไม่มีการทำสัญญา จึงตั้งข้อสังเกตว่าเนื่องจากในสัญญาข้อ 3 ที่เขียนว่าผู้เช่าหรือผู้ใช้บริการต้องได้รับใบอนุญาตการประกอบอาชีพวิทยุชุมชนหรือสถานีโทรทัศน์จากกรมประชาสัมพันธ์หรือหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง แต่ดีสเตชั่นไม่มีใบอนุญาต เพราะไม่มีหลักฐานการไปขอใดๆ จากคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ดังนั้นจึงน่าสงสัยว่าการเช่าเส้นใยแก้วนำแสงเพื่อส่งสัญญาณดำเนินการโดยถูกต้องหรือไม่ ซึ่งจะต้องติดตามหาความจริงต่อไป

นายสาทิตย์ กล่าวว่า ทั้งนี้ดีสเตชั่นทำหนังสือถึงทีโอทีลงวันที่ 22 ธ.ค. 2551 ขอเช่าสายส่งสัญญาณ ทีโอทีตอบตกลงวันที่ 24 ธ.ค. 2551 ตกลงให้เช่าสัญญาณได้ และวันเดียวกันนี้ดีสเตชั่นทำหนังสือยืนยันกลับไป ทีโอทีจึงสั่งการให้ติดเส้นใยแก้วนำแสง เพื่อนำไป Uplink สัญญาณขึ้นดาวเทียมไทยคม

นายสาทิตย์ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวหาว่าการดำเนินการของรัฐต่อสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวีและดีสเตชั่นมีลักษณะ 2 มาตรฐาน ขอชี้แจงว่าเอเอสทีวีกับดีสเตชั่นแตกต่างกัน ทั้งที่มา ข้อกฎหมาย และวิธีการแพร่ภาพส่งสัญญาณ วิธีปฏิบัติของเจ้าหน้าที่จึงแตกต่างกัน

นายสาทิตย์ กล่าวว่า ดีสเตชันเปิดดำเนินการตั้งแต่มี.ค. 2551 และเปิดอีกครั้งในเดือนม.ค. 2552 จึงอยู่ภายใต้การบังคับของพ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ 2551 ซึ่งให้อำนาจกทช.กำกับดูแล แต่เอเอสทีวีก่อตั้งเดือนมี.ค. 2547 อำนาจการกำกับดูแลจึงยังคงอยู่ที่กรมประชาสัมพันธ์ ดังนั้นถ้าดีสเตชันจะทำให้ถูกต้องตั้งแต่ต้นต้องขออนุญาตกับกทช.ก่อน

นายสาทิตย์ กล่าวว่า ส่วนวิธีการแพร่ภาพออกอากาศก็แตกต่างกัน เอเอสทีวีใช้วิธีส่งสัญญาณจากรถกระจายเสียงและห้องส่งผ่านทางอินเทอร์เน็ต โดยใช้ Gateway ของบริษัท กสท โทรคมนาคม และส่งไป Uplink สัญญาณที่ฮ่องกง ใช้ดาวเทียม NSS6 ซึ่งเป็นดาวเทียมของต่างประเทศ หลังจากนั้นคนไทยในประเทศก็สามารถใช้จานดาวเทียมรับชมได้ เพราะในประเทศไทยไม่มีกฎหมายควบคุมการ downlink สัญญาณดาวเทียม ดังนั้น ดาวเทียมที่มีสัญญาณอยู่เหนือประเทศไทย 100 กว่าดวงนั้น ใครที่มีจานดาวเทียมก็สามารถเปิดรับชมได้

ขณะที่ดีสเตชัน ออกอากาศจากห้องส่งผ่านทางคลื่นไมโครเวพของบริษัททีโอที โดยเช่าสัญญาณเส้นใยแก้วนำแสง ส่งสัญญาณจากทีโอทีไปยังสถานีดาวเทียมภาคพื้นดินของไทยคมที่ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี จากนั้นจึง Uplink สัญญาณไปที่ดาวเทียมไทยคม 5

“ทั้งนี้ กฎหมายไทยควบคุมเฉพาะการ Uplink สัญญาณเฉพาะดาวเทียมของไทย เทมาเซคได้สัมปทานดาวเทียมไทยคมจากไทย จึงอยู่ภายใต้กฎหมายไทย ซึ่งรัฐธรรมนูญมาตรา 63 เขียนชัดว่ากรณีเกิดเหตุฉุกเฉินและจำเป็นรัฐสามารถเข้าดำเนินการส่งสัญญาณภาพใดๆ ได้ จึงเป็นที่มาของช่วงที่ดาวเทียมไทยคมงดแพร่ภาพจากสถานีดีสเตชัน ช่วงการประกาศ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน” นายสาทิตย์ กล่าว

นายสาทิตย์ กล่าวว่า นอกจากนี้เหตุการณ์ไม่สงบช่วงเดือน เม.ย. มีหลักฐานปรากฏชัดเรื่องการแพร่ภาพออกอากาศของดีสเตชัน ว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ที่ระบุว่าผู้ใดกระทำให้ปรากฏเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนถึงขนาดจะก่อความไม่สงบ ตำรวจและกทช.จึงเข้าดำเนินการกับดีสตชัน ส่วนที่นปช.ถามว่าทำไมไม่จัดการเอเอสทีวีด้วย ประเด็นคือเอเอสทีวีไม่ปรากฏการทำผิดตามมาตรา 116 ในเหตุการณ์ช่วงสงกรานต์ รัฐจึงดำเนินการไม่ได้

นายสาทิตย์ กล่าวว่า ส่วนการจะเปิดดีสเตชันใหม่ยังทำได้ แต่ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข 3 ข้อ คือ 1.ใครเปิด เพราะผู้ถูกดำเนินคดีก็ไม่สามารถขออำนาจดำเนินการได้ 2.จะเปิดอย่างไร โดยต้องเลือกว่าจะเป็นวิทยุชุมชน โทรทัศน์ดาวเทียม หรืออะไร ซึ่งก็มีระเบียบวิธีปฏิบัติต่างกัน และ 3.ด้วยวิธีการอะไร ซึ่งขณะนี้มีระเบียบโดยกทช. ดำเนินการอยู่แล้ว การขออนุญาตจึงต้องไปที่กทช. ดังนั้นการจะเคลื่อนไหวใหญ่วันที่ 6 พ.ค. เพื่อเรียกร้องให้รัฐคืนดีสเตชัน คำตอบคือรัฐบาลไม่ได้เก็บ แต่ตำรวจกับกทช.ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งหากสถานีใดทำผิดกฎหมาย รัฐจะต้องไปดำเนินการในลักษณะเดียวกับดีสเตชัน อย่างไรก็ตามในต้นเดือนมิ.ย. ระเบียบของกทช.จะเสร็จเรียบร้อย ถึงตอนนั้นทุกสถานีดาวเทียมจะต้องไปขออนุญาตใหม่อีกครั้ง
กำลังโหลดความคิดเห็น