xs
xsm
sm
md
lg

รบ.จ่อออก กม.หนุนกู้เงินเกินเพดาน สัปดาห์หน้าชัดเจน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
“มาร์ค” เตรียมออกกฎหมายหนุนกู้เงินเกินเพดานให้ “กฤษฎีกา” ดูรายละเอียดออก “พ.ร.ก.หรือ พ.ร.บ.” รวมทั้งรอบการปรับลดงบประมาณปี 53 จำนวน 17 ล้านล้านบาท สัปดาห์หน้าชัดเจน

วันนี้ (29 เม.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจว่า เป็นการรับทราบตัวเลขด้านต่างๆ เช่น การเงิน การคลัง ภาวะแรงงาน ท่องเที่ยว ผลกระทบต่างๆ ที่เกิดขื้นในช่วงที่ผ่านมาโดยรวม ในส่วนของผลกระทบมีตัวชี้วัดบางตัวไม่ทำให้เราต้องตื่นตระหนกตกใจเช่นเรื่องของภาวะแรงงาน ตัวเลขเดือน มี.ค.เบาลง จากช่วงเดือน ก.พ.ที่มีการเลิกจ้าง ลาออกกันมาก แต่รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ จะจับตาดูเรื่องตัวเลขเดือน เม.ย.อีกครั้ง เพราะแง่ตัวเลขการผลิต ภาคส่งออก นำเข้า ยังหนักอยู่ ยกเว้นกรณีของอิเล็กทรอนิกส์ที่เริ่มมีตัวเลขดูดีขึ้นมาบ้าง อย่างไรก็ตาม ได้ให้ทางสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ไปเจาะดูในแง่ตัวเลขเศรษฐกิจภายในที่ได้รับผลกระทบแรงแค่ไหน ส่วนแง่มาตรการ สัปดาห์หน้า วันที่ 6 พ.ค.จะมีการนำเสนอให้ชัดเจนในเรื่องงบประมาณ และการลงทุนกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งที่มาของเงินอีกครั้งหนึ่ง รวมทั้งกรอบการปรับลดงบประมาณ ปี 2553 จำนวน 1.7 ล้านล้านบาทด้วย ซึ่งในการประชุม ครม.วานนี้ ทางกระทรวงพาณิชย์ได้รายงานสินค้าบางตัวที่ราคาแพง เช่น มะนาว เนื้อหมู

เมื่อถามว่า มีแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าที่ราคาแพงหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า กรณีมะนาวทางกระทรวงพาณิชย์ยืนยันว่าเป็นภาวะที่น่าจะเริ่มคลี่คลายลง ขณะเดียวกันจะมีโครงการที่กระทรวงพาณิชย์ทำอยู่ ซึ่งจะลดเรื่องขั้นตอนและต้นทุนทางการตลาด ที่จะแก้ไขปัญหาเช่นเดียวกับราคาหมู ที่มีผลกระทบเวลานี้คือปริมาณการผลิตเวลานี้ลดลง

เมื่อถามว่า ในเรื่องของงบประมาณปี 53 จะมีผลกระทบถึงการไม่ขึ้นเงินเดือนของข้าราชการหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ยังไม่ได้ไปถึงตรงนั้น ตนยังไม่ทราบว่าข่าวมาจากไหน และมีความหมายอะไร เมื่อถามว่า ข้อสังเกตุในครม.ถกเรื่องอะไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ในส่วนงบประมาณ 1.5 ล้านล้าน ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 3 ปี จะมีการนำตัวเลขมาดูว่าประมาณการล่าสุดเมื่องบประมาณการจัดเก็บรายได้เป็นเท่านี้แหล่งเงินอื่นจะมาอย่างไร หากจำเป็นจะต้องมีการหาแหล่งเงินอื่น จะต้องมีการปรับแก้หรือออกกฎหมายอะไร สัปดาห์หน้าจะได้ข้อยุติ

เมื่อถามว่า หมายถึงหนี้สาธารณะอาจจะต้องปรับเปลี่ยนตัวเลข นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า จะไม่เป็นอย่างนั้น จะดูว่าวิธีที่ทำจะไม่ไปแก้กฎหมายหลัก จะทำเหมือนหลายครั้งในอดีตที่มีการออกกฎหมายให้อำนาจรัฐบาลในการกู้เงิน เช่น ช่วงวิกฤตเศรษฐกิจปีที่แล้ว ได้มีการออกกฎหมายให้อำนาจรัฐบาลในการกู้เงิน ปี 2545 ก็มีการออกกฎหมายให้รัฐบาลกู้เงิน (ตามกฎหมายหากรัฐบาลกู้เงินเกินเพดานต้องมีกฎหมายออกมารองรับ) เราจะทำลักษณะคล้ายๆ อย่างนั้น โดยจะต้องมีการกำหนดวงเงินและกรอบเวลาให้ชัดเจนโดยความตั้งใจของตนคือ ในส่วนที่เป็นโครงการที่มาใช้ในการลงทุนเพื่อการพัฒนาต้องให้สภาผู้แทนราษฎรได้เห็นรายละเอียดของโครงการต่างๆ เวลานี้กำลังให้ทางกฤษฎีกาพิจารณาดูว่า ทำได้ในรูปแบบไหนอย่างไร ซึ่งกฎหมายมีทั้ง พ.ร.บ.และ พ.ร.ก. หากจะออกเป็น พ.ร.ก. ก็ต้องดูว่ามีความจำเป็นฉุกเฉินเร่งด่วน อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เท่านั้น

เมื่อถามว่า ตัวเลขเงินกู้เดิมจะเปลี่ยนแปลงไปตามกฎหมายที่จะมีในอนาคตหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ในจำนวนเงิน 1.5 แสนล้านบาท ไม่ใช่เงินกู้ทั้งหมด ส่วนหนึ่งจะเป็นงบประมาณ ส่วนหนึ่งเป็นจีดีพี ส่วนวงเงินกู้จะต้องไปทำตัวเลขออกมา สัปดาห์หน้าจะชัดเจน อย่างไรก็ตาม งบประมาณโครงการใดที่ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์และนโยบายรัฐบาลก็ต้องถูกตัดออกไป ส่วนเงินลงทุนเบื้องต้นจะดูการลงทุนที่ผูกพันมา และต้องเดินต่อ และจะดูโครงการใหม่ตามนโยบาย ส่วนตัวเลขเงินเฟ้อ และเรื่องการบินไทยไม่ได้มีการพิจารณากัน ทั้งนี้เรื่องการบินไทยใกล้จะจบแล้วในเรื่องของโครงสร้าง
กำลังโหลดความคิดเห็น