กกต.นัดชี้ชะตา “บุญจง” กรณีถูก “เรืองไกร” ร้องขาดคุณสมบัติ หลังแจกเงินพร้อมนามบัตร ให้ชาวโคราช 6 พ.ค.นี้ ด้าน “อภิชาต” ยันไม่มียื้อสำนวน แต่กลับซื้อเวลาตั้งอนุฯสอบกรณีสำนวน “นพดล" ถูกเพิกถอนสิทธิ์ จะเข้าข่ายถูกพิจารณายุบเพื่อแผ่นดินหรือไม่
วันนี้ (28 เม.ย.) นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต.กล่าวถึงคำร้องที่ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ขอให้ กกต.ตรวจสอบการสิ้นสมาชิกภาพของ นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มท.สิ้นสุดลงตามมาตรา 106(6) ประกอบมาตรา 266 ของรัฐธรรมนูญ เพราะแจกเงินงบประมาณของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมแนบนามบัตรให้แก่ราษฎรในบ้านพักที่จังหวัดนครราชสีมา ว่า ในที่ประชุม กกต.วันนี้ (28 เม.ย.) จะเปิดซองความเห็นของคณะอนุกรรมการ เพื่อแจกจ่ายสำนวนให้กับ กกต.ทุกคน นำกลับไปศึกษาภายใน 7 วัน โดยคาดว่าจะสามารถนำกลับเข้าพิจารณาในที่ประชุม เพื่อลงมติชี้ขาดได้ในสัปดาห์หน้า ประมาณวันที่ 7 หรือ 8 พ.ค.ทั้งนี้ ขอยืนยันการพิจารณาเรื่องดังกล่าวไม่เคยมีการยื้อคดี หรือได้รับใบสั่งจากฝ่ายใด
ด้าน นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.กล่าวว่า คำร้องเรื่อง นายบุญจง เป็นการร้องเรียนในความผิดเกี่ยวกับการแทรกแซงก้าวก่าย การทำหน้าที่ของข้าราชการประจำ ซึ่งหากสรุปว่า นายบุญจง ผิด ก็จะทำให้ นายบุญจง สิ้นสภาพการเป็นรัฐมนตรี โดยตามขั้นตอน กกต.จะต้องส่งเรื่องให้ประธานสภา ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งเพิกถอนสิทธิ์
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต.กล่าวภายหลังการประชุม กกต.ว่า ประธาน กกต.ได้แจ้งให้ที่ประชุมรับทราบว่าได้รับผลสรุปกรณีดังกล่าวจากคณะอนุกรรมการสืบสวนฯแล้ว และได้เปิดซองสำนวนพร้อมสำเนาเอกสารผลสรุปดังกล่าวให้กับ กกต.ทุกคนไปศึกษาโดยนัดพิจารณาในวันที่ 6 พ.ค.นี้
นายสุทธิพล ยังกล่าวถึงการพิจารณาสถานะการเป็นกรรมการบริหารพรรคเพื่อแผ่นดินของนายนพดล พลซื่อ ถูกศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ว่า ภายหลังจากที่ กกต.ได้ให้ด้านกิจการพรรคการเมืองไปศึกษาข้อกฎหมาย ก็พบว่า ยังมีปัญหาว่า ที่ประชุมใหญ่ของพรรคมีมติเลือกนายนพดล เป็นรองเลขาธิการพรรคจริง แต่ตามกฎหมายก็ระบุเช่นเดียวกันว่า ความเป็นกรรมการบริหารพรรคจะสมบูรณ์ ก็ต่อเมื่อนายทะเบียนพรรคการเมืองตอบรับการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ ทางด้านกิจการพรรคการเมืองมีหน้าที่ในการตรวจสอบคำสั่งของศาลฎีกาเท่านั้น และไม่ได้ทำความเห็นว่านายนพดลมีสภาพการเป็นกรรมการบริหารพรรคในวันที่กระทำความผิดหรือไม่ กกต.จึงมีมติตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมารตรวจสอบกรณีดังกล่าว เพื่อทำความเห็น เสนอต่อ กกต.โดยมีกรอบระยะเวลาทำงานภายใน 30 วัน