“สุริยะใส” เชื่อ มวลชนเสื้อแดงเคลื่อนไหวลำบากขี้น ชี้ เป็นผลพวงจากดำเนินแผนพลาดไปเปิดศึกกับประชาชน ส่งผลทำให้เกิดแรงต้าน ถูกมองเป็นกลุ่มสร้างความเดือดร้อน ทำประชาชนเสียหาย พร้อมเตือนระวังพวก “แดงซ้ายเก่า” เคลื่อนไหวใต้ดิน ป่วนอีก
วันนี้ (25 เม.ย.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง ในวันนี้ (26 เม.ย.) ว่า หลังจากก่อจลาจลในช่วงสงกรานต์แล้วการเคลื่อนไหวกลุ่มเสื้อแดงต้องปรับตัว 360 องศา การเคลื่อนไหวด้านเปิด นัดชุมนุม เดินขบวนแบบเดิมจะทำได้ยากขึ้น ถึงทำได้ก็จะไม่มีพลัง เพราะที่ผ่านมาได้ดำเนินยุทธวิธีโดยเฉพาะการเปิดศึกกับประชาชนด้วยกันในหลายจุด เช่น ตลาดนางเลิ้ง หรือสามเหลี่ยมดินแดง ทำให้พลังความไม่พอใจของพี่น้องประชาชน กลายเป็นแรงต้านที่พุ่งเข้าไปยังกลุ่มเสื้อแดงที่แข็งแกร่งกว่ากลไกรัฐ แม้แต่การใส่เสื้อแดงก็ทำให้คนฝังใจว่าเป็นกลุ่มที่สร้างความเดือดร้อน ก็เห็นว่าระยะหลังไม่ค่อยกล้าใส่เสื้อสีแดงกันแล้ว การที่มวลชนไม่มีสัญลักษณ์ร่วมกันทำให้การควบคุมมวลชนเป็นไปได้ยาก เพราะไม่รู้ว่าใครเป็นใคร
นายสุริยะใส ยังได้วิเคราะห์ยุทธศาสตร์การเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดง ว่า กลุ่มเสื้อแดงแบ่งภารกิจออกเป็น 2 โจทย์ โจทย์แรก คือ เกมของนักเลือกตั้ง บีบให้ยุบสภา ทำทุกอย่างให้กลไกในสภาป่วน จนไปไม่ได้สุดท้ายนายกฯต้องยุบสภา แล้วเลือกตั้งสู้กันใหม่ ซึ่งเกมนี้จะเล่นแรงขึ้น โจทย์ที่ 2 คือ เกมของนักอุดมการณ์นอกสภาก็จะเน้นงานใต้ดินแบบหนึ่งคือบันไดขั้นที่สองของฝ่ายในขบวนทักษิณ ที่ใช้ทักษิณเป็นเครื่องมือมานาน ซึ่งในขั้นแรกทักษิณหมดความหมายไปแล้ว ดังนั้นขั้นที่สองฝ่ายซ้ายเก่าจะสู้ของเขาเอง โดยอาศัยกระแสเสื้อแดงที่ไม่รู้ทัน ขยายประเด็น ขยายแนวร่วมสร้างประเด็นอุดมการณ์ฝ่ายซ้ายขึ้นมา ถ้ารัฐบาลชะล่าใจหรือไหวตัวช้าแบบนี้จะตามไม่ทัน ซึ่งเท่าที่ตนทราบมีคนที่เคลื่อนไหวในเรื่องคอมมิวนิสต์อยู่ไม่น้อย
“คนพวกนี้คิดมาตั้งแต่ดัน พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกฯได้สำเร็จ หลายปีก่อนขณะที่ผมมาร่วมกับพันธมิตรฯแล้วก็ยังมีคนที่เคยอยู่ในระดับนำของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย(พคท.) 2-3 คน ยังแนะนำให้ผมจับมือกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อร่วมสู้กับเขา ซึ่งผมก็ได้เรียนกลับไปว่าเรายืนอยู่คนละวิธีคิดกันแล้ว”