กรมคุ้มครองสิทธิ์ฯ ประสานช่วยเหลือมอบเงินชดเชยให้ครอบครัวผู้เสียชีวิต 2 ราย ย่านนางเลิ้ง ตามกฎหมาย รายละ 1 แสนบาท พร้อมช่วยเหลือฟ้องร้องตามกฎหมาย และคุ้มครองเป็นพยาน ด้าน“พีระพันธุ์” คาดมอบเงินช่วยเหลือได้เดือนหน้า พร้อมประสาน พม.ช่วยเหลือ-เยียวยาเพิ่ม ส่วนการดำเนินการด้านกฎหมายจะให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า กรมฯ ได้ประสานกับญาติผู้เสียชีวิต 2 ราย จากเหตุกราดยิงที่ชุมชนตลาดนางเลิ้ง เมื่อวานนี้ (13 เม.ย.) แล้ว เพื่อเข้าไปให้ความช่วยเหลือ โดยจากเหตุการณ์เบื้องต้น น่าจะเข้าข่ายที่จะได้รับเงินช่วยเหลือตามตามที่กฎหมายบัญญัติว่าผู้ได้รับอันตรายแก่ร่างกายและชีวิต จากการกระทำของผู้อื่นโดยตัวเองไม่เกี่ยวข้อง จะโดยเจตนาหรือประมาท ซึ่งจากเหตุการณ์ครั้งนี้ผู้เสียชีวิตไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการชุมนุมแต่ออกมาปกป้องสิทธิของชุมชน
นางสุวณากล่าวต่อว่าอย่างไรก็ตามจะต้องรอรายงานการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเสนอเข้าสู่คณะกรรมการพิจารณาคาดว่าจะได้รับเงินช่วยเหลือรายละ 100,000บาทนอกจากนี้เวลา16.00น.กรมฯจะส่งเจ้าหน้าที่ไปประสานกับญาติผู้เสียชีวติ ที่วัดแคนางเลิ้ง เพื่อให้การช่วยเหลือในเรื่องการฟ้องร้องดำเนินคดีต่าง ๆตามสิทธิที่สมควรได้รับตามกฎหมายรวมทั้งจะช่วยในการคุ้มครองพยานที่เกี่ยวข้องกับคดีด้วย
ด้านนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) ได้เป็นตัวแทนของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ร่วมพิธีรดน้ำศพผู้เสียชีวิตจากเหตุการปะทะกลุ่มผู้ชุมนุมที่ชุมชนนางเลิ้งเมื่อวานนี้ (13 เม.ย.) คือ นายป้อม ผลพันพัว อายุ 54 ปี และนายยุทธการ ต้อยช้อยชด หรือโต๊ด อายุ 19 ปี ที่ศาลาวงศ์เดือน และศาลาชูจิรวงศ์ วัดสุนทรธรรมทาน หรือวัดแค นางเลิ้ง พร้อมกล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือญาติผู้เสียชีวิตว่า ได้มอบหมายให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ดูแลในเรื่องดังกล่าวเพื่อมอบเงินชดเชยตามสิทธิ กรณีผู้เสียชีวิตจะได้รับเงินชดเชยรายละ 100,000 บาท
"ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว เบื้องต้นมี 4-6 ราย จะได้รับเงินชดเชยตามความรุนแรงของอาการ ส่วนเงินช่วยเหลือจะได้เมื่อไรจะต้องรอผลสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อได้ผลสอบสวนแล้วจะให้กรมคุ้มครองสิทธิฯ เข้าที่ประชุม คาดว่าจะจ่ายเงินได้ไม่เกินเดือนหน้า ทั้งในส่วนเสียชีวิตและบาดเจ็บ"นายพีรพันธุ์กล่าว
นอกจากนี้ ได้ประสานงานไปยังกระทรวงต่าง ๆ เช่น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ว่า มีงบประมาณส่วนใดบ้างที่ช่วยเหลือผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเพื่อบรรเทาและเยียวยา ในส่วนการจับกุมผู้กระทำความผิดนั้น ให้เป็นเจ้าหน้าที่ของตำรวจ หากจับกุมได้แล้วญาติผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บต้องการฟ้องร้อง กระทรวงยุติธรรม จะส่งเจ้าหน้าที่กรมคุ้มครองสิทธิฯ เป็นพี่เลี้ยงในการดำเนินการด้านกฎหมายต่อไป อย่างไรก็ตาม หากพบว่าการกระทำผิดเกี่ยวข้องกับการก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมก็ต้องรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นด้วย
ส่วนชาวบ้านหรือผู้อยู่ในเหตุการณ์ปะทะเมื่อวันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา ให้ข้อมูลว่าผู้ที่กระทำผิดอาจไม่ใช่กลุ่มผู้ชุมนุมนั้น นายพีระพันธุ์ กล่าวว่าจะรับเรื่องไว้พิจารณาและจะนำไปขยายผลต่อไป เพราะการดำเนินการเรื่องนี้ต้องได้รับข้อมูลจากหลายฝ่ายและต้องให้เป็นธรรมกับทุกฝ่าย
สำหรับบรรยากาศพิธีรดน้ำศพทั้ง 2 ศาลามีญาติพี่น้อง เพื่อน ชาวบ้านในชุมชนนางเลิ้ง ร่วมพิธีจำนวนมาก บรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าโศก นอกจากนี้ ยังมี พ.อ.พลภัทร วรรณภักตร์ รองเลขานุการกองทัพบก ในฐานะผู้แทนผู้บัญชาการกองทัพบก พญ.มาลินี สุขเวชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ผู้อำนวยการ และเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลกลาง เป็นตัวแทนของ กทม.มาร่วมพิธีด้วย ส่วนกำหนดการบำเพ็ญกุศลสวดอภิธรรม เริ่มตั้งแต่วันนี้ถึงเสาร์ที่ 18 เมษายนนี้ จากนั้นจะมีพิธีฌาปนกิจศพในวันอาทิตย์ที่ 19 เมษายนนี้
นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า กรมฯ ได้ประสานกับญาติผู้เสียชีวิต 2 ราย จากเหตุกราดยิงที่ชุมชนตลาดนางเลิ้ง เมื่อวานนี้ (13 เม.ย.) แล้ว เพื่อเข้าไปให้ความช่วยเหลือ โดยจากเหตุการณ์เบื้องต้น น่าจะเข้าข่ายที่จะได้รับเงินช่วยเหลือตามตามที่กฎหมายบัญญัติว่าผู้ได้รับอันตรายแก่ร่างกายและชีวิต จากการกระทำของผู้อื่นโดยตัวเองไม่เกี่ยวข้อง จะโดยเจตนาหรือประมาท ซึ่งจากเหตุการณ์ครั้งนี้ผู้เสียชีวิตไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการชุมนุมแต่ออกมาปกป้องสิทธิของชุมชน
นางสุวณากล่าวต่อว่าอย่างไรก็ตามจะต้องรอรายงานการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเสนอเข้าสู่คณะกรรมการพิจารณาคาดว่าจะได้รับเงินช่วยเหลือรายละ 100,000บาทนอกจากนี้เวลา16.00น.กรมฯจะส่งเจ้าหน้าที่ไปประสานกับญาติผู้เสียชีวติ ที่วัดแคนางเลิ้ง เพื่อให้การช่วยเหลือในเรื่องการฟ้องร้องดำเนินคดีต่าง ๆตามสิทธิที่สมควรได้รับตามกฎหมายรวมทั้งจะช่วยในการคุ้มครองพยานที่เกี่ยวข้องกับคดีด้วย
ด้านนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) ได้เป็นตัวแทนของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ร่วมพิธีรดน้ำศพผู้เสียชีวิตจากเหตุการปะทะกลุ่มผู้ชุมนุมที่ชุมชนนางเลิ้งเมื่อวานนี้ (13 เม.ย.) คือ นายป้อม ผลพันพัว อายุ 54 ปี และนายยุทธการ ต้อยช้อยชด หรือโต๊ด อายุ 19 ปี ที่ศาลาวงศ์เดือน และศาลาชูจิรวงศ์ วัดสุนทรธรรมทาน หรือวัดแค นางเลิ้ง พร้อมกล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือญาติผู้เสียชีวิตว่า ได้มอบหมายให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ดูแลในเรื่องดังกล่าวเพื่อมอบเงินชดเชยตามสิทธิ กรณีผู้เสียชีวิตจะได้รับเงินชดเชยรายละ 100,000 บาท
"ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว เบื้องต้นมี 4-6 ราย จะได้รับเงินชดเชยตามความรุนแรงของอาการ ส่วนเงินช่วยเหลือจะได้เมื่อไรจะต้องรอผลสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อได้ผลสอบสวนแล้วจะให้กรมคุ้มครองสิทธิฯ เข้าที่ประชุม คาดว่าจะจ่ายเงินได้ไม่เกินเดือนหน้า ทั้งในส่วนเสียชีวิตและบาดเจ็บ"นายพีรพันธุ์กล่าว
นอกจากนี้ ได้ประสานงานไปยังกระทรวงต่าง ๆ เช่น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ว่า มีงบประมาณส่วนใดบ้างที่ช่วยเหลือผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเพื่อบรรเทาและเยียวยา ในส่วนการจับกุมผู้กระทำความผิดนั้น ให้เป็นเจ้าหน้าที่ของตำรวจ หากจับกุมได้แล้วญาติผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บต้องการฟ้องร้อง กระทรวงยุติธรรม จะส่งเจ้าหน้าที่กรมคุ้มครองสิทธิฯ เป็นพี่เลี้ยงในการดำเนินการด้านกฎหมายต่อไป อย่างไรก็ตาม หากพบว่าการกระทำผิดเกี่ยวข้องกับการก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมก็ต้องรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นด้วย
ส่วนชาวบ้านหรือผู้อยู่ในเหตุการณ์ปะทะเมื่อวันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา ให้ข้อมูลว่าผู้ที่กระทำผิดอาจไม่ใช่กลุ่มผู้ชุมนุมนั้น นายพีระพันธุ์ กล่าวว่าจะรับเรื่องไว้พิจารณาและจะนำไปขยายผลต่อไป เพราะการดำเนินการเรื่องนี้ต้องได้รับข้อมูลจากหลายฝ่ายและต้องให้เป็นธรรมกับทุกฝ่าย
สำหรับบรรยากาศพิธีรดน้ำศพทั้ง 2 ศาลามีญาติพี่น้อง เพื่อน ชาวบ้านในชุมชนนางเลิ้ง ร่วมพิธีจำนวนมาก บรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าโศก นอกจากนี้ ยังมี พ.อ.พลภัทร วรรณภักตร์ รองเลขานุการกองทัพบก ในฐานะผู้แทนผู้บัญชาการกองทัพบก พญ.มาลินี สุขเวชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ผู้อำนวยการ และเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลกลาง เป็นตัวแทนของ กทม.มาร่วมพิธีด้วย ส่วนกำหนดการบำเพ็ญกุศลสวดอภิธรรม เริ่มตั้งแต่วันนี้ถึงเสาร์ที่ 18 เมษายนนี้ จากนั้นจะมีพิธีฌาปนกิจศพในวันอาทิตย์ที่ 19 เมษายนนี้