ส.ส.อ่างทอง ลูกชาย “สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล” ขอแจ้งเกิด อภิปรายโมเมอ้างผู้ชุมนุมเสื้อเหลือง 7 ตุลาฯ ทำผิดเหมือนกันกับม็อบเสื้อแดง ยกวาทะ “ชวน หลีกภัย” ต้องทำให้ทุกคนเท่าเทียมกันทางกฎหมาย จี้นายกฯ พิจารณาปิด ASTV หลังจากปิดดีสเตชั่นของคนเสื้อแดงไปแล้ว พร้อมรับบทร่างทรง “ป๋าเติ้ง” ดันแก้ รธน.มาตรา 237
เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น.วันที่ 23 เม.ย. ในการประชุมร่วมกันของสองสภาเพื่อเปิดอภิปรายทั่วไป นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคชาติไทยพัฒนา บุตรชายของนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติไทย ได้ลุกขึ้นอภิปรายตอนหนึ่งว่า การชุมนุมของคนเสื้อแดงนั้นถือว่าเป็นการชุมนุมที่ขาดสติและผิดกฎหมาย แต่ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 การชุมนุมของคนเสื้อเหลืองก็ถือว่าทำผิดกฎหมายเหมือนกัน
นายภราดรอ้างว่า ตนเห็นเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม เพราะอยู่ในรัฐสภา และพบว่าการชุมนุมของคนเสื้อเหลืองก็อยู่ในสภาพที่ขาดสติเหมือนกับการชุมนุมของคนเสื้อแดงเมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม นายภราดรไม่ได้ให้รายละเอียดว่าการชุมนุมของคนเสื้อเหลือง หรือพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย อยู่ในสภาพขาดสติอย่างไร
นายภราดรอภิปรายต่อว่า สิ่งที่ตนอยากจะให้นายกรัฐมนตรีได้ดำเนินการก็คือ ปฏิบัติต่อผู้ชุมนุมอย่างเท่าเทียม โดยได้อ้างถึงคำกล่าวของนายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ว่า เขาไม่สามารถที่จะทำให้ทุกคนรวยเท่าเทียมกันได้ แต่สามารถทำให้ทุกคนมีความเท่าเทียมกันทางด้านกฎหมาย ดังนั้นเมื่อรัฐบาลปิดดีสเตชั่นของคนเสื้อแดง เพราะมีการปลุกระดมสร้างความแตกแยกแล้ว ก็อยากให้รัฐบาลลองพิจารณาดูอีกสถานีหนึ่งว่าสร้างความแตกแยกและสมควรปิดหรือไม่
หลังจากนั้น นายภราดรได้อภิปรายสนับสนุนไม่ให้มีการยุบสภา โดยบอกว่าถ้ายุบสภาตอนนี้ก็ต้องเลือกตั้งภายใต้กติกาเดิม ซึ่งจะมีปัญหาอีก ดังนั้น ควรจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อน เพื่อให้เกิดความสมานฉันท์ เพราะรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 นั้น เป็นรัฐธรรมนูญที่ไม่มีความยุติธรรม จึงสมควรที่จะแก้ไขมาตราที่ไม่ยุติธรรมก่อน เช่น มาตรา 237 (หากกรรมการบริหารพรรคทำผิดกฎหมายเลือกตั้งต้องยุบพรรคและตัดสิทธิทางการเมืองกรรมการบริหารพรรค)
ทั้งนี้ การเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นแนวทางของนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย ที่ถูกยุบตามมาตรา 237 และถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี โดย ส.ส.เดิมของพรรคได้ย้ายไปอยู่พรรคชาติไทยพัฒนาทั้งหมด ขณะที่นายบรรหารยังคงมีบทบาทต่อพรรคชาติไทยพัฒนาเหมือนเดิม
นายภราดรอภิปรายต่อว่า หลังจากแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว นายกรัฐมนตรีควรเชิญทุกฝ่าย รวมทั้งแกนนำคนเสื้อแดง เช่น นายจตุพร พรหมพันธุ์ ร่วมกันหาทางออกว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร ไม่เช่นนั้นบ้านเมืองจะวุ่นวายไม่หยุด นายกฯ ก็ไปภาคอีสาน ภาคเหนือไม่ได้ นอกจากนี้รัฐบาลควรจะยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินโดยด่วนด้วย