xs
xsm
sm
md
lg

“เพื่อแม้ว” พาสาวเสื้อแดงโผล่แถลงสื่อ อ้างถูกทำร้าย เจอซักถ่มน้ำลายใส่ก่อน กลับว้ากสื่อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายพร้อมพงษ์ นพฤทธิ์ และน.ส.มินตรา โสรส
ส.ส.เพื่อแม้วสุมหัวบิดเบือน จูงสาวเสื้อแดง แถลงข่าวอ้างถูกทหารทำร้ายทั้งที่ไม่ได้ทำอะไร เจอสื่ออยู่ที่ในเหตุการณ์ซักปมถ่มน้ำลายใส่ก่อน ทำ ส.ส.หญิงเมืองปากน้ำ ส่อพฤติกรรอันธพาลไร้วุฒิภาวะ ว้ากสื่อลำเอียงเข้าข้างรัฐบาล แถมตามจิกด่า ทำแถลงข่าวชุลมุน



วันนี้(23 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.00 น. หลังจากที่นางอรุณี ชำนาญญา ส.ส.พะเยา พรรคเพื่อไทย ได้อภิปรายในสภาว่ามีผู้หญิงเสื้อแดงถูกชายฉกรรจ์ทำร้ายกระชากผม จากเหตุการณ์สลายการชุมนุม เมื่อ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา เสร็จสิ้น นางอรุณี พร้อมด้วยนายพร้อมพงษ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.สัดส่วน และส.ส.พรรคเพื่อไทยจำนวนหนึ่ง ได้นำตัวหญิงที่ปรากฏในภาพ โดยระบุว่าชื่อน.ส.มินตรา โสรส มาแถลงข่าวพร้อมภาพประกอบด้วย

โดยนายพร้อมพงษ์ กล่าวว่า วันนี้ได้นำตัว น.ส.มินตรา มายืนยัน เพราะเป็นผู้ได้รับบาดเจ็บจากการกระทำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง พล.อ.ทรงกิตติ จักรบาศก์ ผบ.สส. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. รวมทั้งชายที่กระทำความรุนแรง ที่เป็นผู้กระทำทารุณโหดร้าย ซึ่งการกระทำดังกล่าว นายกฯจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ โดยทางพรรคและทีมกฎหมายของพรรคจะนำตัวนางมินตราและญาติ ไปแจ้งความที่ สน.ดุสิต เพื่อเอาผิดกับบุคคลทั้ง 5 คน ตามกฎหมาย มาตรา 157 ว่าด้วยการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ของข้าราชการการเมืองและข้าราชการประจำ

นายพร้อมพงษ์ กล่าวฝากไปยังนายกฯ และนายสุเทพ รวมถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ให้ช่วยรับรองความปลอดภัยของน.ส.มินตรา ในฐานะพยานปากเอก เนื่องจากที่ผ่านมาถูกกลุ่มบุคคลลึกลับติดตาม หากน.ส.มินตรามีอันเป็นไป นายกฯจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด นายกฯต้องรับผิดชอบด้วยการยุบสภาหรือลาออก ทั้งนี้ตนสงสัยว่าชายคนดังกล่าวที่ทำร้าย น.ส.มินตราเป็นคนในเครื่องแบบหรือไม่ ซึ่งนายกฯ จะต้องตรวจสอบและรับผิดชอบด้วย

ด้านน.ส.มินตรา ได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ในวันเกิดเหตุบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ตนถือธงไปกับผู้หญิงอีกคนหนึ่ง เพื่อไปกราบขอร้องทหารไม่ให้ทำร้ายประชาชน เพราะประชาชนไม่มีอาวุธ แต่ชายคนดังกล่าวในภาพ ได้ถามว่า “ใครให้มึงมา ทักษิณใช่ไหม” ตนจึงได้ตอบไปว่า “มาเพื่อประชาธิปไตย เพราะทหารทำร้ายประชาชนมือเปล่า ฆ่าประชาชน” แล้วชายคนเดิม ได้โต้ตอบว่า “ทหารไม่มีปืน ไม่ฆ่าคน” ตนจึงเถียงว่า “ทหารฆ่าคน เพราะตนอยู่ในเหตุการณ์” ชายคนดังกล่าว กล่าวว่า “มีหลักฐานหรือไม่” ตนจึงบอกว่า “เห็นทั้งปืน ระเบิด มีดสปาต้า” ชายคนดังกล่าว จึงกล่าวว่า “ปากดีนัก” พร้อมกับกระชากผมตนอย่างแรง

น.ส.มินตรา กล่าวต่อว่า ในฐานะที่ตนเป็นประชาชนคนหนึ่ง ตนจึงอยากเจอหน้าและถามชายคนดังกล่าวว่าทำไมต้องทำร้ายตนด้วย หากเป็นแม่ หรือเป็นญาติของเขา เขาจะรู้สึกอย่างไร รวมทั้งทหารที่อ้างว่ามาเพื่อปกป้องประเทศชาติ เมื่อเห็นตนถูกกระทำเช่นนั้น ทำไมจึงไม่ช่วยเหลือ

ผู้สื่อข่าวถามว่าก่อนหน้านี้เคยมีเรื่องบาดหมางกับชายคนดังกล่าวมาก่อนหรือไม่ น.ส.มินตรา กล่าวว่า ไม่เคย ไม่เคยรู้จัก และไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนไม่ทราบว่าเป็นใครมาจากไหน แต่ชายคนนี้ แต่งกายคล้ายสื่อมวลชน และอยู่ในกลุ่มสื่อมวลชนด้วย เมื่อถามต่อว่านางมินตราได้ถุยน้ำลายใส่หน้าชายคนนั้นหรือไม่ น.ส.มินตรา กล่าวว่า ตนยืนยันว่าไม่ได้ทำเช่นนั้น ทั้งนี้ ช่างภาพและผู้สื่อข่าวที่อยู่ในเหตุการณ์ได้ย้ำว่า มีพยานและหลักฐานที่เป็นบุคคลและภาพถ่าย ว่าน.ส.มินตราได้ถมน้ำลายใส่ผู้ชายคนดังกล่าวก่อน น.ส.มินตรา จึงย้ำอีกรอบว่าตนไม่ได้ถม และย้ำว่า “ตนรวยพอ ไม่จำเป็นต้องรับเงินใคร”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างการแถลงข่าวของน.ส.มินตรา ไม่ได้มีสีหน้าเศร้าสลดที่แสดงให้เห็นว่าตนชอกช้ำจากการถูกทำร้าย แต่กลับพูดจาฉะฉาน และมีการเคี้ยวหมากฝรั่งตลอดเวลา อีกทั้งยังไม่กล้าสบตาสื่อมวลชนตลอดการแถลงข่าวอีกด้วย นอกจากนี้ในระหว่างการแถลงข่าว ที่ประชุมร่วมรัฐสภา รัฐบาลได้นำภาพเหตุการณ์ฉบับเต็ม ซึ่งปรากฏชัดว่า ผู้หญิงได้ด่าทอและถ่มน้ำลายจริง

ผู้สื่อข่าวจึงถามว่าทำไมไม่รอให้รัฐบาลชี้แจงให้เสร็จก่อน แล้วจึงมาชี้แจงข้อเท็จจริงกัน จากนั้น นางนฤมล ธารดำรง ส.ส.สมุทรปราการ ตะโกนด่าสื่อมวลชนด้วยความไม่พอใจว่า คุณเป็นใครมาโกรธอะไรพวกเรา เราแค่มาแถลงข่าว ซึ่งผู้สื่อข่าวหลายคนได้พยายามชี้แจงข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร แต่ทาง ส.ส.พรรคเพื่อไทยก็ไม่ยอมรับฟัง ซึ่งทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นและเมื่อผู้สื่อข่าวคนดังกล่าวได้เดินออกจากห้องแถลง เพื่อยุติการโต้เถียง แต่นางนฤมลได้เดินตามออกมา แล้วถามว่า “มันเป็นใคร มันอยู่ไหน” ซึ่งนางนฤมลได้เดินตามหาผู้สื่อข่าวคนดังกล่าว และมายืนมองหน้า หลังจากนั้นการซักกถามก็กลับเข้าสู่ภาวะปกติ โดยผู้สื่อข่าวถามว่า การที่พรรคเพื่อไทยนำบุคคลดังกล่าวมาแถลง หากไม่เป็นความจริงจะรับผิดชอบอย่างไร นายพร้อมพงษ์ ไม่ตอบว่าจะรับผิดชอบอย่างไร และกล่าวเลี่ยงไปเป็นเรื่องอื่น

เมื่อถามว่า ทำไมจึงไม่มีการประสานไปยังรัฐบาล เพื่อขอข้อมูลมาตรวจสอบความถูกต้องก่อนแถลงข่าว นายพร้อมพงษ์ ย้อนถามว่า ขอแล้วจะให้หรือ และตนก็มีหน้าที่เพียงพาคนมาชี้แจง ส่วนรัฐบาลก็มีหน้าที่ตอบและชี้แจงในส่วนของรัฐบาล กลุ่มผู้สื่อข่าวจึงกล่าวว่า หากเป็นเช่นนี้ก็เป็นการเสนอข่าวเพียงด้านเดียว จึงทำให้กลุ่มผู้สื่อข่าวบางส่วนเดินออกจากห้องแถลงข่าว จากนั้นการแถลงข่าวก็ดำเนินการไปตามปกติ จนจบโดยนายพร้อมพงษ์ระบุว่าจะเดินทางไปแจ้งความ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อถึงตรงนี้ได้มีผู้สื่อข่าวหญิงบอกว่า เป็นสถานที่ที่ควรไปที่สุด ทำให้นางเปล่งมณี เร่งสมบูรณ์สุข ส.ส.เลย พรรคเพื่อไทย แสดงความไม่พอใจเป็นอย่างมาก พร้อมพูดเสียงดังว่า “พูดอย่างนี้ได้อย่างไร สื่อไม่เป็นกลาง เข้าข้างกัน” จากนั้นจึงได้เดินตามผู้สื่อข่าวมา พร้อมกับพูดว่า “ทุเรศ นักข่าวไม่เป็นกลาง จะเขียนเข้าข้างก็เขียนไป”จากนั้นผู้สื่อข่าวคนดังกล่าว ได้ชี้แจงว่าไม่ได้ว่าอะไร เพราะสิ่งที่พูดไปก็ถือว่าถูกต้องแล้ว แต่นางเปล่งมณี ก็ยังไม่พอใจอีกซึ่งทำให้บรรดาสื่อมวลชนบอกว่าหากมาแถลงข่าวแล้วไม่ฟังคำถามก็ไม่ควรมาแถลงข่าว จากนั้นผู้สื่อข่าวต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ และสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เกิดการโต้เถียงกันอยู่พักใหญ่
ชักสีหน้าไม่พอใจสื่อมวลชนที่ถามคำถามจี้ใจดำ

สื่อมวลชนพยายามชี้แจงเนื่องจากอยู่ในเหตุการณ์วันดังกล่าว
ตอนแถลงข่าวไม่กล้าสบตาสื่อมวลชนเหมือนมีอะไรปิดบังอยู่


นางเปล่งมณี เร่งสมบูรณ์สุข ส.ส.เลย พรรคเพื่อไทย
สื่อมวลชนต่างช่วยกันลำดับเหตุการณ์ในวันสลายการชุมนุมเสื้อแดง

กำลังโหลดความคิดเห็น