xs
xsm
sm
md
lg

“เทพไท” เย้ย “เพื่อแม้ว” กั๊กข้อมูลไม่กล้าเปิด เชื่อเร่งเตี๊ยมให้สมจริง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายเทพไท เสนพงศ์
“เทพไท” ชี้ “ไอ้ตู่” เดินเข้าซังเตตามกฎแห่งกรรมที่ไม่ยอมเชื่อคำแม่ เย้ยเตรียมส่งข้าวผัดให้หน้าคุก เชื่อหาก “ไข่แม้ว” มีรูปคนตายต้องนำมาโชว์ แต่ปิดเงียบเพราะกำลังเตี๊ยมให้สมจริง ชี้จัดตั้งศูนย์รับแจ้งคนหายแค่แก้เกี้ยว หลังถูกกลุ่มเสื้อแดงรุมด่าเพราะถูกลอยแพ แนะ “เป็ดเหลิม” เร่งเคลียร์ภายในพรรคให้เป็นเอกภาพก่อนประชุมร่วม


วันนี้ (19 เม.ย.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกส่วนตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า กรณีที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ประกาศเอาชีวิตเป็นเดิมพันว่าไม่มีคนเสียชีวิตจากการสลายม็อบเสื้อแดง ขณะที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย พยายามสร้างกระแสมาโดยตลอด ออกมาท้าทาย พร้อมสาบานต่อวัดพระแก้ว และพระสยามเทวาธิราช ตนคิดว่า การที่ ผบ.ทบ.เอาชีวิตออกมาเดิมพันก็นับเป็นเดิมพันที่สูงสุดอยู่แล้ว แต่สำหรับนายจตุพร ตนไม่แน่ใจว่าจะเอาอะไรมาเดิมพัน และขอให้ยุติพฤติกรรมที่เอาสีข้างเข้าถูไปวันๆ เป็นเรื่องจินตนาการของแกนนำ นปช.ที่พยายามสร้างความรุนแรงให้เกิดขึ้น เพราะคนเหล่านี้เชื่อว่าถ้ามีความรุนแรงเกิดขึ้นเมื่อไหร่ รัฐบาลจะเป็นผู้พ่ายแพ้ โดยคิดว่าเหตุการณ์ชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงเหมือนเหตุการณ์ 14 ตุลาบวกกับ 17 พฤษภา ผลสุดท้ายออกมาเป็นกบฏ 26 มีนาฯ ที่มีนายวีระ มุสิกพงศ์ เป็นผู้ต้องหาในขณะนั้น

“ผมอยากขอร้องให้พรรคเพื่อไทยยุติการสร้างข่าวรายวัน เพราะบ้านเมืองกำลังไปในทิศทางที่ดี เราไม่ปิดกั้นในการที่จะเอาภาพมาแสดงตามที่พยายามโอ้อวดไว้ถ้ามีภาพจริงก็ให้แสดงออกมาไม่จำเป็นต้องไปแสดงในสภาฯ เพราะอาจมีข้อจำกัดในการสื่อสาร ผมคิดว่าคนเหล่านี้ถ้ามีภาพคงจะขยายผลออกมาเป็นเรื่องใหญ่โต เชื่อว่าวันนี้ไม่มีที่รอเวลาอยู่มีคนตั้งข้อสงสัยว่ามีการจัดทำข้อมูล จัดฉากตัดต่อเพื่อให้เรื่องดูสมจิงสมจังใช่หรีอไม่”

นายเทพไทกล่าวว่า ส่วนความพยายามสร้างภาพตั้งศูนย์รับแจ้งคนหายคิดว่าเป็นการแก้เกี้ยวทางการเมือง เพราะเหตุการณ์สลายชุมนุมครั้งนี้ถูกมวลชนเสื้อแดงวิพากษ์วิจารณ์แกนนำค่อนข้างมาก เพราะมีการเกณฑ์คนเหล่านี้มาจากต่างจังหวัด สุดท้ายมาลอยแพที่หน้าทำเนียบ วันที่รัฐบาลประกาศให้สลายชุมนุมพวกเขาออกจากที่ชุมนุมไม่ได้จนต้องเป็นภาระของรัฐบาลส่งมวลชนกลับไปพื้นที่ หลังจากนั้นก็ถูกวิจารณ์ว่าคนเหล่านี้ทอดทิ้งไม่สนใจจึงต้องมาตั้งศูนย์ดังกล่าว ทั้งที่รัฐบาลมีหน่วยงานทีเกี่ยวข้องมาดูแล้ว และจนวันนี้ก็ยังไม่เห็นมีการแจ้งว่ามีผู้ตายจากการสลายการชุมนุมแม้แต่คนเดียว อีกทั้งประชาชนเชื่อว่ารัฐบาลมีความโปร่งใสในการสลายการชุมนุมจริง เพราะจากผลโพลร้อยละ 75 เชื่อว่ามีความโปร่งใสและยังเชื่อว่าร้อยละ 65ของผู้มาชุมนุมมาด้วยความบริสุทธิ์ใจเว้นแต่หัวโจกไม่กี่ที่คนที่พยายามสร้างสถานการณ์ขึ้นมา

ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยออกมระบุว่าการที่รัฐบาลยังคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินเพราะต้องการให้คุ้มครองรัฐบาลเอง และพยายามพูดว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินไม่สามารถสร้างความมั่นคงได้โดยอ้าง 3 จังหวัดภาคใต้ที่ประกาศมา 5 ปีแล้วเหตุการณ์ยังไม่จบ นายเทพไทกล่าวว่า สองสถานการณ์ที่หยิบยกมาแตกต่างกัน แต่สาเหตุความวุ่นวายมาจากพวกเดียวกัน กรณีความวุ่นวายจากภาคใต้เกิดขึ้นเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่เหตุการณ์ 13 เม.ย เป็นเพราะลูกสมุนของ พ.ต.ท.ทักษิณ จึงสู้กันไม่ได้ในประเด็นการเคลื่อนไหวและความรุนแรง รัฐบาลทราบดีไม่มีใครอยากให้คง พ.ร.ก.ฉุกเฉินไว้ แต่ก็มีความจำเป็น เมื่อเห็นท่าทีและการเคลื่อนไหวที่ปรากฏชัดของ ส.ส.พรรคเพื่อไทย การประกาศจะเคลื่อนไหวลงใต้ดินของกลุ่มสื้อแดง การประกาศสงครามกลางเมืองของนายจตุพร รวมถึงพฤติกรรมการไล่ล่าเอาชีวิตผู้นำ หากยกเลิกวันนี้สถานการณ์จะเข้าทางเสื้อแดงอีกครั้ง

“นายจตุพรต้องยอมรับความจริงว่า กฎแห่งกรรมมีจริง เพราะไม่เชื่อคำสั่งสอนของแม่ที่ประกาศผ่านสื่อมวลชนให้ยุติการเคลื่อนไหนและให้กลับบ้าน เลิกจาบจ้วงองคมนตรี แต่นายจตุพรไม่เชื่อ วันนี้ผลกรรมได้ตามทันนายจตุพรกำลังเดินเข้าซังเต ขณะที่เจ้านายนั่งเครื่องบินเจ็ต 1500 บินไปมาอย่างมีความสุข”

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ทั้งหมดรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจและพยายามหาทางออกหลายวิถีทาง เช่น การเปิดประชุมรัฐสภาในวันที่ 22-23 เม.ยให้สมาชิกนำข้อมูลมาอภิปราย จะเห็นว่าพรรคเพื่อไทยยังมีความเห็นขัดแย้งในเรื่องนี้ โดยประธานวิปฝ่ายค้านพยายามเอาสถานการณ์ที่ตัวเองเพลี่ยงพล้ำนอกสภามาพูดในสภา แต่ขณะเดียวกัน สมาชิกพรรค เช่น นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่ บอกว่าสถานการณ์เดินมาไกลแล้ว ควรให้ผู้ใหญ่ในพรรคไปสร้างความเป็นเอกภาพภายใน ตนแปลกใจผู้ใหญ่ในพรรคอย่าง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทยไม่ทราบหายไปไหน ถ้าจะมีภาวะผู้นำเป็นถึงหัวหน้าพรรคในอนาคตก็อยากเรียกร้องให้ออกมาแสดงความเป็นภาวะผู้นำและสร้างเอกภาพภายในพรรคให้ได้ก่อนประชุมสภาฯ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนตัวจะยกมือโหวตให้นายจตุพรหรือไม่ นายเทพไทกล่าวว่า การจะโหวตให้หรือไม่ ประเพณีที่เคยปฏิบัติมายังไม่เคยอนุญาตให้ไปถูกดำเนินคดี และนายจตุพรก็ยังไม่เคยแสดงออกว่าจะขอหรือไม่ วันก่อนก็ขอแต่ก็พลิ้วว่าไม่ได้ขอ ตนจะยกให้หรือไม่ต้องฟังเหตุผล และฟังความต้องการของเจ้าตัวก่อน แต่เวลาที่จะปิดสมัยประชุมเหลือเพียง 2-3 สัปดาห์ และการประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 22 เม.ย.นี้คงไม่มีการวาระนี้เข้ามาเพราะเป็นการประชุมร่วม ส่วนสัปดาห์ถัดไปไม่แน่ใจว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะส่งเรื่องมาทันหรือไม่ และถ้ามาแล้วและสัปดาห์ที่ 3 จะบรรจุทันหรือไม่ ซึ่งถ้าบรรจุไม่ทันในกำหนดเวลาดังกล่าวก็ไม่มีผลอะไร เพราะนายจตุพรต้องเดินเข้าห้องขังโดยอัตโนมัติ ตนจะให้คนเอาข้าวผัดไปเยี่ยม แต่ไม่รู้ว่าจะละเมิดศาลหรือเปล่า
กำลังโหลดความคิดเห็น