“พร้อมพงศ์” ร้อง “อภิสิทธิ์” เลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ระบุอ้างมีข้อมูลผู้เสียชีวิต สูญหาย มอบ “พีระพันธุ์” รวบรวมยื่นฟ้องดีเอสไอ-สตช. หลังเลิก พ.ร.ก. ยังมีหน้ามาดูแคลนกล่าวหาขนาดมี พ.ร.ก.ฉุกเฉินยังมีเหตุลอบยิง “สนธิ” กลางกรุง แถมโกหกหน้าตายระบุคนมีสีข่มขู่ญาติคนตายให้รีบเผา หวั่นมีหลักฐาน
วันนี้ (18 เม.ย.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงสรุปยอดจากศูนย์เรื่องราวร้องทุกข์และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการสลายการชุมนุมวันที่ 16-18 เม.ย.ที่ผ่านมา ว่ามีผู้บาดเจ็บ 18 ราย สูญหาย 6 หาย เสียชีวิต 1 ราย ทรัพย์สินเสียหาย 4 ราย แจ้งเบาะแสพร้อมรูปถ่าย 8 ราย อยู่ในระหว่างควบคุมตัว 8 ราย รวม 45 ราย สำหรับผู้สูญหายเป็นรายจังหวัด ดังนี้ จังหวัดอุดรธานี 2 ราย ประจวบคีรีขันธ์ พระ 1 รูป นนทบุรี 1 ราย เพศชาย มหาสารคาม 1 ราย เพศชาย และจังหวัดน่าน 1 ราย ส่วนผู้เสียชีวิต 1 ราย ชื่อนายชัยพร กันทัง จังหวัดแพร่ อายุ 29 ปี ขณะนี้ศพอยู่ที่วัดลาดพร้าว โดย นายสมคิด กันทัง พี่ชาย มาแจ้งที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์และเยียวยาของพรรค และศูนย์ประมวลข้อมูลข่าวสารและแฟ้มภาพ นอกจากนี้ยังมีนายนัฐพงศ์ ปองดี อายุ 23 ปี จังหวัดอุดรธานี ยังไม่ได้มาแจ้งกับพรรคเชื่อว่าทั้ง 2 คนถูกฆ่าตาย โดยทั้ง 2 ได้มาเป็นการ์ดให้กับกลุ่ม นปช.พบศพลอยที่แม่น้ำเจ้าพระยา
นายพร้อมพงศ์กล่าวอีกว่า จากการที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวว่ายินดีให้ความร่วมมือและท้าให้พรรคเพื่อไทยตรวจสอบ เพราะว่าเหตุที่ว่ามีคนเสียชีวิตในการชุมนุมทั้งพรรคประชาธิปัตย์ และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.บอกว่ามาเอาชีวิตเป็นเดิมพัน วันนี้พรรคเพื่อไทยจะรวบรวมเอกสาร หลักฐาน พร้อมรูปถ่ายทั้งหมดมอบให้นายพีรพันธ์ พาลุสุข ฝ่ายกฎหมายพรรค รวบรวมเอกสารต่างๆ เพื่อทำหน้าที่นิติบัญญัติตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ในการใช้อำนาจ ซึ่งฝ่ายกฎหมายจะนำรายละเอียดของ 2 ศพที่พบและผู้สูญหายอีก 6 ราย และจะดำเนินการร้องต่อกระบวนการยุติธรรม เช่น กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรรมาธิการกฎหมายและยุติธรรมสภาผู้แทนราษฎร กรรมาธิการทหารสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจะยื่นเรื่องทันทีหลังยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินขั้นร้ายแรง
โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวอีกว่า ขอเรียกร้องนายอภิสิทธิ์ ในฐานะผู้นำฝ่ายบริหาร ขอให้รีบยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินโดยด่วนเพื่อให้กลไกกระบวนการยุติธรรมได้ดำเนินการและทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อตรวจสอบความโปร่งใสความยุติธรรมคืนสู่สังคมไทย เพราะวันนี้ญาติผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไม่กล้าไปร้องเรียน เพราะหลังไปร้องเรียนในหลายโรงพัก ตำรวจไม่กล้าดำเนินคดี หรือไม่รับแจ้งความ วันนี้ถ้านายอภิสิทธิ์ อยากให้สังคมปรองดอง สมานฉันท์ ต้องยกเลิก พ.ร.ก.และใช้กฎหมายอย่างยุติธรรม โปร่งใส ตรวจสอบได้ และต้องทำอย่างรวดเร็ว เพราะญาติผู้เสียหายต้องการใช้กลไกกระบวรการยุติธรรม แต่ติด พ.ร.ก.
“ญาติคุณชัยพรก็โดนคนที่อ้างว่ามีสีไปข่มขู่ โดนคนของรัฐไปหลอกล่อว่าต้องรีบเผาศพ แม้แต่กรณีการสูญหายของพระ 1 รูป มีข่าวว่าพระเสียชีวิตที่สามเหลี่ยมดินแดง รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ได้ระบุว่ามีการถ่ายทอดสดและมีผู้สื่อข่าวอยู่จำนวนมากนั้น ซึ่งวันที่ 13 เม.ย.ที่มีสลายการชุมนุมที่สามเหลี่ยมดินแดงเวลา ตี 4 กว่า ผู้สื่อข่าวอยู่น้อย ไฟดับ การสลายการชุมนุมวันนั้นเราบอกไม่ได้ว่าใครถูกใครผิด แต่อยากให้กระบวนการยุติธรรมสอบสวน โดยกลไกของรัฐ เพื่อคืนสิทธิ์เสรีภาพและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ให้กับประชาชน ขอเรียนว่าให้นายอภิสิทธิ์ที่อ้างว่ายึดมั่นในนิติรัฐ นิติธรรม รีบพิจารณายกเลิกพ.ร.ก.โดยด่วน อย่าทำเหมือนปากว่าตาขยิบ เพื่อให้ประชาชนไปร้องเรียนต่อหน่วยงานโดยตรง วันนี้เหมือนนายอภิสิทธิ์จับประชาชน จับฝ่ายนิติบัญญัติ สื่อมวลชน เหมือนมัดมือมัดปากเอาไว้” นายพร้อมพงศ์กล่าว
นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า ขนาดมี พ.ร.ก.อยู่นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยังถูกยิง หรือกรณี 3 จังหวัดภาคใต้มี พ.ร.ก.ฉุกเฉินมาหลายปี แต่ยังไม่สามารถทำให้สถานการณ์สงบได้
