เชียงราย – “หางแดงเชียงราย” เจอหมายจับเพิ่มอีก 7 คน “พ่อน้องยิ้ม”นำทีม ตามมาด้วยอดีต ส.จ.ในเครือข่าย – บุ๋ม 24 มิถุนาฯ รวมถึงแกนนำชมรมคนรัก “แม้ว” – นปช.52 คาดมีหมายจับตามออกมาอีกเพียบ ขณะที่แกนนำ นปช.ส่วนกลาง แจ้งเครือข่ายหนีหมายก่อน รอวันรัฐบาลประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ค่อยเดินเครื่องอีกครั้ง
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า วันนี้ (18 เม.ย.) พ.ต.อ.จรัญฌิ์ เริงธรรม ผกก.สภ.เมือง จ.เชียงราย สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายที่เกี่ยวข้องนำหมายจับเพิ่มเติมกระจายไปแจ้งกับแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงที่เคลื่อนไหวปิดถนนและปราศรัยโจมตีในพื้นที่ จ.เชียงราย ระหว่างวันที่ 12-13 เม.ย.ที่ผ่านมา หลังจากช่วงเย็นที่ผ่านมาศาล จ.เชียงราย ได้อนุมัติหมายจับเพิ่มเติมอีก 7 คน จากเดิมที่ออกหมายจับไปแล้ว 3 คนคือนายธนิต บุญญนสินีเกษม นายอรรถกร กันทไชย และ น.ส.พุทธชาติ โกฏิแก้ว
ทั้งหมดถูกหมายจับในข้อหา "ร่วมกันกระทำให้ปรากฎแก่ประชาชนด้วยวาจาโดยวิธีปิดกั้นถนนจราจรอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญหรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นติชมโดยสุจริต เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน และข้อหามั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง และข้อหาจอดรถในลักษณะกีดขวางการจราจร"
สำหรับทั้ง 7 คนที่ถูกออกหมายจับใหม่ครั้งนี้ ก็ถูกกล่าวหาในข้อหาเดียวกันกรณีที่ไปปิดถนนพหลโยธินสายหลักในการเข้าออกเมืองเชียงราย บริเวณสี่แยกแม่กรณ์ ต.แม่กรณ์ อ.เมือง จ.เชียงราย ในช่วงที่มีการระดมคนไปชุมนุมที่กรุงเทพฯ ขณะที่รัฐบาลกำลังเข้าปราบปรามการก่อจลาจล
ประกอบไปด้วยนายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ อดีตกรรมการพรรคไทยรักไทย ซึ่งถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมือง 5 ปีหรืออยู่ในบ้านเลขที่ 111 และเป็นบิดาของ น.ส.วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เชียงราย เขต 2 พรรคเพื่อไทยหรื “น้องยิ้ม” ,นายฉลอง มหาวุฒิ อดีตสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงราย เขต อ.แม่สรวย ,น.ส.จีรนันท์ จันทวงษ์ ,นายทรงธรรม คิดอ่าน และ น.ส.เกษนีย์ ชื่นชม ซึ่งเป็น 3 แกนนำของกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธปไตยเชียงราย ,นายวิทยา ตันติภูวนาท จากชมรมคนรักทักษิณ จ.เชียงราย และนายบุญเลิศ บุญศรี ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของกลุ่ม นปช.เชียงราย 52
นอกจากนี้ ตำรวจอยู่ระหว่างดำเนินการเพื่อขอหมายจับอีกหลายคนที่ก่อเหตุ ทั้งที่สี่แยกแม่กรณ์ หน้าจวนผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ถนนธนาลัย และหน้าโรงแรมแสนภูเพลส ถนนบรรพปราการ อ.เมือง ในข้อหาเดียวกันนี้อีกด้วย
หลายคนที่ถูกออกหมายจับไปแล้วดังกล่าวได้ถูกเสนอให้มีการออกหมายจับซ้ำอีกครั้ง เพราะไปก่อเหตุต่างสถานที่กันพฤติกรรมของกลุ่มคนเสื้อแดงคือได้ไปชุมนุมกันที่หน้าโรงแรมแสนภูเพลสและได้เคลื่อนไปปิดสี่แยกแม่กรณ์ จากนั้นวันต่อมาได้แยกกันไปปิดที่หน้าจวนผู้ว่าราชการ โดยแต่ละจุดมีการขึ้นเวทีปราศรัยของบรรดาแกนนำต่างๆ
ตำรวจระบุว่าการจะมีการออกติดตามหาตัวบุคคลต่างๆ ดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยมีการออกหมายจับไปแล้ว 3 คน แต่ปรากฎว่ามีเพียงนายธนิต คนเดียวที่เข้ามอบตัวกับตำรวจและได้ประกันตัวออกไปสู้คดีแล้ว กระนั้นก็จะใช้วิธีการที่ไม่เร่งรีบเกินไปเพราะเชื่อว่าเมื่อคนเหล่านี้ได้รับทราบก็คงจะให้ความร่วมมือกับตำรวจโดยดี
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ปัจจุบันแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปช.) ที่กรุงเทพฯ ได้แจ้งให้บรรดาแกนนำที่ถูกออกหมายจับดังกล่าวไม่ให้ไปมอบตัวกับตำรวจ โดยให้พยายามหลีกเลี่ยงด้วยวิธีการต่างๆ เพื่อรอให้รัฐบาลได้ยกเลิกการใช้พระราชกำหนดในสถานการณ์ฉุกเฉินที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลก่อน แต่ไม่ได้แจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมว่าให้กระทำดังกล่าวไปทำไม เพราะพื้นที่ต่างจังหวัดอยู่นอกเขตการใช้พระราชกำหนดดังกล่าว