“เนวิน” โผล่พัทยา เฝ้าสังเกตการณ์การชุมนุมกลุ่มเสื้อแดง ยอมรับเป็นห่วงเหตุการณ์บานปลายแน่ ยันรู้สันดานดี วอนอดีตเพื่อนเสื้อแดงคนไทยด้วยกันต้องคุยกัน เตือนอย่าใช้ประเทศชาติเหยื่อการเมือง ปฏิเสธถูกเชื่อมโยงอยู่เบื้องหลังม็อบเสื้อน้ำเงิน
วันนี้ (11 เม.ย.) ที่โรงแรมโคซี่ พัทยา นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน ซึ่งพักค้างแรมอยู่ที่โรงแรมดังกล่าวให้สัมภาษณ์ว่า มาครั้งนี้ไม่มีจุดประสงค์อื่นนอกจากความเป็นห่วง ยอมรับว่าจากการประเมินสถานการณ์ขณะนี้น่าเป็นห่วง ความจริงแกนนำคนเสื้อแดงหลายคนก็เคยทำงานกับตน ก็เข้าใจความรู้สึกกับวิธีคิด แต่การที่ตนมาอยู่ที่พัทยาเพราะหวังว่าถ้ามีอะไรหนักหนาสาหัส ในฐานะที่เคยทำงานด้วยกันก็อยากจะคุยและขอร้องว่าปัญหาภายในประเทศ ควรเป็นเรื่องที่คนไทยคุยกัน และหาวิธี หาทางออกร่วมกัน แต่การประชุมครั้งนี้ถือเป็นหน้าตาของประเทศ ผู้นำประเทศที่มาทั้งหมดไม่ได้เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งอะไรด้วย ดังนั้น มีปัญหาอะไรเราก็ควรจัดการปัญหากันเอง ตามวิถีทางของคนไทย ไม่ต้องการให้ไปกดดันผู้นำต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง การประท้วงที่ไม่พอใจผู้นำนั้นเกิดขึ้นได้ทั่วโลก แต่ก็ไม่มีการกดดันผู้นำต่างประเทศที่เข้ามาในประเทศ
“ผมเป็นห่วงสถานการณ์ อยากขอร้องจริงๆ คนที่เคยทำงานร่วมกันมา มีอะไรก็ขอให้คุยกันจะได้หรือไม่ ก็ขอให้เป็นแค่เรื่องของคนไทย กรุณาอย่าไปกดดันผู้นำต่างประเทศ เพราะสร้างความเสียหายให้บ้านเมือง ส่วนตัวยังคิดว่าม็อบเสื้อแดงกับเสื้อน้ำเงินไม่น่าปะทะกัน เพราะฝ่ายชาวบ้านที่มาช่วยเจ้าหน้าที่ ไม่ประสงค์ที่จะปะทะ เว้นแต่ฝ่ายเสื้อแดงประสงค์จะให้เกิดเหตุ อีกทั้งจะเห็นได้ว่าข้อเรียกร้องก็ได้ยื่นไปกับตัวแทนอาเซียนแล้วว่า ไม่รับรองสถานภาพของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ควรจะกลับไป แต่วันนี้ยังกลับมาอีก แสดงว่าไม่ต้องการให้มีการประชุม” นายเนวิน กล่าว
เมื่อถามว่าหากสถานการณ์รุนแรงจะลงไปเจรจาด้วยตัวเองหรือไม่ นายเนวินกล่าวว่า เขาคงไม่เจรจากับตน แต่อยากขอร้อง “วันนี้ผมไม่มีคุณค่าเพียงพอที่จะไปเจรจาในสายตาของคนเสื้อแดง แต่อยากขอร้องว่าในฐานะที่เป็นคนไทยด้วยกัน ก็อยากขอ สิ่งที่ผมเป็นห่วงในขณะนี้คือความพยายามที่จะให้เกิดสถานการณ์ที่ไม่ปกติ ผมไม่ห่วงการกดดันและเรียกร้องต่อรัฐบาล แต่ห่วงการก่อเหตุที่จะไม่ปกติต่อบ้านเมือง ซึ่งจะเสียหายมาก โดยเฉพาะการท่องเที่ยวของเมืองพัทยา ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลักของไทย และผมคิดว่าการปิดสนามบินสุวรรณภูมิและการปิดเมืองพัทยานั้นก็ไม่แตกต่างกัน เพราะไม่รู้จะกู้ภาพลักษณ์ตรงนี้กลับคืนมาได้อย่างไร”
ผู้สื่อข่าวถามว่าสัญญาณที่จะเกิดม็อบชนม็อบนี้จะแก้ไขอย่างไร นายเนวินกล่าวว่า คงไม่มี เราพยายามหลีกเลี่ยงทุกวิถีทาง ความจริงชุมนุมที่กรุงเทพฯก็ชุมนุมไป แต่การประชุมที่พัทยานี้ไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย อยากถามว่าการชุมนุมเรียกร้องอย่างสันติตามที่กลุ่มคนเสื้อแดงประกาศนั้นมันจริงหรือ ตนไม่ใช่คนของรัฐบาล แต่เป็นคนไทยคนหนึ่ง ที่อยากจะช่วยและหลีกเลี่ยงความรุนแรง
ต่อข้อถามว่ามีการกล่าวหาว่านายเนวินเป็นผู้นำม็อบเสื้อสีน้ำเงินมา นายเนวินกล่าวปฏิเสธว่า “ไม่ใช่ครับ ผมเกี่ยวข้องทั้งเสื้อแดงและเสื้อน้ำเงิน ส่วนใหญ่ก็รู้จักกันทั้งนั้น วันนี้เราต้องยอมรับความเป็นจริงว่า ตำรวจ ทหาร ก็ไม่กล้าจะทำอะไร ทุกวันนี้เป็นเหมือนพิธีกรรม และรูปแบบหนึ่งเท่านั้นในการรักษาความสงบ จะเห็นได้ว่าเมื่อฝูงชนเข้าไปใกล้ เจ้าหน้าที่ก็จะถอยไป เพราะกลัวจะเกิดการกระทบกระทั่ง ดังนั้นการจะเกิดเหตุหรือไม่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าหน้าที่จะมากหรือน้อย แต่ขึ้นอยู่กับแกนนำและผู้ชุมนุมว่าจะเลือกใช้วิธีการใด และประสงค์จะให้เกิดอะไร”
เมื่อถามว่าเมื่อคืนวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้ลงตรวจพื้นที่พร้อมกับนายสุเทพ และ ผบ.ตร. มีการสั่งการอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ นายเนวินกล่าวยอมรับว่า มีการพูดคุยกันบ้าง ตนก็ได้แจ้งถึงประสบการณ์ว่าถ้าตนเป็นฝ่ายผู้ชุมนุมจะเคลื่อนอย่างไร มีกี่ช่องทางที่สามารถทำได้ และก็เป็นไปอย่างที่คาดการณ์ไว้ คือ ก็มีการปิดล้อม 3 ทางเข้าของโรงแรม ไม่ให้ผู้นำประเทศเข้ามาในสถานที่ประชุม สิ่งที่เสื้อแดงทำวันนี้เป็นการสร้างตราบาปให้กับเมืองพัทยาไปอีกนาน
ผู้สื่อข่าวถามว่าแต่นายเนวินเป็นสัญลักษณ์ของกลุ่มเสื้อน้ำเงิน การเดินทางมาครั้งนี้จึงถูกมองว่ามาสั่งการเอง จะแก้ตัวว่าอย่างไร นายเนวินกล่าวว่า “มันเป็นบาปกรรมของผม วันที่สีแดงเคลื่อนก็บอกว่าผมสั่ง วันนี้สีน้ำเงินเคลื่อนก็ผมอีก ก็แล้วแต่เวรกรรม แต่ก็อยากให้เห็นแก่บ้านเมือง อย่าร่วมกันสร้างตราบาปให้คนพัทยาต่อไป” เมื่อถามว่าจะพักอยู่ที่พัทยาจนกว่าการประชุมอาเซียนจะเสร็จสิ้นหรือไม่ นายเนวิน กล่าวว่า ถ้าไม่มีอะไร ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ก็อยากจะกลับ ตนก็อยากเที่ยวสงกรานต์เหมือนกับคนอื่นเหมือนกัน เมื่อถามย้ำว่าสรุปว่าวันนี้มาช่วยงานฝ่ายรัฐบาลใช่หรือไม่ นายเนวินกล่าวปฏิเสธว่าไม่ใช่ แต่มาด้วยความเป็นห่วง
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะเกิดเหตุการณ์ปะทะระหว่างกลุ่มเสื้อแดงกับกลุ่มเสื้อน้ำเงินนั้น นายเนวินได้โทรศัพท์คอยสั่งการ โดยย้ำไม่ให้กลุ่มเสื้อแดงผ่านเข้ามาในบริเวณโรงแรมได้ และสุดท้ายนายเนวินได้นั่งซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างออกไปสังเกตการณ์และสั่งการด้วยตัวเอง