“สนธิ” จวก ตร.เป็นใจม็อบแดงปิดอนุสาวรีย์ฯ แฉ “แม้ว” ป่วนชาติหลังแผนเกี้ยเซี้ยเหลว

“สนธิ” แฉ ตร.นครบาลช่วยวางแผน แท็กซี่สีแดงไม่กี่คัน แต่ปิดอนุสาวรีย์ชัยฯ ป่วนจราจรเมืองกรุงสำเร็จ ระบุ แจกไฟแช็กเตรียมเผาเมือง คืนที่ผ่านมา บังเอิญฝนตก และสถานที่ราชการ-เอกชนรู้ตัว วางระบบป้องกันเข้ม ชี้ พฤติกรรมหัวโจกเสื้อแดงเข้าข่ายกบฏชัด พร้อมเผยเหตุ “นช.แม้ว” จ้างคนเสื้อแดงป่วนหนัก 8-10 เม.ย.หลังประนีประนอมเอาทรัพย์สินคืน-ลบล้างความผิดไม่สำเร็จ ประกาศสงครามประชาชนหวังชัยชนะ คนตายเป็นร้อยเป็นพันก็ไม่แคร์



 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ “Good Morning Thailand”

รายการ “Good Morning Thailand” ดำเนินรายการโดย นายสนธิ ลิ้มทองกุล ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน เวลา 06.00-07.00 น.วันจันทร์ถึงศุกร์ สำหรับวันศุกร์ที่ 10 เมษายน 2552 นี้ นายสนธิ ได้นำข่าวคราวต่างๆ มาวิเคราะห์ถึงเบื้องลึกเบื้องหลังข่าวเช่นเคย


“สวัสดีครับท่านผู้ชม และพ่อแม่พี่น้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย วันนี้วันที่ 10 เมษายน 2552 นี่คือ รายการ Good Morning Thailand เมื่อวานนี้ได้ไปจัดที่ จ.เชียงใหม่ ภาคเหนือ แล้วก็ลงมาถึงกรุงเทพฯ เมื่อวานตอนช่วงบ่ายนิดหน่อย พี่น้องครับจำคำพูดผมได้ไหม ผมบอกว่าอย่างไร ผมบอกว่า วันที่ 8, 9, 10 ให้ลางานหยุดกับบ้านซะ อยู่กับครอบครัว มันไม่รู้เป็นอะไร อะไรที่ผมทำนายไม่ผิดหรอก เหมือนผมทำนายตอนที่ผมขึ้นเวทีที่ อ.เมือง จ.สระบุรี เมื่อ 1-2 เดือนที่แล้ว ที่ผมบอกว่า ทักษิณ ชินวัตร และกลุ่มเสื้อแดงต้องการสร้างสงครามประชาชนขึ้นมา ก็เป็นจริง

พี่น้อง ในขณะนี้ผมจะบอกอะไรให้อย่างหนึ่ง ขณะนี้เป็นภาวการณ์ ถ้าผมจะเล่าเรื่องเมื่อวานนี้ให้ฟังว่า วุ่นวายขนาดไหน ไม่มีประโยชน์หรอกครับ พ่อแม่พี่น้องคงดูโทรทัศน์หลายช่องไปแล้ว คงได้รับฟังการวิเคราะห์ข่าวไปเยอะ ตลอดจนพี่ปอง พี่เก๊ และพี่ต้น รายการยามเช้าริมเจ้าพระยา ซึ่งต่อจากนี้คงมาพูดให้ฟัง หรือเมื่อคืนนี้ดูรายการวิเคราะห์สถานการณ์ร้อน ซึ่งมี คุณวีระ สมความคิด ตลอดจน คุณอัญชลี ไพรีรัก ก็คงจะรับทราบความเคลื่อนไหวแล้ว ไม่มีอะไร เปล่าประโยชน์ที่จะไปพูด

แต่วันนี้เรามาทบทวนความจำอะไรต่ออะไรหลายอย่างกันนิดหนึ่ง ทบทวนเหตุที่เกิดว่าทำไมมันเกิด แล้วจากนี้ไปอะไรจะเกิดขึ้น พี่น้องฟังผมสักนิดเถอะ เมื่อคืนนี้เป็นข่าวซึ่งหนังสือพิมพ์ไม่ได้ลง พ่อแม่พี่น้องที่ไม่ได้เข้าเว็บไซต์ผู้จัดการก็คงไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อคืนนี้มีการพยายามที่จะบุกเข้ามาที่ ASTV มีการขว้างระเบิด แต่เผอิญ ASTV และผู้จัดการเรานั้น เป็นหน่วยงานที่ผ่านศึกสงครามมาตั้งแต่ปี 2548 แล้ว แล้วเราค่อนข้างที่จะเคยชินกับการถูกบุก ถูกขู่ ถูกคุกคาม ถูกทำร้าย และเราก็ได้สู้กลับทุกๆ ครั้งที่มา ไม่ว่าจะเป็นการล่องเรือเอี้ยมจุ๊นลงมาในช่วง 193 วัน แล้วก็ยิงปืน M79 ใส่สถานีโทรทัศน์ หรือว่าแอบใช้บ้านพักตำรวจของ สน.บางยี่ขัน ด้วยการร่วมมือของตำรวจบางคน แล้วก็ยิง M79 มา เราผ่านสงครามนั้นมาแล้ว เราก็พูดอย่างภาคภูมิใจว่า เราได้ยิงโต้ตอบเป็นร้อยเป็นพันนัดเช่นกัน พูดง่ายๆ ว่า ASTV ถึงจะไม่มีกำลังคนเยอะ แต่ทุกคนใจเต็มร้อย อย่าหลงเข้ามาใน ASTV ก็แล้วกัน อย่ามาทำซ่า อย่ามาทำเป็นถ่อยในนี้ ถ้าถ่อยข้างนอก ใครเขาขว้างปา หรือกระสุนปลิวไปโดนก็ช่วยไม่ได้ แต่เมื่อคืนนี้มาเพื่อที่จะทำร้าย ASTV แต่เผอิญการรักษาการของเราเข้มงวดมาก ก็เลยใช้แท็กซี่ขับผ่านไปแล้วก็เอาระเบิดขว้างไปที่ ตรงแถวๆ ปั๊ม ปตท. ซึ่งอยู่ติดกับป้อมพระสุเมรุ ส่งเสียงรบกวนเพื่อที่จะดึงดูดคน จริงๆ ยุทธศาสตร์ของเขาคือ การให้เราออกไปทำร้ายเขา หรือว่าจัดการยิงใส่เขา ถ้ามีอะไรตายหรือเป็นอะไรไป เขาจะได้เอาประเด็นการตายนั้น อาจจะมีการแห่ศพเพื่อเดินไป แต่เรารู้ทัน

ท่านที่จะต้องการมาป่วน เชิญมาได้เลย รับประกันได้ว่าเราไม่ยิงท่านหรอกถ้าท่านอยู่นอกเขตของ ASTV หรือบ้านพระอาทิตย์ แต่ถ้าท่านเข้ามาเมื่อไหร่ท่านถูกข้อหาบุกรุก เพราะฉะนั้นเรามีสิทธิ์ป้องกันตัว ผมไม่รับประกันว่า อะไรจะเกิดขึ้นกับท่านที่เข้ามา มีวิธีหนึ่ง ก็คือ ท่านอาจจะมาเผา ASTV หรือบ้านพระอาทิตย์ เหมือนอย่างที่ท่านได้วางแผนไว้เมื่อวาน ไม่ต้องห่วงครับ ถ้าท่านทำได้ทำไปเลย เพราะว่าเราก็เตรียมตัวไว้พอสมควรข้างใน แต่ท่านเอาให้แน่ใจนะว่า ถ้าท่านเผาแล้วท่านหลุดพ้นออกจากถนนพระอาทิตย์ และถนนพระสุเมรุได้ ผมไม่รู้นะครับว่าใครอาจจะดักท่านอยู่ข้างหน้าถนน กลางๆ ถนน ชาวบ้านแถวนั้นเขามีปืนกันทุกคน เขายิงใส่ท่านผมไม่รับประกัน เพราะฉะนั้นแล้วใครที่จะมาคิดให้ดีๆ ไม่ได้ท้าทาย แต่ว่า สนธิ ลิ้มทองกุล และพนักงาน ASTV ตลอดจน ASTV ไม่ใช่คนที่จะถูกข่มขู่หรือรังแกได้ง่ายๆ พวกเราตายก็ไม่กลัวตาย เจ๊งก็ไม่กลัวเจ๊ง แล้วเราจะไปกลัวอะไรกับเรื่องแบบนี้นะครับพี่น้อง ก็ต้องเล่าให้พี่น้องฟังก่อนว่าเมื่อคืนเกิดเรื่องแล้วที่นี่

พี่น้องครับ เมื่อวานนี้มีอยู่หลายๆ เรื่องที่น่าสนใจมาก ซึ่งเป็นประเด็นที่ผมจะพูดให้ฟังว่า ในข้อเท็จจริงแล้ว นี่คือการกบฏเพื่อล้มล้างระบอบการปกครองที่แท้จริง เรามาเริ่มจากอะไรพี่น้อง เรามาเริ่มจากคำพูด ไม่ว่าจะเป็นแถลงการณ์ ไม่ว่าจะเป็นคำพูดของแกนนำบนเวที คำพูดอะไรต่างๆ พิสูจน์ให้เห็นชัดว่าเขาไม่ได้เรียกร้องแค่นายกฯ อภิสิทธิ์ลาออกเท่านั้นเอง เขาบอกเขาไม่ยอมรับ ไม่ว่าจะหลักนิติรัฐ หรืออะไรก็ตาม ไม่ยอมรับรัฐธรรมนูญ 2550 เขาต้องการล้มมัน เพราะฉะนั้นนี่คือกบฏ เท่านั้นยังไม่พอ หนึ่งในแกนนำเขาคือ ซึ่งเป็นแกนนำทางใต้ คือ นายสุรชัย แซ่ด่าน ประกาศบนเวทีว่า เขาจะปฏิวัติโดยประชาชนโดยปิดถนนป้องกันไม่ให้ทหารเอารถถังออก ยึดธนาคาร เอาเงินมาใช้จ่าย และยึดทีวีบางช่องให้เป็นกระบอกเสียง พี่น้องฟังให้ดีๆ ยึด ปิดถนน นี่มันไม่ใช่การชุมนุมอย่างสันติและอหิงสา

ผมจะทบทวนให้พี่น้องฟังนิดหนึ่ง ทุกครั้งที่พวกเราไปดาวกระจาย เราเคยไปดาวกระจายอภิปราย วิพากษ์วิจารณ์ นายนพดล ปัทมะ ที่กระทรวงการต่างประเทศ พอเราไปเสร็จเราก็กลับ เราเคยไปดาวกระจายที่ถนนสีลม ปี 2549 เราไปเสร็จเราก็กลับ เราไปที่ กกต.เราไปเสร็จเราก็กลับ แต่เราไม่เคยจงใจไปที่ศูนย์กลางของการคมนาคม อย่างเช่น อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พี่น้องรู้หรือไม่ว่า ฝ่ายเสื้อแดงเขามีที่ปรึกษาเป็นตำรวจนครบาล ที่แอบกระซิบเขาบอกว่า ถ้าจะให้กรุงเทพฯ วุ่นวายเป็นอัมพาตนั้นไปที่ไหน พี่น้อง ท่านผู้ชมครับ กระบวนการนี้มีการวางแผนด้วยการสนับสนุนของตำรวจบางส่วน จำนวนน้อย ที่ยังฝักใฝ่กับ นช.ทักษิณ อยู่ แล้วตำรวจพวกนี้คือตำรวจที่ทำร้ายเรามาตลอด ที่น่าเสียใจคือ ยังมีอำนาจอยู่เหมือนเดิม ผมพูดไปทำไมมีเดี๋ยวจะหาว่าผมมีอะไรไม่ถูกกับ ท่านสุเทพ เทือกสุบรรณ แต่ผมจะเรียนให้ท่านทราบว่า ความวุ่นวายทั้งหลายที่เกิดขึ้น โอกาสที่พวกเสื้อแดงทำอะไรได้ทุกอย่างนั้น คนที่ต้องรับผิดชอบและต้องรับไปเต็มๆ คือตัวท่าน คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ที่ดูแลทหารและตำรวจ พี่น้องไม่ต้องไปโทษใครหรอกครับ ท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ได้มอบหมายอำนาจหน้าที่นี้ให้ คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ดูแล แล้วคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ก็ดูแลอย่างที่พวกเราได้เห็น

ท่านผู้ชมครับ ชาติบ้านเมืองอยู่ในช่วงวิกฤต การบริหารงานช่วงวิกฤตนั้นต้องกล้าตัดสินใจ พี่น้องให้รถแท็กซี่เพียง 5-6 คัน ปิดช่องถนนแล้วก็ปิดตาย ผมเกิดมาเพิ่งเคยเห็นว่าแท็กซี่ใหญ่กว่าตำรวจก็จะมีช่วงนี้หละ แท็กซี่ไม่มีวันใหญ่กว่าตำรวจได้หรอกครับ แต่ที่แท็กซี่ใหญ่กว่าตำรวจได้ เพราะว่าตำรวจแอบร่วมมือ จับมือกับแท็กซี่เพื่อให้ป่วนเมือง พี่น้องครับ เมื่อใดก็ตามที่เอารถไปจอดปิดขวางการจราจร ตำรวจมีหน้าที่ต้องยกรถคันนั้นออก เพราะตำรวจอ้างว่า พอจอดรถแล้วทิ้งรถไปเลยไม่รู้เจ้าของรถอยู่ที่ไหน นั่นยิ่งเป็นสาเหตุมากพอที่จะให้ยกรถออกได้เลย ก็ขนาดรถจอดอยู่ตรงเขตห้ามจอด คุณยังเอารถยกมายกไปได้เลย แล้วนี่รถมาขวางการจราจร คุณยิ่งมีสาเหตุจะยกได้ แต่ว่าท่านผู้การตำรวจจราจรก็บอกว่า ขอเจรจาก่อน พี่น้องเริ่มเห็นหรือยัง ว่าคนพวกนี้ พี่น้องครับ รถแท็กซี่ไม่เกิน 100 คัน ทำลายเศรษฐกิจชาติบ้านเมืองได้ โดยตำรวจนั่งเฉยๆ แล้วบอกว่า ขอเจรจาก่อน ถ้าเขาเดินขบวนมาเป็นพันเป็นหมื่น ถนนจำเป็นต้องปิดที่เขาเดินให้เขาเดินได้ สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกต้องปล่อยเขาไป แต่ถ้าเมื่อใดเขามีเจตนาและจงใจ จงใจที่จะปิดการจราจร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปิดศูนย์กลางการจราจร คืออนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเป็นเหมือนขั้วหัวใจที่เส้นเลือดทุกเส้นจะต้องวิ่งผ่านมา ผ่านจากขั้วนี้แล้วไปสู่เส้นอื่นๆ

พี่น้องเราจะไปเปรียบเทียบการไปประท้วงที่สุวรรณภูมิ กับที่เขามาปิดจุดต่างๆ ของกรุงเทพฯ ไม่ได้ เพราะว่าเราไปประท้วงที่หน้าสนามบินสุวรรณภูมิ เราไม่ได้ไปปิดห้ามไม่ให้เครื่องบินขึ้น-ลง คนที่ห้ามไม่ให้เครื่องบินขึ้น-ลงนั้น ขอยืนยันอีกที คือ นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ คนซึ่งเป็นคู่เขยกับ นายวีระ มุสิกพงศ์ ซึ่งอยู่บนเวทีเสื้อแดงทุกวันนี้ คนๆ นี้สั่งปิด การไม่ให้เครื่องบินขึ้น-ลงนั้น ก็คือ การปิดสนามบินนั่นเอง เพราะฉะนั้นเราคือผู้ซึ่งใช้สิทธิ์อันชอบธรรมไปประท้วง เราไม่ได้เอารถไปจอดขวางลานบินเพื่อไม่ให้เครื่องบินขึ้น-ลง ฉันใดฉันนั้น เราก็ไม่เคยเอารถไปปิดถนนตายตัว การตั้งมั่นของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือการประท้วงที่ถูกต้องนั้น ต้องตั้งมั่นอยู่ในหลัก อยู่ทำเนียบรัฐบาลก็อยู่ทำเนียบ อยู่ชมัยมรุเชฐก็อยู่ชมัยมรุเชฐ เมื่ออยู่ตรงนั้นตายตัวแล้ว ตำรวจจราจรเขาจะจัดเส้นทางของเขาไป ให้วนผ่านไป แต่กรณีเมื่อวานนั้นไม่ได้เป็นกรณีการประท้วงโดยสันติ กรณีเมื่อวานเป็นการจงใจให้เกิดความวุ่นวายทั้งกรุงเทพมหานคร พี่น้องครับ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประท้วงมา 193 วัน ที่ทำเนียบรัฐบาลและสะพานชมัยมรุเชฐ การจราจรเป็นไปอย่างปกติสุข จะมีก็อ้อมเล็กน้อยแถวถนน แถวๆ ทำเนียบรัฐบาล แต่ทุกอย่างก็ไปได้ พี่น้องจะเห็นข้อแตกต่าง

เพราะฉะนั้นเมื่อผมเล่ามาถึงตรงนี้แล้ว เจตนารมณ์ของคนเสื้อแดงเริ่มเห็นชัดแล้ว ผมจะเล่าให้ฟัง นี่เข้าหลักทฤษฎีของการที่ฝ่ายซ้ายจัดเชื่อว่าต้องเป็นการปฏิวัติโดยมวลชนและประชาชน และพี่น้องสังเกตอย่าง ผมให้สังเกต รูปร่างหน้าตาของคนที่ถ่ายออกมา ข้อที่ 1 เป็นที่น่าสังเกต 99 เปอร์เซ็นต์ เป็นผู้ชายหมด อันที่ 2 เป็นลักษณะของคนที่อยู่ในชุมชนแออัด และเป็นลักษณะคนกินเหล้าเมายา คือไม่อยากจะพูดว่าเป็นคนชอบหาเรื่องคน แถวคลองเตย นั่งทานเบียร์ทานเหล้า คนพวกนี้ถูกเรียกมาเพื่อจงใจให้เกิดเรื่อง พี่น้องครับต้องเข้าใจ พี่น้องไปเปรียบเทียบกับกลุ่มที่ประท้วงของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พี่น้องจะเห็นผู้หญิง สุภาพสตรีอายุมาก วัยกลางคน สาว นิสิตนักศึกษา คนทำงาน คนที่เก็บขยะทุกๆ เช้าที่ร่วมกับกองทัพธรรม มีทั้งนายแพทย์ พยาบาล หรือแม้กระทั่งหมอฟัน เพราะฉะนั้นแล้วถ้าพี่น้องเห็นลักษณะ หรือที่เขาเรียกว่า โหงวเฮ้ง ของผู้ที่มาประท้วงในกลุ่มเสื้อแดง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มคนซึ่งจะต้องอยู่ตลอดเวลา เป็นลักษณะของคนเกเร คนที่พร้อมจะหาเรื่อง หรือคนที่ได้รับว่าจ้างมา นี่คือ กลุ่มคนที่ถูกวางตัวมา ส่วนที่เหลือนั้นคือกลุ่มชาวบ้านที่นั่งรถบัสมาจากต่างจังหวัด นั่งรถปิกอัพหัวละ 2,000 อยู่ 3 วัน เจ้าของรถปิกอัพได้ 10,000 บาท คนพวกนี้จะเฮไหนเฮนั่น แต่ถึงเวลาจะกลับบ้านกัน จะไม่เข้าใจ

เพราะฉะนั้นพี่น้องจะเห็นว่านี่คือการวางแผนเอาไว้ เมื่อคืนนี้วางแผนที่จะเผาบ้านเผาเมือง มีการแจกไฟแช็ก แต่เผอิญมีอยู่ 2 อย่างที่มันเกิดขึ้น เลยทำให้เขาทำงานไม่ได้สะดวก อย่างแรกคือว่า ฝนมันตก มันเปียก อย่างที่ 2 ก็คือว่า ฝ่ายรัฐบาลและประชาชนรู้ตัว ดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเต็มที่ ถ้า ASTV ยังเข้มงวดอยู่ ไม่เป็นที่น่าประหลาดใจว่า สถานที่ราชการก็จะไม่เข้มงวดเช่นกัน ผมถือโอกาสพูดจาวันนี้ฝากผ่านให้พี่น้องชาว ASTV และ ASTVผู้จัดการ ว่า 2-3 วันนี้ การรักษาความปลอดภัยต้องเข้มงวดมาก ทางเราได้ให้อำนาจผู้อำนวยการฝ่ายรักษาความปลอดภัยไว้เรียบร้อยแล้ว เพราะฉะนั้นแล้วคำสั่งของเขาคือเด็ดขาด ถ้าท่านไม่พกบัตร ติดบัตร ถ้าเขาไม่ให้ท่านเข้าท่านอย่าโกรธ นี่คือช่วงวิกฤต ท่านต้องเห็นใจคนที่เขามาดูแลรักษาความปลอดภัย ที่เขาต้องเสี่ยงชีวิตให้พวกท่าน เพราะฉะนั้นมาตรการทุกอย่างเขากำหนดมาเพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินของเรา กรุณาอย่าเอาความสะดวกสบายของท่านเป็นหลัก แล้วไปเที่ยวต่อว่าเขา ว่าเขา เพราะว่าผมจะไม่เข้าข้างท่านอย่างแน่นอนที่สุด ไม่ว่าท่านจะเป็นหน้าไหนก็ตาม ใน ASTV อย่าหงุดหงิดครับ ให้เกียรติเขา เขาบอกว่าขอดูบัตร ถ้าไม่มีบัตรเขาต้องตรวจสอบอย่างละเอียด เขาไม่รู้จักท่าน เขาไม่รู้ว่าใครจะปลอมตัวเข้ามานะครับ ขอความร่วมมือตรงนี้ แล้วกรุณาอย่าไปนินทาว่าร้ายเขา ต้องขอบคุณเขาซะด้วยซ้ำ เขามาเงินทองเขาก็ไม่ได้รับ ได้ข้าวที่เราจัดให้เขาทานเท่านั้น แต่เขามาด้วยใจ และเราจัดระเบียบไว้อย่างดี

เอาละครับพี่น้องครับ ผมต้องพูดเรื่องนี้ให้ฟังนิดหนึ่ง ผมคิดเรื่องนี้มานานพอสมควร แล้วผมดูความเชื่อมโยง พี่น้องรู้ไหมว่าทำไมเขาต้องโจมตี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อย่างหนักหน่วง เปิดเผยทุกอย่าง ความพยายามของการประนีประนอมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หรือ นช.ทักษิณ มีมานานแล้วพี่น้องไม่ใช่เพิ่งมี เขาพยายามประนีประนอมกับ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เขาพยายามประนีประนอมกับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ บ้านนายปีย์ มาลากุล ที่เอามาพูดบนเวที พี่น้องรู้ความจริงหรือเปล่า ว่า นช.ทักษิณ ก็เคยไปในอดีต ตอนที่เป็นนายกรัฐมนตรี และก่อนเป็นนายกรัฐมนตรี ไปนั่งคุยกัน หลังจากที่ออกไปอยู่ต่างประเทศ ก็ส่งภรรยา คือ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ไปนั่งคุย สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ก็เคยไป สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ก็เคยไป เฉลิม อยู่บำรุง ก็เคยไป สุรยุทธ์ จุลานนท์ ก็เคยไป ท่านชาญชัย ลิขิตจิตถะ ท่านก็เคยไป ท่านอักขราทร ท่านประธานศาลปกครอง ท่านก็เคยไป แม้กระทั่งผมก็เคยไป แต่ไปกันต่างวาระ และก็เรื่องราวไม่เหมือนกัน อย่างที่ผมเคยเรียนให้พ่อแม่พี่น้องฟังว่า ผมไปเพราะว่า คุณปีย์ นายปีย์เชิญให้ผมไปโดยด่วน เมื่อตัวเองบินกลับมาจากบ้านพักที่เชียงราย แล้วก็บอกว่า เสนอให้ผมยุติการชุมนุมในช่วง 193 วันนั้น บอกคำพูดนี้ว่า ยังไงก็ไม่ชนะสนธิ เลิกเถอะเชื่อผม ผมก็ตอบเขาไปว่า ขอบพระคุณครับท่าน แต่ผมทำเช่นนั้นไม่ได้ เพราะว่าผมมาด้วยจิตใจบริสุทธิ์ ผมพูดกับพ่อแม่พี่น้องเขาไว้แล้ว ว่าปัญหาชนะหรือไม่ชนะไม่สำคัญเท่ากับปัญหาเราต้องยืนให้มั่นกับอุดมการณ์และความเชื่อมั่นของเรา แล้วนายปีย์ก็พูดต่อว่า ไม่ต้องกลัว ถ้าสลายกันแล้วเดี๋ยวผมจะคุยกับทักษิณให้ ก็แสดงว่า นายปีย์ มาลากุล ก็รู้จักนายทักษิณดี ก็แสดงว่านายทักษิณ นช.ทักษิณ และเครือข่ายเขา ก็ใช้นายปีย์ มาลากุล เป็นคนกลาง เพราะฉะนั้นคำพูดที่ผมพูดว่า เขาเป็นนกหลายหัวก็ไม่ผิด ถามว่าเป็นนกหลายหัวผิดไหม ไม่ผิดหรอก คนเราสามารถจะคบคนทุกๆ คนได้ ขอให้เรารู้เท่าทันเขา เหมือนผมรู้เท่าทันนายปีย์ ว่าเขากำลังจะให้ผมลง อาจจะปรารถนาดีไม่ต้องการเหนื่อย และไม่ต้องการเห็นประชาชนเดือดร้อน ก็เลยเสนอตัวว่าจะเจรจากับทักษิณให้ ถ้าผมรับก็เป็นปัญหาของผม แต่ผมก็มีสิทธิ์ไม่รับได้ แล้วเขาก็ว่าอะไรผมไม่ได้ และเราก็ไม่ควรจะไปว่าเขา เพราะว่าเขากำลังเสนอตัวมาเป็นคนกลางไกล่เกลี่ย เหมือนกับใครล่ะพี่น้อง เหมือนกับ พล.อ.อู้ด เบื้องบน อดีตลูกรักของป๋า ได้เป็นปลัดกระทรวงกลาโหม ก็เพราะบารมีป๋า พล.อ.อู้ด เบื้องบน ซึ่งลูกชายทำงานอยู่กับ ทักษิณ ชินวัตร เป็นตัวการแอบเอาคุณหญิงพจมาน ชินวัตร เข้าพบป๋า ซึ่งเป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ คนก็อ่านเกมว่า ป๋ารู้เห็นเป็นใจ แต่คนใกล้ชิด พล.อ.เปรม ก็บอกว่า พล.อ.เปรม ไม่รู้เรื่องเลย จู่ๆ อู้ด เบื้องบน ก็พาคุณหญิงพจมานเข้ามา พล.อ.เปรม ก็เลยต้องลงไปรับแขก นั่นก็คือ การเข้าไปเจรจาเพื่อขอประนีประนอม หรืองานศพของคุณแม่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ที่วัดโสมนัส ที่ นช.ทักษิณ ไปร่วมด้วย แล้วเดินเข้าไปยกมือไหว้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ แล้วขอโทษ ขอขมา นั่นก็คือ ภาพที่สื่อมวลชนได้เห็น หรือมีการติดต่อกับ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ช่วงหลังที่รัฐบาลชุดพรรคพลังประชาชนเป็นรัฐบาล มี นายสมัคร สุนทรเวช จำได้ไหมที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน และ นช.ทักษิณ พูดออกมา นช.ทักษิณ บอกเข้าใจกันแล้ว เป็นพี่น้องกัน หรืออีกหลายคน ในช่วงที่พรรคพลังประชาชนเขามีอำนาจ ในช่วงของ นายสมัคร สุนทรเวช ต่อ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ หลายคนที่ภาพดูเหมือนเป็นศัตรูกับ นช.ทักษิณ แต่ออกมาพูดเห็นใจ นช.ทักษิณ เห็นใจหลายๆ เรื่อง เห็นใจเรื่องหนึ่งก็คือ เห็นใจเรื่องทรัพย์ที่ถูกยึด บางคนถึงออกมาปกป้อง กลายๆ ว่า ความจริงแล้วเขาเป็นคนรวยมาก่อนนะ ทั้งที่คนพูดนั้น ในอดีตก็เป็นคนที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของ นช.ทักษิณ และทำไมต้องพูดเช่นนี้ เนื่องจากว่ามีการแอบตกลงกันเอาไว้ มาประนีประนอม พี่เรื่องนี้ช่วยผมได้ นี่ทรัพย์ผมนะ ผมตัดให้เลย 20,000 กว่าล้าน เอาไปพี่ผมขอคืนแค่ 50,000 ล้านเอง

การเจรจากับผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองนั้น บางคนนั้นไม่เอาด้วย อย่าง พล.อ.เปรม ปฏิเสธเด็ดขาด เพราะว่าท่านไม่ยุ่งการเมือง ข้อที่ 1 ข้อที่ 2 ที่สุดก็คือว่า ท่านมีความรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องของรัฐบาล มันเป็นเรื่องของกฎหมาย ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย ด้วยเหตุนี้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ จึงเป็นที่ถูกจงเกลียดจงชังอย่างมาก ท่านจะไปยุ่งได้อย่างไร ก็คุณพาม็อบไปบุกบ้านท่านตั้งแต่ปี 2549 ไปด่าท่านอย่างเสียๆ หายๆ แล้วพอตอนหลัง คุณรู้ว่าคุณกำลังจะมีโอกาสได้กลับมา เพราะว่ารัฐบาลที่ตั้งอยู่ คือรัฐบาลพรรคพลังประชาชน ก็เลยอยากจะประนีประนอม ท่าน พล.อ.เปรม ท่านเป็นคนมีความจำดี เห็นแก่ๆ อย่างนี้ ท่านไม่เคยลืมเลยเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ท่านไม่เคยลืมว่าท่านเคยช่วยชีวิต นายวีระ มุสิกพงศ์ เอาไว้ ท่านไม่เคย แล้วท่านก็ไม่เคยลืมว่า นายวีระ มุสิกพงศ์ เรียกท่านว่าอะไรบนเวทีคนเสื้อแดง ท่านไม่เคยลืม เป็นผม ผมก็ไม่ลืม เป็นพ่อแม่พี่น้องก็ไม่ลืมเช่นกัน

เพราะฉะนั้นถนนทุกสายที่หวังจะได้ประโยชน์จาก นช.ทักษิณ ก็วิ่งเข้าไปเพื่อหาทางประนีประนอมและช่วย นช.ทักษิณ แต่พอเห็นเงื่อนไขของการต้องช่วยแล้วว่าต้องทำอะไรบ้าง ทุกคนก็อึ้งกิมกี่ อึ้งไปทันทีเลย เพราะว่าเงื่อนไขก็ง่ายนิดเดียว ก็คือ 1. ขอคืนทรัพย์ที่ถูกอายัดไป คนที่คิดจะช่วย ก็คิดในใจ เอ๊ะแล้วกูจะไปคืนให้มึงได้ยังไง เพราะว่าเรื่องราวมันอยู่ที่ศาล ศาลอาจจะพูดได้บางคน แต่ส่วนใหญ่พูดไม่รู้เรื่อง เพราะว่าเขาว่าไปตามเนื้อผ้า คงจะลำบาก เขาก็คงนึกในใจว่า เอ๊ะก็คุณเก่งไม่ใช่หรอในเรื่องการซื้อศาล ถ้าคุณเก่งนักทำไมคุณไม่ไปซื้อศาลล่ะเพื่อให้คุณได้ทรัพย์คืน แสดงว่าเรื่องนี้คุณซื้อไม่ได้ เอ๊ะอายัดทรัพย์เหนื่อยเหมือนกันนะ 2.เรื่องยกโทษให้พ้นผิด ตายละงานนี้ มีอยู่ทางเดียวคือต้องขอนิรโทษกรรม ขออภัยโทษ แต่ถ้าขออภัยโทษต้องติดคุกก่อนซิถึงยื่นขอได้ อะก็ไม่ได้อีก เพราะฉะนั้นแต่ละคนฝันหวานที่จะได้เศษส่วนของ 26,000 ล้าน ที่ นช.ทักษิณ รับปากว่าจะเอามาให้ ขอแค่ 50,000 ล้าน ก็เริ่มถดถอย ก็เริ่มทำไม่ได้ หลายคนก็เริ่มทำไม่ได้ พอเริ่มทำไม่ได้แล้วเขาก็เลยหันไปใช้อำนาจทางการเมือง นั่นก็คือ พรรคพลังประชาชน เมื่อไปใช้อำนาจทางการเมือง สมัคร สุนทรเวช ก็ดำเนินการให้เขาตามที่ เนวิน ชิดชอบพูด สำเร็จ ก็คือให้เขากลับมาเมืองไทยได้ ด้วยการก้มลงกราบแผ่นดิน เมื่อเขากลับมาเมืองไทยได้ด้วยการก้มลงกราบแผ่นดิน คำพูดเขาก็พูดในเชิงบวกทันที ว่าเขาพร้อมจะกลับมาสู้คดี เขาเชื่อในกระบวนการยุติธรรม แล้วเขาก็ฝันหวานทันที ว่าพรรคพลังประชาชนเป็นรัฐบาล ใช้อำนาจเสียงข้างมากยกมือเพื่อขอแก้รัฐธรรมนูญ 2550 แก้ 2 มาตรา ข้อที่ 1.เพื่อไม่ให้เขาผิด ก็คือว่ายกเลิกการกระทำของ คมช.ในอดีต ทำให้คดีความต่างๆ ของเขาหมดไป รวมทั้งทรัพย์ที่ถูกยึดนั้นจะได้คืนหมด ที่สำคัญที่สุดฟอกเขาจากคนที่ผิดกลายเป็นคนบริสุทธิ์ ข้อที่ 2.คือ การที่ไม่สามารถจะยุบพรรค ถึงแม้จะใช้พรรคซื้อเสียง กรรมการบริหารพรรคจะซื้อเสียงก็ยุบพรรคไม่ได้ 2 ข้อนี้พี่น้องจำได้หรือเปล่าล่ะ

นี่ผมกำลังทวนประวัติศาสตร์ให้ฟัง แล้วพี่น้องจะเข้าใจเหตุการณ์วันที่ 8 วันที่ 9 วันที่ 10 พอไปถึงตรงนั้น นั่นคือจุดที่พวกเราไม่ยอม พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เลยต้องกลับมารวมตัวกันอีกทีหนึ่ง ในเดือนกุมภาพันธ์ และในเดือนพฤษภาคม วันที่ 25 เราอดรนทนไม่ไหว หลังจากที่เราตักเตือนรัฐบาลไปแล้วว่าอย่าแก้รัฐธรรมนูญ อย่าแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม บริหารชาติบ้านเมืองด้วยความซื่อสัตย์สุจริต 3 ข้อที่เราเรียกร้องไป มันทำให้นายสนธิร่ำรวยขึ้นไหม ก็ไม่ได้ทำให้นายสนธิร่ำรวยขึ้น มันทำให้นายสนธิมีอำนาจขึ้นไหม ก็ไม่มี ก็ยังเป็นไอ้ลูกเจ๊กซกม๊ก วิ่งหาเงินอยู่ทุกเดือนเพื่อมาสนับสนุน ASTV มันทำให้ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง หรือพี่ลองของผมนั้น สามารถจะมีเงินมาเลี้ยงหมาเพิ่มอีกล้านตัวไหม ก็ไม่สามารถ มันทำให้พี่จำลอง ศรีเมือง ของผมบรรลุอรหันต์ นิพพานได้ไหม ก็ไม่สามารถทำได้ มันทำให้ คุณสมศักดิ์ โกศัยสุข มีชื่อเสียงขึ้นมา มีลาภยศไหลเข้ามา แล้วเป็นประธานสภาแรงงานแห่งโลกได้ไหม ก็ไม่ได้อีกเหมือนกัน มันทำให้ คุณพิภพ ธงไชย สามารถมีเงินเข้ามาช่วยมูลนิธิเด็ก อีกสักร้อยล้านพันล้านไหม ก็ไม่มี มันทำให้ อ.สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ สามารถขึ้นมาเป็นรัฐมนตรีได้ไหม ก็ไม่ได้ เพราะฉะนั้นแล้ว สิ่งที่พวกเราทำนั้น เราทำเพื่อส่วนรวม 1.อย่าแก้รัฐธรรมนูญ เหตุผลที่ไม่ให้แก้เพราะว่า การแก้รัฐธรรมนูญ คือ การทำลายหลักนิติรัฐไปหมดสิ้นเลย ก็คือ ยกโทษทุกอย่างที่ทักษิณ และพรรคพวกทำผิด มีใครเขารับได้บ้างตรงนี้ สังคมโลกไม่มีใครเขารับได้

2.อย่าแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม อย่าเที่ยวไปซื้อศาล อย่าเที่ยวไปโยกย้ายตำรวจ อย่าเที่ยวไปบังคับให้เจ้าหน้าที่ทำตามที่ตัวเองต้องการ เหมือนกรณี เอสซี แอสเซท ที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง หรือ เอสซี แอสเซท ที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ที่เข้ามาแทน คุณสุนัย มโนมัยอุดม สั่งไม่ฟ้อง เอสซี แอสเซท นี่คือ หัวใจของเขา เพราะว่าเอสซี แอสเซท คือ แหล่งขุมเงิน ที่เขาใช้เอสซี แอสเซท ไปกว้านซื้อที่จาก ปรส.ในราคาถูกๆ แล้วสมัยนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก็สั่งแก้กฎกติกาของกรมบังคับคดี ซึ่งขึ้นอยู่กับกระทรวงยุติธรรม เพื่อให้การประมูล หรือเพื่อให้การยึดทรัพย์นั้นสามารถจะขายทอดตลาดได้ง่าย และในราคาถูก เอสซี แอสเซท ก็เข้าไปซื้อเก็บเอาไว้ ได้ที่มาเป็นแสนๆ ไร่ ที่อยู่ในที่ทุ่งกุลาร้องไห้ เป็นแสนๆ ไร่ นี่คือที่มาว่า ทำไมถึงจะส่งเสริมให้แขกอาหรับมาทำนาที่เมืองไทย เพราะมีที่นาพร้อมจะขาย รวมทั้งที่ดินราคาถูกแต่เป็นที่ดีๆ ทั้งสิ้น อยู่ในกรุงเทพมหานคร ไม่สงสัยบ้างหรอว่า ทำไมบริษัทบ้านจัดสรรยี่ห้อเอสซีถึงมีโครงการผุดขึ้นมาเต็มที่ ก็เพราะได้ที่ดินมาแบบนี้ แต่ในที่สุดดีเอสไอก็สั่งไม่ฟ้อง อัยการก็สั่งไม่ฟ้อง นี่คือสิ่งซึ่งเราต่อสู้

3.บริหารชาติบ้านเมืองด้วยความโปร่งใส ไม่ใช่จู่ๆ นึกจะสร้างรัฐสภาใหม่ หรือจะทำโครงการอะไรก็ตามที่เลขานายสมัคร นายธีระพล นพรัมภา หรือรองนายกฯ นายสหัส คิดโครงการขึ้นมา เพิ่มวงเงินเข้าไป แล้วจู่ๆ ก็มีรายงานอัยการญี่ปุ่นแจ้งมาว่า บริษัทญี่ปุ่นที่มาทำการก่อสร้างกับ กทม.ระบุชัดว่า มีคนสนิทของ สมัคร สุนทรเวช เรียกเงินเรียกทอง จ่ายไป 200-300 ล้านบาท

ทั้ง 3 เรื่อง ยกเป็นตัวอย่าง นี่คือ สิ่งซึ่งพันธมิตรประชาชนประชาธิปไตยเรียกร้อง ไม่ได้ให้ผมรวย ให้พี่ลองรวย ให้พี่พิภพรวย หรือให้พี่สมศักดิ์รวย หรือให้ อ.สมเกียรติรวย หรือมีตำแหน่ง แต่วันนี้พวกกลุ่มเสื้อแดงเรียกร้องอะไร เรียกร้องการล้มรัฐธรรมนูญ 2550 นี่คือ การกบฏแล้วซิ 2.เรียกร้องให้ปลด พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ นี่คือ การก้าวล่วงพระราชอำนาจพระองค์ท่าน 3.โจมตีประธานองคมนตรีและองคมนตรี นี่คือ การตีวัวกระทบคราด ถ้าวัว คือ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ แล้วคราดคืออะไร คราดก็ต้องเป็นพระเจ้าอยู่หัว เพราะฉะนั้นแล้ว 4.เรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับมา จะกลับมาได้อย่างไรมีคดีอยู่ แสดงว่าต้องล้างคดีให้กลับมา เพราะฉะนั้นกลุ่มคนเสื้อแดงทำทุกวิถีทางโดยการสนับสนุนเงินมาเพื่อที่จะทำให้กับคนที่ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร

พี่น้องจะเห็นได้ชัด ด้วยเหตุนี้การต่อสู้ของ 2 ฝ่ายก็ไม่เหมือนกัน เมื่อทักษิณกลับมาแล้วก็พยายามติดต่อผู้หลักผู้ใหญ่ทุกคน บางคนเห็นแก่เงินแก่ทองก็อยากช่วย แต่พอมาเจอเรื่องของการอันนี้ อันนี้ อันนี้ ทุกคนอึ้ง ก็เลยคิดว่าการแก้ปัญหาแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด คือการแก้รัฐธรรมนูญนั่นเอง เงินทองก็ไม่ต้องเสีย ถ้าจะเสียก็จ่ายกับพวกนี้ ส.ส.ยกมือให้ เสือกมีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มาขวาง เพราะถ้าไม่มีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย วันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เตรียมตัวลงเลือกตั้ง คงจะมีการยุบสภาไปเรียบร้อยแล้ว เพราะมีการแก้รัฐธรรมนูญเรียบร้อยหมดแล้ว ทักษิณ ชินวัตรไม่ผิด ทักษิณ ชินวัตรกลับมาเล่นการเมืองได้ เอาเงินทุ่มลงไป กลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้ง คราวนี้เมืองไทยจะไม่มีอะไรเหลือเลย แม้กระทั่งสถาบันกษัตริย์ และไม่มีพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลอย่างวันนี้ ไม่มีคนอย่าง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ มาเป็นรองนายกรัฐมนตรี คนที่เกลียดพันธมิตรฯ แต่มาได้ดี บุญมาวาสนาส่ง ทับตีนจนบวม เพราะชีวิตของพันธมิตรฯ ที่ตายไป คนที่รังเกลียดไม่อยากจะพบปะ รับหลังก็ด่าพันธมิตรฯ นี่คือ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ

เดี๋ยวพักสักครู่แล้วผมจะกลับไปเล่าเรื่องราว พี่น้องจะได้ร้อยถูกแล้วมันมาจบวันที่ 8, 9, 10 นี่ละครับพี่น้องครับ พักกันสักครู่นะครับ

(เบรก)

พี่น้องครับ เมื่อกี้ ผมเล่าถึงเรื่องที่มีความพยายามที่จะเจรจาต่อรองจากฝ่าย นช.ทักษิณ ไม่ว่าจะเป็นการส่งภรรยา อดีตภรรยาพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ หรือส่งภรรยาต่อรองกับ นายปีย์ มาลากุล ณ อยุธยา เพื่อให้นายปีย์ พูดคุยกับ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รวมจนถึงพลเอกอีกหลายพลเอก แล้วไม่ได้ผล เหตุที่ไม่ได้ผลเพระว่า ความจริงคนพวกนั้น ยกเว้น พล.อ.เปรม อยากช่วย เพราะเงินเยอะ แต่พอมาเจอเงื่อนไขว่าต้องช่วยให้พ้นผิด ช่วยเอาเงินคืนมา ทุกคนถอยหมด ด้วยเหตุนี้ เกมก็เลยพุ่งสู่การเลือกตั้ง ซึ่ง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ก็เข้าทางที่เขาต้องการ คือ เร่งให้มีการเลือกตั้ง อย่างที่ผมเคยพูดจาวิพากษ์วิจารณ์ พล.อ.สุรยุทธ์ไป ท่านผู้ชมกลับไปฟังใหม่ได้ ที่ผมพูดไม่ผิดหรอกครับ ผมเรียนให้ทราบ คนบางคนเสียตัวตอนแก่ ไม่มีราคา พลเอกหลายคนเห็นมาเยอะ เสียผู้เสียคน เมื่อก้าวสู่จุดสูงสุดของชีวิต แทนที่จะรักษาคุณงามความดีไว้ กลับไม่

ด้วยเหตุนี้ เขาจึงหันมาใช้การเมือง เมื่อการเมืองพรรคเขาเลือกตั้งได้ เขาก็แทรกแซงกระบวนการยุติธรรมทันที แก้รัฐธรรมนูญ 2550 เพื่อเอา 40 มาใช้ เพื่อยกเลิกความผิด พวกเราก็ไม่ยอม พวกเราคือใคร ไอ้ลูกเจ๊กอย่างผมคือใคร เหรียญตราไม่เคยได้ ไม่เคยมีสายสะพาย ไม่เคยประชุมออกทีวีจะจัดงานการกุศล แต่พวกเราเห็นว่าสิ่งที่เขาจะทำนั้น มันจะทำให้ชาติ บ้านเมือง เปลี่ยนไปหมด ความผิดจะกลายเป็นถูก คนชั่วจะเดินเต็มถนน คนดีในสังคมจะดีต่อไม่ได้ เพราะดีไม่ได้ดี ต้องทำชั่วแล้วมีเงินถึงจะได้ดี เราก็เลยลุกมาสู้ เมื่อสู้แล้ว การแก้รัฐธรรมนูญก็ไม่ประสบผลสำเร็จ เราต้องสู้กัน 193 วัน เราสู้บนพื้นฐานของการที่ไม่ให้แก้รัฐธรรมนูญ ในขณะความคิดที่จะแก้รัฐธรรมนูญมีตลอดเวลา แต่เหตุผลของการที่ไม่สามารถแก้ไข เพราะว่า เราปักหลักอยู่ 193 วัน และวันที่ 7 ตุลาคม ที่ตายกันหลายคน เพราะเราไม่ยอมให้เข้าประชุมสภาฯ แต่เราไปอย่างสันติ อหิงสา พี่น้อง ดูครับ ดูรูปหน้าตาพ่อแม่พี่น้องที่มาชุมนุกัน เทียบกับพวกเสื้อแดงต่างกันไหม ระหว่างคนมีปัญญา คนมีบ้าน มีครอบครัวที่ดี ที่เป็นคุณงามความดี กับพวกนั่งกินเบียร์ริมถนน เตรียมตัวหาเรื่องทุกคน คนละเรื่องกัน

เพราะฉะนั้น เมื่อเป็นเช่นนี้เขาอยู่ไม่ได้ ที่เขาพลาดใหญ่ที่สุด คือว่าเขาโดนศาลพิพากษาจำคุก 2 ปี ตรงนี้ ที่ทำให้เขาปรับยุทธวิธีใหม่ คือ เขาทั้งเจรจา ขู่ ปลอบ ทีนี้บ้านเมืองเรา มันเป็นบ้านเมืองที่มีคนเก่ง คนกล้าไม่มี หาได้ยาก ความกล้าหาญ บางครั้งสำคัญกว่าเก่ง เพราะเก่งไม่จำเป็นต้องเก่งอะไรมาก ขอให้ตัวเองสามารถใช้ธรรมนำหน้า เมื่อธรรมนำหน้ามันก็เก่งโดยปริยาย ไม่มีอะไรเก่งเกินธรรมพระพุทธเจ้า เมื่อเขาต้องลี้ภัยออกไป เขากลายเป็นนักโทษอาชญากรที่ผิดกฎหมายแล้วหนีคุก หนีศาล และเขาไม่ได้โดนแค่กล่าวหา เขาถูกพิพากษาคดีจนถึงที่สุด เมื่อเขาคิดว่าอยู่ได้ที่อังกฤษ แต่ปรากฏเวรกรรมมีจริง หลังเสวยสุขที่อังกฤษ พอดีขี้ลืม ว่า หลักกฎหมายไทยเมื่อคุณเป็นนายกรัฐมนตรีคุณต้องแจ้ง ป.ป.ช. ว่า คุณมีทรัพย์สินทั้งหมดเท่าไร แล้ว นช.ทักษิณ พูดตลอดว่า เงินทองที่เขามี เขาทำมาสุจริต เขาทำที่ชินคอร์ป มีเอไอเอส มีโน้นนี่ เบ็ดเสร็จมูลค่าชินคอร์ปที่เขาขายไป เขาบอกมี 73,000 ล้าน นั่นคือเงินเขาทั้งหมด

นอกจาก ที่ดินที่แจ้ง ป.ป.ช.แล้ว หลักๆ มีแค่นี้ แต่ปรากฏว่า จนวันนี้ จากคำให้สัมภาษณ์ของเขา จากการที่สื่อต่างประเทศลง จากข้อมูลเท็จจริง ตายห่า นช.ทักษิณ มีเงินอยู่ 418,000 ล้าน ลบจาก 73,000 ล้าน ก็เป็น 345,000 ล้าน คำถามคือ 345,000 ล้าน มาจากไหน ไหนบอกว่า คุณมีแค่นี้ เพราะคุณแจ้ง ป.ป.ช.ว่า มีแค่นี้ และถ้าผมไม่เชื่อคำพูดที่คุณแจ้ง ป.ป.ช.ที่คุณระบุลงไป ว่าข้าพเจ้าขอให้คำรับรองว่า ข้อมูลที่ข้าพเจ้าให้นั้น เป็นความจริงทุกประการ ถ้าผมไม่เชื่อตรงนั้น กฎหมายเมืองไทยก็ไม่มีความหมายใช่ไหม

ตรงนี้ไงพี่น้อง ตรงนี้คือเงินทองที่เขาใช้ และเขาใช้เงินก้อนนี้มาเป็นท่อน้ำเลี้ยงส่งให้แกนนำเขาหลายคน คุณวีระ มุสิกพงศ์ ภรรยาอยู่อังกฤษ ลูกอยู่อังกฤษมีร้านอาหารไทย เอาเงินเอาทองไปลงทุน คุณวีระ จู่ๆ ก็รวยทันทีเหมือนกัน คุณจตุพร พรหมพันธุ์ สมัยก่อน อาหารหลักคือ บะหมี่มาม่า สมัยรามคำแหง สมัยนี้ คุณจตุพร มีรถ มีบ้าน ซื้อเงินสด คุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รายได้ก็ดีขึ้นมา นี่ยังไม่นับนักวิชาการ กับอีกหลายคน รวมถึงข้าราชบริพารองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ตลอดจนทหารบางคน ตำรวจบางคน ภาษิตคนโบราณที่เขาบอกมีเงินก็จ้างผีโม่แป้งได้นั้น อย่าดูถูก เป็นความจริง

ด้วยเหตุนี้ เขามองเห็นว่า เดิมทีการต่อสู้สงครามประชาชนยังไม่เกิด มันเกิดตอนไหน เกิดวันที่ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ จำเป็นต้องออกจากตำแหน่งนายกฯ เพราะการยุบพรรคพลังประชาชน แล้วทำไมเขาถึงโกรธ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ที่เขาเรียก ไอ้ป๊อกซื่อบื้อ และไอ้ป๊อกซื่อบื้อ ก็เรียกไอ้สนธิ ว่า ลูกเจ๊กซกม๊ก เข้าใจรึยังพี่น้อง มันเชื่อมโยงกันหมด ก็เพราะเขาสนิทสนมกับไอ้ป๊อกซื่อบื้อที่เขาด่ามาก ในงานศพของแม่ ก็ได้ข่าวว่า ทำบุญกับไอ้ป๊อกซื่อบื้อ เป็นเลข 7 หลัก 8 หลัก อาจทำเพราะตั้งใจทำจริงๆ แต่ก่อนหน้ามีความสัมพันธ์ยังไง ผมไม่รู้ ผมไม่อยากจะรู้ ผมรู้อย่างเดียวว่า เมื่อประชาชนบนท้องถนนต้องล้มหายตายจากไป จากการฆ่าของตำรวจ พล.อ.อนุพงษ์ นั่งเฉยๆ ไม่ทำอะไร เหมือนเป็นเกมเข้าทางที่ นช.ทักษิณ ต้องการ ไม่ทราบว่ามีการตกลงอะไรรึเปล่า แต่ช่างเถอะ ใครทำเวรกรรมอะไร จะรับเวรกรรมอันนั้นอย่างแน่นอนที่สุด

เพราะฉะนั้น พล.อ.อนุพงษ์ จู่ๆ นช.ทักษิณ ก็กล่าวหา พล.อ.อนุพงษ์ ว่า เป็นตัวการที่บีบบังคับให้พรรคร่วมรัฐบาล ตลอดจน ส.ส.สายเนวิน ชิดชอบ ให้ย้ายพรรคมาร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ตั้งรัฐบาล ตรงนี้แหละ ที่เขาเริ่มวางแผนสงครามประชาชน สังเกตได้ เมื่อเขาเริ่มวางแผนตรงนี้ เริ่มตอนไหน เริ่มวางตอนที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มาเป็นนายกรัฐมนตรี เผอิญไปเอา กษิต ภิรมย์ มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ งูเวลาเจอคนปราบงูจะกลัว เพราะคุณกษิตเป็นคนทำงานเป็น รู้วิธีตามเช็กบิล นช.ทักษิณ นี่คือ ที่มาว่าทำไม พวกเสื้อแดง ส.ส.เพื่อไทย ถล่มคุณกษิตให้เสียผู้เสียคน เฉลิม อยู่บำรุง ออกมาด่าคุณกษิต สุนัย จุลพงศธร ออกมาด่า กษิต ทำทุกอย่างเพื่อสร้างความกดดันให้ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ต้องเปลี่ยนกษิต

สำหรับ สุเทพ เทือกสุบรรณ นช.ทักษิณ ไม่ได้กลัว เพราะเขาสนิทกันมาก และนั่นคือที่มาของการเจรจา ว่า คุณสุเทพ พร้อมเจรจาทุกเมื่อ เมื่อเขาไม่สามารถโค่นกษิตได้ และคุณกษิต ก็ประเภทมีความกล้าหาญ และยังปฏิบัติเป็น ก็กระทำทุกอย่างในแง่กฎหมาย คุณกษิต พูดชัด คุณคือใคร คุณคือนักโทษ เมื่อคุณคือนักโทษ คุณเรียกร้องอะไร คุณไม่มีสิทธิ์ เมื่อคุณกษิตออกมาสวนหมัดตรงนี้ มันก็ทำให้เขารู้ว่า ถ้าเขาไม่รบอย่างเด็ดขาด เขาไม่มีทางถอยอีก นั่นคือ ที่มาของการรวมพล ที่เขารวมพลเป็นครั้งๆ ที่เราเรียกม็อบประจำเดือน เป็นการรวมพลเพื่อกดดัน ระหว่างกดดันก็แอบเจรจา กดดันเจรจา หวังว่า พรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะ นายอภิสิทธิ์ จะกลัว แต่ปรากฏว่า สุภาพบุรุษอังกฤษคนนี้ นักเรียนเก่าอังกฤษไม่กลัว หนักแน่น เขาก็เจาะไปเรื่อย จนกระทั่งเจาะเจอ สุเทพ เทือกสุบรรณ สุเทพ ถึงบอกว่าพร้อมจะเจรจา บินที่ไหนก็ได้

เขาใช้ม็อบเสื้อแดงปะทะครั้งหนึ่ง หายไปครั้งหนึ่ง จนกระทั่งในที่สุดจะมีการตกลงกับใครรึเปล่าไม่รู้ เขาก็พูดกันเลย ว่า ผมจะขนมานะ 90 ผมจะเล่นแรงนะ เพื่อเป็นมูลเหตุให้คุณหาทางเจรจากับผม เพราะว่า เขาไปยึดหลักเมืองไทยมีแต่คนขี้ขลาด เหมือนเขา ไม่กล้าหาญเหมือนเขา และเขาเอาเงินว่านพวกผีที่มาโม่แป้ง เพราะผีถ้าตายไป พันสองพันคน ร้อยสองร้อยคน เขาไม่สนใจ ตายก็ตายไป เหมือนการ์ตูน โอบามาร์ค วันนี้ ผู้จัดการ ASTV เห็นรึยัง อันแรก เป็นรูปโอ๊ค คุณหญิงพจมาน และน้องสาว โทร.มาบอกว่า โอ๊ค เครื่องที่หนูกับน้องๆ บินเทกออฟจากสุวรรณภูมิเมื่อไร บอกพ่อทันที ในนี้ถาม ทำไมครับ พ่อจะได้สั่งม็อบเผาประเทศทิ้งเลย

ผมบอกแล้วว่า การต่อสู้ของเขา เขาตั้งเป้า 3 ระดับ ระดับสุดยอดเขา คือ 1.เขาชนะ คือ เขาฝันเฟื่องว่าเขาระดมคนได้ และเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ปฏิวัติโดยประชาชนเสื้อแดง (รับจ้างมา) ซึ่งพวกที่ปรึกษาฝ่ายซ้ายจัดไม่ได้คิดเรื่องนี้ กลับเชื่อว่า กลุ่มเสื้อแดงเป็นกลุ่มบริสุทธิ์ จริงๆ คือ ส่วนหนึ่งรับจ้างมา อีกส่วนคือ กุ๊ยรับจ้าง มาป่วนเมือง ถ้าเขาชนะตรงนี้ เขาก็ยึดประเทศไทยได้ นั่นคือ รางวัลที่ 1 ที่เขาได้ แต่ถ้าสมมติมีการปะทะกัน แล้วทหารจำเป็นต้องออก และปราบ ถ้ามีการนองเลือด และปราบสำเร็จ เขาก็ถือว่า เขามีข้อต่อรองกับต่างประเทศ ขอลี้ภัยการเมืองทันที เมื่อเขาขอลี้ภัยการเมือง สถานภาพจะเปลี่ยนจากอาชญากรเป็นผู้ลี้ภัยการเมือง เขาเรียกว่า ถูกหวย 2 ตัว

รองลงมาจากสูงสุดของเขา คือว่า เขาสามารถแก้กฎหมายปรองดองแห่งชาติ ที่เขาให้พรรคเขาเองยื่นล่วงหน้า แล้วให้นิรโทษกรรมทุกคนหมด ย้อนจนถึงวันที่ 5 พฤษภา เลยล่วงหน้าไป 5 พฤษภา ทั้งที่ยังมาไม่ถึง เขากะเลยว่า จากวันนี้จนถึง 5 พฤษภา เขาจะทำทุกอย่างให้ฉิบหายหมด ถ้าทุกคนยอม ทุกคนกลัว ก็จะยอมรับกฎหมายปรองดองนี้ จะคลุมถึงวันที่ 5 พฤษภา ทุกคนพ้นผิด และเขาบอก พันธมิตรฯก็พ้นผิดด้วยนะ คุณมีปัญญาเล่นไรผมเล่นไป ถ้าผมต้องติดคุก พันธมิตรฯไม่หนี ไม่เคยคิด นี่คือข้อ 2

สุดท้ายเลย คือ การให้ อภิสิทธิ์ ยุบสภา เพื่อที่จะหวังว่า ทั้งเงิน ทั้งเครือข่าย ตำรวจ ที่ สุเทพ เทือกสุบรรณ ไม่ได้ทำอะไร ยังมีอำนาจ เขาสามารถบริหารจัดการให้เข้ามาเป็นเสียงข้างมาก และเขาจะได้เข้ามาบริหารประเทศต่อ และหาทางแทรกแซงจัดการพันธมิตรฯ ดิ้นรนเพื่อแก้รัฐธรรมนูญ ยุบองคมนตรี ปรับพระมหากษัตริย์ให้เป็นเพียงแค่สัญลักษณ์ นี่คือ สุดท้ายของเขา และล่าสุดข่าวมาว่า เขาแอบเจรจากับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ว่า เขาจะเลิกหมด ขอให้เลิกอายัดทรัพย์เขา ขอให้แก้รัฐธรรมนูญ หรือยุบสภา ซึ่ง พล.อ.อนุพงษ์ ถึงจะเป็นไอ้ป๊อกซื่อบื้อของเขา พอมาเรื่องนี้ซื่อบื้อต่อไม่ได้ เพราะการยุบสภาเป็นอำนาจนายกฯ ถ้านายกฯอภิสิทธิ์ไม่ยอม จะทำยังไงให้ยอม อยู่ที่คุณอภิสิทธิ์ ซึ่งพูดชัดแล้ว ไม่ลาออก ไม่ยุบสภา 2 เรื่องอายัดทรัพย์ อนุพงษ์ จะพูดกับศาลคนไหน พูดไม่ได้

เพราะฉะนั้น ทั้ง 3 ข้อที่ขอมา พล.อ.อนุพงษ์ ทำไม่ได้เด็ดขาด พี่น้องจะเห็นได้ชัด การป่วนขณะนี้ แต่ข้างล่างเจรจาตลอด ไม่มีบันไดจะลงแล้วตอนนี้ ด้วยเหตุนี้ถึงต้องสร้างความวุ่นวาย สร้างความปั่นป่วน สร้างความพินาศฉิบหาย ให้กับประเทศชาติอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ทั้งหมด ทำเพื่อคนๆ เดียว เห็นรึยังพี่น้อง นั่นคือที่มาของ 8-9 10 ผมถึงบอกพี่น้องไง ว่าเราต้องลางานไปพักผ่อน เพราะว่า รัฐบาลชุดนี้มีหน้าที่จัดการปัญหานี้ ทหารมีหน้าที่รักษาความสงบ ความมั่นคง และปกป้องสถาบันกษัตริย์ ชาติ ศาสนา และประชาชน ถ้าทหารไม่ทำหน้าที่นี้ และพันธมิตรฯจะทำแทนได้อย่างไร เราทำแทนไปแล้ว การที่ไม่ให้เขาแก้รัฐธรรมนูญ เราโดนยิงตายไป 10 กว่าศพ โดนแก๊สน้ำตาจนกระทั่งเขาพูดเป็นโจ๊กว่า ไม่มีแก๊สน้ำตาเหลือที่ใช้ เพราะยิงพวกเราหมด พิการอีก 10 กว่าคน และบาดเจ็บอีก 700 กว่าคน

พี่น้องครับ พันธมิตรฯทำหน้าที่ประชาชนผู้รักชาติ รักบ้าน รักเมือง รักศาสน์กษัตริย์ อย่างเต็มที่แล้ว เพราะฉะนั้น ต้องปล่อยให้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รัฐบาลชุดนี้ และไอ้พรรคร่วมทำอะไรกันนะ นั่งอมสากกัน เพราะมันมาร่วมหวังที่จะคุมกระทรวงต่างๆ เพื่อคอร์รัปชั่น นี่คือส่วนหนึ่งของการเมืองเก่าที่ต่อสู้มาตลอด เราไม่ยอมให้มีการคอร์รัปชันกันแบบนี้ เพราะมันลักษณะการเมืองเก่าพี่น้อง

ด้วยเหตุนี้ เราต้องปล่อยให้เขาทำหน้าที่จบซะก่อน เพราะมั่นใจว่า พลังของเราเป็นพลังที่เข้มแข็งที่สุด เพราะอะไร เพราะพลังของเราคือพลังศีลธรรม พลังจริยธรรม ไม่มีใครซื้อเราได้ นอกจากไม่มีใครซื้อเราได้แล้ว เราเอาธรรมนำหน้า

พี่น้องครับ วันนี้ ช้าหน่อย พี่ต้น พี่เก๋ รอหน่อย เพราะวันนี้เป็นวันสำคัญ

พี่น้องหลายท่านถามผมว่า ไอ้ 413,000 ล้าน มันมายังไง เกิดอะไรขึ้น นช.ทักษิณ ถึงมี 413,000 ล้าน ผมจะเล่าให้ฟัง เราเริ่มจากข้อเท็จจริงของการแจ้ง ป.ป.ช.ว่า เขามีเงินเท่าไร แล้วเงินก้อนนี้ กลายเป็น 73,000 ล้าน จากการที่เขาขายหุ้นไป สรุป 73,000 คือ เงินของเขา ที่ปรากฏตามกฎหมายว่า เขามี ปรากฏในหลักฐาน ป.ป.ช. ปรากฏออกมาว่า ตามหลักฐานของ ป.ป.ช.เขามีแค่นี้ ไม่มีอะไรมากกว่านี้ เมื่อไม่มี เขาจะต้องจบแค่นี้ แสดงว่า การที่คุณมีเงินต่างประเทศ แสดงว่าคุณโกง คุณซ่อนไว้ เฉพาะ 73,000 ล้าน เอามาคุยก็ไม่จบ ว่า คุณเริ่มเมื่อปี 44 49,000 ล้านเอง แค่ 4-5 ปี คุณเพิ่มเป็น 73,000 ล้าน เอ้า ช่างมัน ถือว่าบริษัททำงานได้ดี ร่ำรวยมาก ไม่เป็นไร

จู่ๆ คุณโดนอังกฤษถอนวีซ่า และอายัดทรัพย์คุณในอังกฤษ และคุณพูดเอง ให้สัมภาษณ์นิตยสารซีโอ ฉบับวันที่ 12 ประจำเดือนธันวาคม 2551 ปกหนังสือพาดหัวระบุว่า ผู้ลี้ภัยทักษิณ ชินวัตร ทัศนะเกี่ยวกับคน อำนาจ และความยากจน คุณยอมรับว่า รัฐบาลอังกฤษอายัดทรัพย์สินคุณมูลค่า 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ประมาณ 150,000 ล้านบาทไว้ คุณพูดเอง ว่า อังกฤษอายัดทรัพย์คุณ 150,000 บาท 4,000 ล้านเหรียญ คุณลองไล่ตัวเลขดู เอา 73,000 กว่าล้านบาท บวก 150,000 ล้านบาท คุณมี 200,000 กว่าล้านแล้วในกระเป๋าคุณ

ทีนี้เงินคุณไม่ได้หมดแค่นี้ หนังสือพิมพ์ของมาเลเซีย รายงานเมื่อวันที่ 26 ธันวา ว่า ขณะนี้คุณมีทรัพย์สินเหลืออยู่ 500 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 17,500 ล้านบาท เขาบอกว่าที่คุณเหลือเพียงนี้ เพราะคุณลงทุนในหุ้นต่างประเทศ มูลค่า 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และเก็งกำไรน้ำมัน อสังหาริมทรัพย์ แล้วคุณเจ๊ง ทำให้เหลือประมาณ 500 ล้านเหรียญ คุณเจ๊งไป 5,000 ล้านเหรียญ แสดงว่า ก่อนการเก็งกำไร ก่อนคุณขาดทุน คุณมีเงินอยู่ถึง 5,500 ล้านเหรียญสหรัฐ ใช่ไหม นั่นคือ 192,500 ล้านบาท

พี่น้องบวกซิ 73,000 ล้านบาท ที่คุณขายได้ บวกอีก 150,000 ล้านบาท ที่ให้สัมภาษณ์ว่า อังกฤษอายัดไว้ อีก 192,500 ล้านบาท ที่หนังสือพิมพ์มาเลเซีย รายงาน เบ็ดเสร็จ คุณมี 413,000 ล้านบาท เอ้า ตายห่า 413,000 ล้านบาท แต่คุณแจ้ง ป.ป.ช.ว่าแค่หุ้นชินคอร์ป ซึ่งมูลค่าคือ 73,000 ล้านบาท และไอ้เงิน 300,000 กว่าล้านบาท มันโผล่ได้ไง และคุณทำธุรกิจ ส้นตีนไร ตั้งแต่ปี 44 45 46 47 48 และคุณออกไป 49 5 ปีกว่า คุณทำธุรกิจอะไร ที่คุณมีรายได้ กำไรถึง 413,000 ล้านบาท ถ้าไม่โกงชาติบ้านเมือง

เห็นรึยัง พี่น้องเสื้อแดง ผมจะเรียนให้ทราบ หัดใช้ปัญญามั่ง พวกคุณกำลังเป็นเครื่องมือ นช.ทักษิณ เวลาพวกคุณตายบนท้องถนนวันนี้ 100 คน 200 คน หรือกระทั่งพันคนก็ไม่มีความหมายสำหรับเขา คุณคิดหรือว่า เขาจะนั่งรถอีแต๋นหาคุณ ไม่มีทาง คนๆ นี้ ถ้าเชื่อมั่นในสิ่งที่ตัวเองทำ ก็ต้องบอกลูกหลานให้ช่วยกัน เอาลูกมาขึ้นเวทีซิ และไม่ต้องให้ลูกไปไหน ให้อยู่ที่นี่ ไปทำไม ก็ไหนเรียกลูกหลานชาวบ้านออกมาไม่ใช่หรือ

พี่น้องครับ ขอเวลาอีกนิด ความเห็นทางบ้านเยอะมาก คุณเปรมวิภา สิงห์บุรี เมื่อคืนไม่ได้นอนทั้งคืน เพราะสวดมนต์ให้ ASTV ปลอดภัย กราบพระคุณมากครับ / คุณเอื้อ อังกูล กรุงเทพฯ ช่วยกันรณรงค์ไม่นั่งแท็กซี่เสื้อแดง เพื่อให้รู้ว่าทุบหม้อข้าวตัวเอง / คุณพินรดา กรุงเทพฯ พวกริบบิ้นขาว เช่น อ.ปริญญา หายไปไหน ต้องเพิ่มอีกครับ คุณโคทม ด้วย ทำไมไม่เรียกร้องให้คนไข้ คนป่วยที่เดือดร้อนจากการปิดถนน / คนขายล็อตเตอรี่ศรีราชา บอกตอนนี้ชลบุรี มีการจ้างเสื้อแดง 300-500 ให้ไปป่วนงานอาเซียนที่พัทยา / คุณสมศักดิ์ นิวยอร์ก ขอให้นักธุรกิจที่ได้รับผลกระทบช่วยลงขันจัดการแกนนำเสื้อแดง / คุณณัฐ เชียงราย ขอชื่นชมการแถลงของนายกฯ อภิสิทธิ์ ที่ให้วันนี้เป็นวันหยุดราชการ ถือเป็นการแยกปลาจากน้ำ / คุณลำภา จันทบุรี อยากคุณสนธิ ทำนายชะตาประเทศไทยหน่อย กังวลมาก / อีกเยอะจะเลือกสำคัญนะครับ คุณบุญส่ง โคราช ทหารภาค 2 ดู ASTV ทุกคน ขอบคุณครับ / คุณอัจฉรา นครนายก บอกผู้ประกาศข่าวช่อง 3 ผู้หญิง บอกว่า สังคมมีแต่เสื้อเหลือง เสื้อแดง เสื้อน้ำเงิน ตอนนี้ไม่รู้จะใส่เสื้ออะไรแล้ว คุณอัจฉราแนะนำว่า อย่าใส่เสื้อเลยดีกว่า ผมเติมเลยนะก็โชว์หน้าอกเหี่ยวๆ หรือหน้าอกที่ทำปลอมให้ประชาชนดูแล้วกัน

พี่น้องครับ เข้าใจ 8-9-10 แล้วใช่ไหม ถ้าเข้าใจแล้ว ทำไมไม่เชื่อที่ผมบอก ว่าให้ลางาน พักงาน อย่าไปยุ่ง พักผ่อนให้เขายุ่งกันเอง พี่น้องครับ พี่ปองเพิ่งเข้ามา วันนี้มาช้า ผมเลยถือโอกาสจบรายการช้า เพื่อต้อนรับพี่ปอง เพราะว่า ถ้าพี่ปองไม่มา ถ้ามาแล้วผมจะจบก่อนเลย เพราะพี่ปองชอบกัด บอกว่า เนื่องจากผมจบช้า ก็เลยทำให้พี่ปองต้องเร่ง แต่เนื่องจากพี่ปองมาช้า ผมเลยต้องจบช้า วันนี้ พี่น้องครับ อีกไม่กี่วันจะสงกรานต์แล้วนะครับ สงกรานต์นี้ รายการ Good morning Thailand คงต้องขอหยุด 3 วัน 13-15 ผมจะเล่าให้ฟังว่า ทำไมต้องหยุด ผมจะปฏิบัติธรรม ปลีกวิเวกนะครับ เพื่อให้ตัวเองเข้าใจตัวเองมากขึ้น

พี่น้องครับ วันนี้ Good morning Thailand จำเป็นต้องอำลาพ่อแม่ พี่น้องไปก่อน แล้วกลับมาพบกันอีกที วันที่ 16 ครับ สวัสดีครับ”