“บุญจง” แขวะ “แม้ว” ปชต.มีเฉพาะ รบ.พรรคเพื่อไทยเท่านั้น

“บุญจง” แฉ ส.ส.เพื่อไทยขนคนชุมนุม ลั่นเร่งทำความเข้าใจประชาชนไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือ รับห่วงมือที่ 3 เพราะคาดเดาไม่ได้ว่าเกิดขึ้นเมื่อใด ชี้ไม่คาดโทษผู้ว่าฯ หากทำเต็มที่ แม้ศาลากลางถูกล้อม แขวะ “ทักษิณ” ประชาธิปไตยมีเฉพาะตอนเพื่อไทยนั่งนายกฯ เท่านั้น ด้านรองโฆษกวอนเสื้อแดงทบทวนอย่าตกเป็นเครื่องมือ

วันนี้ (9 เม.ย.) ที่กระทรวงมหาดไทย นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า ไม่น่าวิตก เพราะเห็นได้ว่าผู้ชุมนุมส่วนใหญ่มาจากการจัดตั้งของ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ซึ่งกระทรวงมหาดไทยก็มีหน้าที่ทำความเข้าใจกับประชาชนไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือ

“ตอนนี้รัฐบาลเป็นประชาธิปไตยอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ แกนนำกลุ่มเสื้อแดงเรียกร้องความเป็นประชาธิปไตยนั้น คำว่าประชาธิปไตยจะต้องเป็นช่วงที่คนของตัวเองมีอำนาจนั่งตำแหน่งนายกฯ ฝ่ายเดียวใช่หรือไม่ เพราะขณะนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นากยกรัฐมนตรีก็ได้รับการสนับสนุนจากเสียง ส.ส.ในสภาฯ เช่นเดียวกับ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และ นายสมัคร สุนทรเวช” นายบุญจง กล่าว

นายบุญจงกล่าวต่อว่า วันนี้บ้านเมืองต้องการความสามัคคี ผู้ชุมนุมควรใช้สติคิดให้รอบคอบ ไม่ควรตกเป็นเครื่องมือก่อความวุ่นวาย ส่วนเรื่องมือที่ 3 นั้น รัฐบาลก็เป็นห่วง เพราะเจ้าหน้าที่ไม่สามารถควบคุมได้ เพราะไม่ทราบเหตุการณ์ไม่คาดคิดจะเกิดเมื่อใด เห็นได้จากการที่มีคนขับรถยนต์วิ่งเข้าชนผู้ชุมนุมเสื้อแดงที่หน้าบ้านสี่เสาร์เทเวศร์

ส่วนการที่กลุ่มเสื้อแดงเตรียมการล้อมศาลากลางจังหวัดนั้น นายบุญจงกล่าวว่า การล้อมศาลากลางจังหวัด ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐจะต้องดำเนินการ ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จะต้องทำความเข้าใจกับประชาชน โดยชี้แจงประชาชนให้ใช้สิทธิการชุมนุมตามกรอบกฎหมาย ทั้งนี้ ได้รับรายงานว่า ที่ จ.หนองคาย ที่ผู้ชุมนุมประมาน 200-300 คนพังประตูศาลากลางจังหวัดเข้าไปตั้งเวทีปราศรัย แต่เวทีก็อยู่ห่างจากศาลากลางจังหวัด หากไม่มีการทำผิดกฎหมายก็ถือว่าสามารถทำได้ เพราะเป็นสิทธิเสรีภาพในการชุมนุม อย่างไรก็ตาม หากผู้ว่าฯ ถ้าปฏิบัติหน้าอย่างเต็มที่แล้ว ก็จะไม่มีการคาดโทษ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์จะทำให้สถานการณ์คลี่คลายขึ้นหรือไม่ นายบุญจงกล่าวว่า ประชาชนน่าจะเดินทางกลับ เพราะโดยปกติเทศกาลปีใหม่ไทยคนจะกลับบ้าน ส่วนหลังวันสงกรานต์กลุ่มผู้ชุมนุมจะกลับมาชุมนุมตามเดิมหรือไม่นั้น เราก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ รัฐบาลก็ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ พร้อมกับทำความเข้าใจกับประชาชนอย่างต่อเนื่อง

เมื่อถามว่าจะมีการปลุกเสื้อน้ำเงินออกมาต่อต้านเสื้อแดงหรือไม่ นายบุญจงกล่าวว่า ไม่มีการผลักดันให้เกิดการเผชิญหน้า ถ้าจะมีก็เป็นการรวมตัวของภาคประชาชน เช่น อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ซึ่งคนส่วนนี้ไม่ได้เป็นช้าราชการ แต่เป็นประชาชนที่มีความจงรักภัคดีต่อสถาบัน ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา เป็นการชุมนุมตามปกติ

ด้าน นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักรัฐมนตรี กล่าวถึงการที่นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ระบุว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ขับไล่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษนั้นเป็นการก้าวล่วงพระราชอัธยาศัยของในหลวง ว่า เห็นได้ชัดว่าการวิดีโอลิงก์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ทุกครั้ง รวมถึงแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงทุกคน ไม่เคยออกมาชี้แจงเลยว่าการทำเช่นนั้น เป็นการกระทำที่ละคายเบื้องพระยุคลบาท และก้าวล่วงพระราชอัธยาศัยหรือไม่ ดังนั้น ถือว่ายอมรับว่าตนเองมีพฤติกรรมเช่นนั้นจริง จึงอยากให้ผู้ชุมนุมลองคิดทบทวนว่าตกเป็นเครื่องมือของแกนนำหรือไม่

“หากดูตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 16 ที่ระบุถึงการพ้นตำแหน่งขององคมนตรีนั้น จะเห็นว่า องคมนตรีพ้นตำแหน่งได้ต่อเมื่อลาออก หรือ มีพระบรมราชโองการให้ออกจากตำแหน่ง ซึ่งกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงขับไล่ พล.อ.เปรม และองคมนตรีท่านอื่นนั้น วันนี้ท่านเหล่านั้นไม่ได้ลาออก และพระเจ้าอยู่หัวก็ไม่ได้มีพระบรมราชโองการให้ออกจากตำแหน่ง ดังนั้น การที่กลุ่มเสื้อแดงใส่ไคล้นั้น ถือเป็นการล่วงเกินพระราชอัธยาศัยของในหลวง” นายศุภชัย กล่าว

นายศุภชัยกล่าวว่า ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่าตนก็จงรักภัคดีเพราะเรียนโรงเรียนนายร้อยนั้น อยากบอกว่าคนไทยทุกคนที่ไม่ได้เรียนโรงเรียนนายร้อยก็มีความจงรักภัคดีเหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องเรียนโรงเรียนนายร้อย