“ไอ้ตู่” สุดเหิมสวมบท “เจ้า” พิพากษา “ป๋าเปรม” หมดสถานะเป็นองคมนตรี เหตุเพราะโดดลงมาเล่นการเมือง ก่อนปั่นหัว “รากหญ้า” ใช้เป็นเครื่องมือโค่นล้ม “อำมาตย์” เพ้อหาก “แดงถ่อย” ผนึกกำลังเกิน 3 แสนคน โวไม่เกิน 10 เม.ย.จบแน่นอน ก่อนกระดิกหางรับบัญชา “พ่อแม้ว” ชักใยสั่งสู้เต็มสูบ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายจตุพร พรหมพันธุ์ ปราศรัย
เมื่อเวลา 20.15 น.วานนี้ (6 เม.ย.) นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดง ขึ้นปราศรัยว่าบนเวทีว่า ขณะนี้ นายสุพร อัตถางวงศ์ และ นายเรืองเดช เหลืองบริบูรณ์ เดินทางไป สน.ดุสิต เพื่อแจ้งจับ พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม และ ส.ว.อีก 20 คน ที่กล่าวหาว่ากลุ่มคนเสื้อแดงได้ล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ และ พล.อ.สมเจตน์ ควรไปดูคนนามสกุลเดียวกันว่า มีใครไปอุ้มฆ่านักการทูตซาอุฯ จนประเทศซาอุฯ ตัดความสัมพันธ์กับประเทศไทยหรือไม่ ขณะที่รัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยังไปปูนบำเหน็จคนที่ไปฆ่านักการทูตประเทศเขา
ส่วนการต่อสู้ของกลุ่มเสื้อแดงนั้น นายจตุพร กล่าวว่า เราต่อสู้เพื่อรักษาระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข โดยเราขีดเส้นแค่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เท่านั้น เพราะขาดคุณสมบัติ ตั้งแต่ตระบัดสัตย์ต่อพระเจ้าแผ่นดิน ที่สำคัญองคมนตรีต้องรักษารัฐธรรมนูญ แต่กลับฉีกรัฐธรรมนูญ ส่วน พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นั้น ขาดจากการเป็นองคมนตรี ตั้งแต่ประชุมร่วมกับนายปีย์ มาลากุล และนายชาญชัย ลิขิตจิตถะ ก็ขาดจากความเป็นองคมนตรี ตั้งแต่ประชุมร่วมกับนายอักขราทร นายจรัญ ภักดีธนากุล และนายปีย์
“วันนี้คนไทยที่เป็นพสกนิกร ก็ได้เห็นกันแล้วว่า คนเหล่านี้ใช้สถานะองคมนตรีไปสร้างความเดือดร้อนให้กับสถาบัน ฉะนั้นเราต้องกำจัดขุนนาง และอำมาตย์ชั่วให้หมด เพราะคนเป็นประธานองคมนตรี ถ้าอยู่ในศีลในธรรม ใครจะกล้าไปแตะต้อง เพียงแต่คนเหล่านี้กระโดดลงมาจากหิ้งแล้วมาเกลือกกลั้วความโสมมทางการเมือง เมื่อคนจับได้ก็โดดขึ้นหิ้ง ฉะนั้น พล.อ.เปรม คุณหมดสิทธิ์โดดขึ้นหิ้งแล้ว” นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร กล่าวอีกว่า วันที่ 8 เม.ย.นี้ จะเป็นการพิสูจน์ว่า คนเสื้อแดงที่จงรักภักดีต่อสถาบันกษัตริย์ กับพวกอำมาตย์ที่ใช้สถาบันมาเป็นเครื่องมือ ใครจะอยู่ใครจะไป ซึ่งจะมาวัดกันในวันดังกล่าว แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุด คือ ไพร่ที่สำคัญตัวผิดว่าเป็นเจ้า ทั้งที่ตัวตนคือไพร่ ที่เขาหมอบ ไหว้ กราบ นั่นคือ ไพร่ไหว้ไพร่ ไม่ใช่ไพร่ไหว้เจ้า นอกจากนี้ คนเสื้อแดงจะไม่มีการออกใบปลิวโจมตีสถาบัน เพราะเราต้องการแค่เอา พล.อ.เปรม ลงมาเท่านั้น ข้างบนเหนือหัววันนี้ปลอดภัย หากเราไม่ขีดเส้น จะมีการใส่ร้ายอย่างยับเยิน อำมาตย์ที่อยู่มานับร้อยปีเขาจึงดิ้นอย่างที่สุด ก่อนสิ้นสุดอำมาตยาธิปไตย
“ตั้งแต่วันที่ 7 เม.ย.นี้ พี่น้องที่อยู่ที่ร่วมชุมนุม จะต้องทำตัวเป็นเจ้าภาพ คอยต้อนรับพี่น้องของเราที่จะมากันมากขึ้นวันที่ 8 เม.ย.นี้ ซึ่งเชื่อว่า แยกมิสกวัน ลานพระบรมรูปทรงม้า ถนนราชดำเนิน ไปจนบ้านสี่เสาฯ จะเต็มไปด้วยพี่น้องเสื้อแดง โดยการต่อสู้ครั้งนี้จะมีคนมาร่วมชุมนุมต่อสู้มากที่สุดเท่าที่ประเทศไทยมีมา วันนี้ผมโทรศัพท์คุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่าจะต่อสู้อย่างใจเย็น มีจุดมุ่งหมาย และต้องบรรลุสู่จุดหมาย และในวันที่ 8 เม.ย.ถ้าเริ่มต้นคนเกิน 3 แสนคน เชื่อว่า คงจะไม่เกินวันที่ 10 เม.ย.นี้” นายจตุพร ระบุ
นายจตุพร กล่าวต่อว่า ไม่ต้องกลัวว่าเราจะไม่มีที่ยืน แต่คนในรัฐบาลนั่นแหละที่จะไม่มีที่ยืน และจะได้รู้ว่าสิ่งที่เคยทำกับ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างไร วันนั้นก็จะได้รู้ เมื่อไม่อยู่ในประเทศ จะอยู่ได้เหมือนอดีตนายกฯ หรือไม่ อาการดิ้นของรัฐบาล และกลุ่มหักหลัง เริ่มดิ้น โดยกลุ่มคนที่รู้ดีที่สุดว่ารัฐบาลจะอยู่ไม่นาน คือ ข้าราชการ และนับตั้งแต่วันที่ 8 เม.ย.นี้ เขาจะปลดแอกจะออกมาร่วมชุมนุม ซึ่งจะเป็นวันเปลี่ยนแปลงประเทศไทย โดยคนเสื้อแดงจะทวงสมบัติ และทวงความยุติธรรมคืน เพราะฉะนั้นวันที่ 8 เม.ย.นี้ ขอให้พี่น้องเสื้อแดงออกมาอีกเพียงครั้งเดียวเพื่อปิดบัญชี และเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทย
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับการแต่งตั้งองคมนตรี และคุณสมบัติองคมนตรี นั้น ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบัน พระมหากษัตริย์ ทรงเลือก และทรงแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิเป็นประธานองคมนตรีคนหนึ่ง และองคมนตรีอื่นอีกไม่เกินสิบแปดคน ประกอบเป็นคณะองคมนตรี (มาตรา 12 วรรคหนึ่ง) ส่วนการเลือก และแต่งตั้งองคมนตรี หรือการให้องคมนตรีพ้นจากตำแหน่ง ให้เป็นไปตามพระราชอัธยาศัย (มาตรา 13 วรรคหนึ่ง)
ดังนั้น การที่ นายจตุพร กล่าวอ้างว่า พล.อ.เปรม หรือองคมนตรีคนอื่นหมดสภาพความเป็นองคมนตรีแล้ว จึงถือว่าหมิ่นเหม่ต่อการละเมิดพระราชอำนาจเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งครั้งนี้ ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะตั้งแต่เริ่มการชุมนุมคนเสื้อแดงได้กดดันขับไล่ให้ พล.อ.เปรม และองคมนตรีคนอื่นที่พวกเขากล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการยึดอำนาจ ลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งสวนทางกับข้ออ้างในช่วงหลังที่บอกว่าคนเสื้อแดงมีความจงรักภักดี
ทั้งนี้ ในทางปฏิบัติที่ถูกที่ควรนั้น หากเห็นว่าองคมนตรีท่านใด ไม่ควรจะอยู่ในตำแหน่ง ก็สามารถที่จะถวายฎีกาต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ และหลังจากนั้นจะต้องรอน้อมรับพระบรมราชวินิจฉัยของพระองค์ ไม่ใช่ปลุกระดมมวลชนออกมากดดันอย่างที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และคนเสื้อแดงกระทำอยู่