“ชินวรณ์” แจงข้อกำหนดที่ประชุม 3 ฝ่ายพิจารณากรอบการเจรจากู้เงิน มั่นใจรัฐสภามีมติเห็นชอบ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนในต่างประเทศได้ ย้อนคำพูด “ทักษิณ” จอมเตะตัดขา ลั่นไม่เป็นหนี้แล้วจะรวยได้อย่างไร
วันนี้ (24 มี.ค.) ที่รัฐสภา นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการประชุมร่วมกันระหว่างวิป 3 ฝ่ายว่า ที่ประชุมรัฐสภาจะได้มีการพิจารณากรอบการเจรจากู้เงินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ และร่างหนังสือแลกเปลี่ยนว่าด้วยความร่วมมือทางการเงินระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลญี่ปุ่นและร่างสัญญาเงินกู้ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ เพื่อขอมติรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 190 ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาในการอภิปรายทั้งหมด 10 ชั่วโมง 30 นาที โดยแบ่งเป็นคณะรัฐมนตรีชี้แจง 1 ชั่วโมง 30 นาที ฝ่ายค้านอภิปราย 3 ชั่วโมง ฝ่ายรัฐบาลอภิปราย 3 ชั่วโมง และวุฒิสภา 3 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าสมาชิกรัฐสภาจะเห็นด้วย
เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ เพราะฝ่ายค้านอาจจะไม่เห็นชอบกับกู้เงิน นายชินวรณ์กล่าวว่า กังวล แต่ก็เชื่อว่า ส.ส.ทุกคนจะให้ความร่วมมือ เพราะกรอบการเจรจาเงินกู้ก็เป็นเรื่องตั้งแต่สมัยรัฐบาลที่แล้ว รวมถึงการจัดตั้งกองทุน CMIM เพื่อทำหน้าที่เป็นกลไกทางการเงินในการเสริมสภาพคล่องระยะสั้นให้ประเทศสมาชิกอาเซียนบวกสามก็เป็นการริเริ่มจากรัฐบาลชุดที่แล้วเช่นเดียวกันจึงเชื่อว่าสมาชิกทุกคนจะเห็นชอบ เพราะรัฐบาลจะนำเงินดังกล่าวไปฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อจะแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจ ดังนั้นอย่าเอาเรื่องนี้มาเป็นประเด็นทางการเมือง
ผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้ออกมาระบุว่ารัฐบาลชุดนี้แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจไม่ถูกต้อง ซึ่งจะส่งผลต่อการโหวตในรัฐสภาหรือไม่ นายชินวรณ์กล่าวว่า ความคิดส่วนหนึ่งก็มาจาก พ.ต.ท.ทักษิณที่บอกว่าหากไม่เป็นหนี้จะรวยได้อย่างไร ซึ่งการกู้เงินครั้งนี้ก็เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับประเทศ และเชื่อว่าหากรัฐสภามีมติผ่านกรอบการเจรจาเงินกู้ดังกล่าวจะเป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่นักลงทุนในต่างประเทศได้
