นายกฯ ปัดไม่ได้ดูวิดีโอลิงก์ “ทักษิณ” กล่าวจาบจ้วงองคมนตรีกล่าวหาอยู่เบื้องหลังทำลายตัวเอง ชี้หากผิดกฎหมายต้องดำเนินการ ฉะไม่ควรดึงสถาบันร่วมความขัดแย้งการเมือง เผยเห็นแผนตากสินแล้ว ไม่มั่นใจเรื่องจิงหรือไม่ แต่เชื่อรับมือได้ มอบฝ่ายมั่นคงควบคุมแดงถ่อยชุมนุมใหญ่ชุมนุมปิดล้อมทำเนียบ ยันเข้าทำงานทำเนียบปกติ
วันนี้ (23 มี.ค.) วันนี้(23 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โฟนอินโจมตีองคมนตรีและสถาบันศาล ว่า ยังไม่ได้ไปดูในรายละเอียดเห็นแต่หัวข่าว เพราะให้ความสนใจในงานที่จะทำมากกว่า ส่วนการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงในวันที่ 26 มี.ค นั้น ก็เป็นเรื่องที่กลุ่มเสื้อแดงนัดหมายกันมานานแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่จะต้องเข้ามาดูแล ซึ่งเห็นว่าที่ผ่านมามีการชุมนุมมาแล้วหลายครั้งแต่ก็อยู่ในกรอบของกฎหมายและขอให้เป็นแนวทางนี้ต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า การชุมนุมดังกล่าวจะกระทบกับงานกาชาดที่จะจัดขึ้นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หากการเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบของความสงบก็น่าที่จะไม่มีปัญหา และเหตุผลที่ไม่อยากที่จะพูดถึงการเคลื่อนไหวของพ.ต.ท.ทักษิณ เพราะตนเองมีหน้าที่ในการแก้ปัญหาให้กับประเทศ
ผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังหลบหนีในต่างประเทศและโฟนอินอยู่ในขณะนี้ทำให้นำมาสู่ความแตกแยกในบ้านเมือง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนมีหน้าที่แก้ปัญหาให้กับประเทศ ส่วนปัญหาของคนหนึ่งคนก็ว่าไปตามกฎหมาย ไม่มีอะไร เมื่อถามว่า แต่ปัญหาของคนหนึ่งคนออกมาเคลื่อนไหวและระดมคนประท้วงรัฐบาล รัฐบาลจะไม่มีท่าทีอะไรบ้างหรือ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้ามีอะไรผิดกฎหมายก็ดำเนินการ เมื่อถามว่ารัฐบาลจะแก้ปัญหาประเทศอย่างไรหากภายในยังมีความแตกแยก นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราก็พยายามไม่เข้าไปอยู่ในวังวนของความแตกแยก ตนเองก็ไม่ไปต่อปากต่อคำต่อล้อต่อเถียงและจะทำงาน หากมีข้อสงสัยทักท้วงก็จะพยายามตอบ ใครติดใจค้างคราใจยินดีที่จะแลกเปลี่ยน
เมื่อถามว่า รัฐบาลคิดว่าจะบริหารประเทศภายใต้ความแตกแยกได้ใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ความแตกแยกต้องดูว่าอยู่ในวงขนาดไหน ที่ผ่านมาการทำนโยบายและการปฏิบัติเดินหน้าไปได้กับคนส่วนใหญ่ไม่เป็นปัญหา แต่คนส่วนหนึ่งที่เขายังมีความข้องใจอยู่เราก็พยายามที่จะพิสูจน์ให้เห็นว่าสิ่งที่เขากังวลเรื่องความไม่เป็นธรรมเรื่องอะไรนั้นไม่เป็นจริง เมื่อถามว่า ประเมินความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็ดูจากสถานการณ์และการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนก็ดูว่าอยู่ในสถานการณ์ เราทำงานได้แน่นอน ขณะเดียวกันหลายฝ่ายมองว่าเสถียรภาพบ้านเมืองไม่ได้มีปัญหาอะไร
เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีมั่นใจว่าจะรับมือกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงภายใต้แผนตากสินอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มั่นใจ เพราะเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ต้องการให้ประเทศเดินหน้า ทั้งนี้ตนเคยเห็นแผนตากสินแล้วเป็นเอกสาร แต่ไม่ทราบจะมีใครยืนยันไม่ยืนยันอย่างไร เอาเป็นว่าตนมั่นใจคนส่วนใหญ่ของประเทศต้องการให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าและใครที่พยายามจะชุดรั้งบ้านเมืองะจไม่ได้รับการสนุบสนุน อย่างไรก็ตามแผนตากสินที่เห็นตนก็ไม่ได้พูดอะไร เมื่อเห็นก็บอกว่าเคยเห็น เพราะไม่รู้ใครจะมายืนยันจริงอย่างไร เมื่อถามว่า ใครรายงานเอกสารมาให้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีคนส่งมาให้ ไม่ทารบเป็นใคร เมื่อถามว่า เนื้อความเป็นอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อย่าไปขยาย เพราะไม่มีใครยอมรับว่าเป็นคนทำ เมื่อมาถามตนก็บอกว่า เคยเห็นเคยได้รับ และก็จงเท่านั้น เมื่อถามว่า กี่หน้ากระดาษ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อย่ารู้รายละเอียดเลย
เมื่อถามว่าที่บอกว่า จะทำความขัดแย้งให้น้อยที่สุด แต่พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่หยุดจะกระจายความจริงคอย่างไรไม่ให้คนเกิดความสับสนกับข้อมูลที่พ.ต.ท. ทักษิณ นำมาพูดต่อสาธารณะ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนได้ใช้เวทีต่างๆอธิบาย สิ่งที่เป็นความจริงในส่วนของรัฐบาลรวมถึงช่วงการอภิปรายที่ผ่านมาได้ถือโอกาสนั้นในการชี้แจง เราต้องทำอย่างนั้น และเราต้องเชื่อในวิจารณญาณของคนส่วนใหญ่ และต้องเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ ต้องการให้บ้านเมืองพัฒนาก้าวหน้าไปข้างหน้า
เมื่อถามว่า การเมืองไม่นิ่งจะบริหารประเทศ จะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้อย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การเมืองไม่มีนิ่งในระบอบประชาธิปไตย แต่การเมืองที่ไม่นิ่งต้องอยู่ในขอบเขต ขณะนี้ก็จำกัดให้อยู่ในขอบเขตได้ คือไม่ให้ลุกลามเป็นปัญหา เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและความรุนแรง เมื่อถามว่า จะดูแลอย่างไรไม่ให้พาดพิงถึงสถาบันองคมนตรี นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อะไรที่ผิดกฎหมายรัฐบาลดำเนินการ เมื่อถามว่า ทำไมนายกฯเชื่อว่าจะหลอมรวมสีเหลืองสีแดงให้เป็นคนไทยด้วยกันได้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าคนไทยทุกคนในที่สุดต้องยึดถือประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก แต่คนกลุ่มหนึ่งอาจจะมีความรู้สึกว่าขณะนี้บ้านเมืองขณะนี้เดินผิดทิศผิดทาง ซึ่งก็เป็นปกติในหลายๆสังคม แต่ถ้าคิดแล้วรุกลามไปจนถึงการทำอะไรที่ผิดกฎหมาย เราบอก ทำไม่ได้ แต่อะไรที่เป็นข้อห่วงใย ไม่ว่าจะเป็นประชาธิปไตย หรือเรื่องอะไรก็ตามตนก็พยายามแสดงให้เห็นว่า พยายามจะตอบสนองและจะทำต่อไป ส่วนความแตกแยกเสื้อเหลืองเสื้อแดงที่มีการแบ่งสี และต่างฝ่ายต่างเคลื่อนไหวนั้น เห็นว่าความแตกแยกนี้ ดำรงมาหลายปีแล้ว และช่วงปีที่แล้ว เป็นช่วงที่มีความรุนแรงมากถึงขั้นปะทะกัน มีการกระทำผิดกฎหมายวันนี้ เราไม่ให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น เราเคารพในสิทธิเสรีภาพ ของทุกสี สีไหนก็ตามที่อยากแสดงความคิดเห็นทำได้ แต่อย่าผิดกฎหมาย ถ้าผิดต้องมีการดำเนินการ นี่คือการวางมาตรฐาน ในเรื่องการบริหารงานในสังคมประชาธิปไตย
“ความเด็ดขาดไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย เพียงแต่เราต้องเข้าใจถ้าเป็นการกระทำผิดกฎหมายอาญา การเดินหน้าต้องสืบสวนสอบสวน ส่งฟ้องในลักษณะที่ไม่มีการสงสัยใดๆได้ ว่ามีเจตนากระทำผิดนี่คือ มาตรฐานของกฎหมายอาญา ถ้าเราเร่งเหมือนกับหลายกรณีในอดีตเพื่อให้จบสุดท้ายอาจจะยกฟ้อง เพราะหลักฐานอ่อนไม่มีผลอะไร ขณะเดียวกันถ้าความเด็ดขาดถูกตีความกลั่นแกล้ง ยิ่งเป็นการเติมเชื้อ นำไปสู่ความขัดแย้งอีก ทุกอย่างต้องว่าไปตามข้อเท็จจริง ผมไม่อยากให้ช้า อะไรที่เร่งรัดได้โดยเฉพาะกรณีที่อยู่ในความสนใจของประชาชนก็ขอให้เร่งรัดแต่ต้องรัดกุมด้วย”นายอภิสิทธิ์ กล่าวตอบคำถามที่ว่าทำไมไม่เด็ดขาดกับสีเหลืองและสีแดง
เมื่อถามว่าวันที่ 26 มี.ค. นี้ตั้งใจจะมาทำงานที่ทำเนียบหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตั้งใจทำงานตามปกติทุกอย่าง เมื่อถามว่า ในอดีตที่ผ่านมาอดีตนายกฯไม่ให้ความสำคัญกับกลุ่มพันธมิตรฯ เช่นเดียวกับนายกฯวันนี้ที่ไม่ให้ความสำคัญกับกลุ่มเสื้อแดง เกรงจะเกิดการย้อนรอยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าไม่จริง เพราะตนให้ความสำคัญกับข้อเรียกร้องที่มีเหตุผล ถ้าร้องเรียนมาเรื่องคดีตนก็สั่งให้รายงานคดีมาโดยตลอดและอธิบายได้ว่า แต่ละคดีขั้นตอนอยู่ที่ไหนอย่างไร ร้องมาเรื่องประชาธิปไตย ตนก็เดินหน้าหาฝ่ายค้านเพื่อปฏิรูปการเมืองร่วมกัน แต่ข้อเรียกร้องเรื่องให้ตนออกจากตำแหน่งก็ใช้กระบวนการสภาอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภา สภาก็ให้ความไว้วางใจ ตนก็เคารพระบบเดินหน้าทำงานต่อ เมื่อถามว่า ข้อเรียกร้องพันธมิตรฯที่ขอให้เปลี่ยนพนักงานสอบสวนทั้งชุดคืบหน้าถึงไหน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ส่งไปที่นาย สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ เชื่อว่า นายสุเทพคงจะพิจารณาแล้ว แต่ไม่ทราบล่าสุดเป็นอย่างไร
“อยากบอกว่า ผมไม่เคยทะเลาะกับใคร ซึ่งแตกต่างจากรัฐบาลในอดีต ซึ่งเข้าไปสร้างความขัดแย้งด้วย ผมไม่ทำ”นายอภิสิทธิ์ กล่าว
เมื่อถามว่า จะดูแลกลุ่มเสื้อแดงอย่างไรไม่ให้ก่อความรุนแรง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อยู่ที่เขา เรามีหน้าที่ไม่ให้เกิดความรุนแรง เมื่อถามว่า มีรายงานข่าวหรือไม่ว่ากลุ่มเสื้อแดงจะก่อเหตุรุนแรง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาการชุมนุมส่วนใหญ่ คนชุมนุมส่วนใหญ่ที่มาไม่ได้สร้างความรุนแรง ส่วนกรณีที่ทำผิดกฎหมายก็ได้มีการจับกุม ฉะนั้นหวังว่า อันนี้จะเป็นสัญญาณชัดว่าถ้าทำผิดกฎหมายจะถูกดำเนินคดี แต่ถ้าถามว่าคนกลุ่มหนึ่งทำให้เกิดความวุ่นวาย ก็จะมีอีกฝ่ายที่บอกว่าคนกลุ่มหนึ่งเขายังต้องการที่จะแสดงออกเรียกร้องประเด็นของเขา ตนก็บอกว่า ในสังคมประชาธิปไตยใครอยากเรียกร้องแสดงออกก็เปิดโอกาสให้ทำได้ภายใต้กรอบกฎหมาย นี่คือสิ่งที่ดีที่สุดในสังคมประชาธิปไตย หากกลุ่มเสื้อแดงเคลื่อนไหวแล้วอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายก็เป็นสิทธิของเขา รัฐบาลไม่สามารถไปสกัดกั้นหรือปิดกั้นการใช้สิทธิ เสรีภาพของเขาได้ แต่เราพยายามลดเงื่อนไขในการจะมาชุมนุม ทั้งนี้ต้องยอมรับว่า คงเห็นตรงกันไม่ได้เช่น เขาอยากจะไล่ตนออก อะไรต่างๆเหล่านี้ความเห็นไม่ตรงกันแน่นอน ซึ่งรัฐบาลก็ทำงานมาได้และจะทำงานต่อไป
เมื่อถามว่า ที่นายกฯบอกว่าจะใช้วิธีสุภาพ ในขณะที่อีกฝ่ายใช้วิธีดิบ เถื่อน ถ่อยนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตบมือข้างเดียวไม่ดัง ถ้าผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินการ เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ที่วันนี้เริ่มมีการโจมตีองคมนตรี นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการพาดพิงและตนได้บอกไปแล้ว ขอให้เรื่องความขัดแย้งทางการเมืองเป็นเรื่องระหว่างฝ่ายการเมือง อย่าเอาสถาบันอื่นๆ โดยเฉพาะสถาบันที่ประชาชนเทิดทูนเคารพนับถือ หรือสถาบันที่มีความสำคัญในการดำรงความเป็นกลาง อย่านำเข้ามา
เมื่อถามว่า คำพูดของพ.ต.ท. ทักษิณ ระบุว่า นายกฯเป็นนายกฯตัวสำรอง ตรงกับคำอภิปรายของนาย สุนัย จุลพงศ์ธร ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า บังเอิญไม่ได้ฟังคำพูดของพ.ต.ท. ทักษิณ เลยไม่ทราบ พรรคตนเลือกหัวหน้าพรรคตัวจริง ไม่มีนอมินี