xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯรู้ทันแผนยุสงครามกลางเมือง เปรียบโฟนอิน “แม้ว” ปรบมือข้างเดียว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
“มาร์ค” ไม่ท้อหลังลงพื้นที่เจอ “เสื้อแดง” ปาขวด ชี้แค่ระบายเครียด เพราะร้อน ยอมรับฝ่ายตรงข้ามยั่วยุ เพื่อก่อให้เกิดสงครามกลางเมืองจริง ลั่นใช้ความอดทน อดกลั้นเผชิญวิกฤต เหน็บโฟนอิน “แม้ว” ปรบมือข้างเดียวไม่ดัง เชื่อประชาชนมีวิจารณญาณ


วันนี้ (8 มี.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่พบประชาชน จังหวัดลพบุรี ว่า คิดว่า เป็นไปตามเป้าหมายที่เราต้องการจะทำ คือ ได้ไปพบปะกับประชาชน ได้ไปไขข้อข้องใจ ตอบข้อสงสัยและรับข้อสังเกต ปัญหาเสียงสะท้อนเพิ่มเติม ที่ จ.ลพบุรี มีการสรุปเป็นเอกสารมาให้ด้วย ดีจะเป็นชี้วัดทางเศรษฐกิจของเขาเองในระดับจังหวัด ทำให้เราเห็นภาพชัดเจนขึ้นว่าการกระทบกระเทือนระดับพื้นที่เป็นอย่างไร อย่างตัวเลขที่เขาทำมาสำหรับปี 2551 เห็นได้ชัดภาคบริการกระทบแรงงาน ภาคเกษตรยังอยู่ในสถานะที่ดีกว่า ภาคอุตสาหกรรมยังทรงๆ อยู่

ผู้สื่อข่าวถามว่า ดูจากบรรยากาศกลัวหรือไม่ การลงพื้นที่ในอนาคตจะมีความรุนแรงมากขึ้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คิดว่าคงจะไม่มี และคิดว่า การลงพื้นที่ของรัฐมนตรีทุกท่านเมื่อวาน (7มี.ค.) น่าจะเป็นการพิสูจน์ว่าเราลงไปเพื่อประโยชน์ในการทำงาน ไม่ใช่เรื่องของการเมืองและเชื่อว่า ประชาชนมีความตั้งใจ ที่จะให้เรามีโอกาสใกล้ชิดและแลกเปลี่ยนปัญหากัน ส่วนการปาขวดของกลุ่มเสื้อแดงนั้น เป็นขวดน้ำพลาสติก อาจเป็นความหงุดหงิด เพราะตากแดดกันอยู่นาน เมื่อถามว่าจะลงพื้นที่อื่นอีกหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มี แต่ในส่วนของตนช่วงสัปดาห์หน้าจะเดินทางไปอังกฤษ แต่หลังจากนั้นสัปดาห์ถัดไปจะลงพื้นที่พบประชาชนอีก ซึ่งขณะนี้นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กำลังรวบรวมอยู่และจะต้องดูจังหวัดที่ยังไม่มีใครลงไปด้วย

เมื่อถามว่า การลงพื้นที่แล้ว เจอขับไล่เกิดความท้อแท้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ คิดว่าทุกอย่างเป็นเรื่องปกติและอย่างที่เรียนคือ ในสังคมเรายังมีคนที่มีความเห็นแตกต่าง เมื่อถามว่า เกรงถูกมองว่าลงไปยั่วยุหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มี ตนไปไม่ได้ทำให้เกิดความขัดแย้งอะไร และบอกชัดเจนว่าไปทำอะไร และถือเป็นงานในหน้าที่ เมื่อถามว่า ในช่วงรัฐบาลนี้คิดว่าจะทำให้คนที่มีความคิดเห็นแตกต่างเข้าใจได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตั้งใจ แต่ถ้าเห็นด้วยคงเป็นไปได้ยาก แต่ยอมรับในการที่จะอยู่ร่วมกันในกติกาซึ่งไม่กระทบกระทั่งกัน เมื่อถามว่า คิดว่า บรรยากาศแบบนี้จะเป็นไปอีกนานหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องถามฝ่ายผู้ชุมนุม เพราะทางตนก็พยายามอย่างเต็มที่ ในการที่จะไม่ให้เกิดความรู้สึกที่ขัดแย้ง ขณะเดียวกันก็มีเรื่องที่เราพยายามทำ ซึ่งเป็นข้อห่วงใยของเขาอยู่ เช่น การปฏิรูปการเมือง เรื่องอะไรต่างๆ

เมื่อถามว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ดูแลงานด้านความมั่นคง บอกว่า มันมีความพยายามที่จะทำให้เกิดความขัดแย้ง เพื่อทำให้เกิดสงครามกลางเมือง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็อาจจะมีบางส่วนที่พยายามทำอย่างนั้น แต่รัฐบาลจะไม่ไปเล่นด้วย เมื่อถามว่า กรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โฟนอินบอกให้ประชาชน ไม่ต้องหวังรัฐบาลเรื่องการแก้เศรษฐกิจ ให้ช่วยตัวเอง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นความเห็นของท่าน เมื่อถามว่า มีผลกระทบต่อการทำงานของรัฐบาลหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า รัฐบาลก็เดินหน้าทำงานต่อและอยากเรียนว่าที่ทำงานอยู่ทั้งหมด เพื่อประชาชนทุกคนและจริงๆ แล้วการที่จะได้รับความร่วมมือก็สำคัญในความสำเร็จของงาน และเวลาสำเร็จไม่ได้เพื่อประโยชน์รัฐบาล แต่เพื่อประโยชน์ของประชาชนเอง

เมื่อถามว่า นายกฯยังมั่นใจว่า ภายใต้นโยบายนี้ จะไม่ทำให้เกิดสงครามกลางเมืองและไม่เกิดข้อขัดแย้งลุกลามบานปลาย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลอยู่แล้ว ที่จะไม่ให้เกิดอย่างนั้น จะเห็นว่าสองเดือนที่ผ่านมา เราหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการปะทะหรือเกิดความรุนแรงมาโดยตลอด เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โฟนอิน ถึงประชาชนรากหญ้าโดยตรง จะทำให้เป็นปัญหาอะไรหรือไม่ ต่อการลงพื้นที่ของรัฐบาลในครั้งต่อไป นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ครับ เชื่อว่าประชาชนมีวิจารณญาณ พูดกันตรงๆประชาชนก็ดี รัฐบาลก็ดีก็อยู่เมืองไทย ฉะนั้นจะทราบข้อเท็จจริง ที่กำลังเกิดขึ้นที่นี่นี้เป็นอย่างดี ความจริงตนนึกว่าคนไทยทุกคนน่าจะช่วยกัน เพราะขณะนี้ประชาชน กำลังยากลำบากจากปัญหาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะปัญหาเรื่องการว่างงาน ฉะนั้นทุกคนต้องมาช่วยกันสร้างความเชื่อมั่น ขณะเดียวกันในแง่ของการพึ่งพาตนเอง ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ผิด เพียงแต่ไม่ได้หมายความจะเป็นลักษณะของการปฏิเสธ ไม่ร่วมมือหรือไม่รับนโยบายการแก้ไขปัญหาต่างๆ ต้องมาช่วยกัน

เมื่อถามว่า หากเป็นไปได้จะขอร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยุติการเคลื่อนไหวแบบนี้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนว่าอยู่ที่ตัวท่านมากกว่า ว่าจะยึดประโยชน์ของใคร ถ้ายึดประโยชน์ของประเทศชาติ ก็น่าจะรู้ว่าขณะนี้สภาพบ้านเมือง ทุกคนต้องมาร่วมกันแก้ไขปัญหา เมื่อถามว่าขณะที่รัฐบาลพยายาม กำจัดความขัดแย้งให้เล็กที่สุด แต่อีกฝ่ายยังเติมเชื้อไฟความขัดแย้ง เรื่องจะยุติได้อย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนย้ำตลอด และย้ำต่อไปว่าปรบมือข้างเดียวไม่ดัง รัฐบาลจะไม่เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาความขัดแย้ง จะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เมื่อถามว่าจะทนให้เขาปรบมือข้างเดียวได้นานแค่ไหน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ได้รับคำแนะนำจากผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองมาตั้งแต่แรกว่า ทำงานในสภาวะแบบนี้ต้องอดทันอดกั้น จะยึดแนวทางนี้ต่อไป เมื่อถามว่าจะอดทนอดกั้นกับพฤติกรรมของพ.ต.ท.ทักษิณ หรืออย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อดทน อดกั้นกับทุกๆ ฝ่ายที่เห็นแตกต่าง แต่จะไม่ยอมรับให้ใครทำผิดกฎหมาย

เมื่อถามว่า การปฏิรูปการเมืองที่สถาบันพระปกเกล้าจะพิจารณาในวันที่ 9 มี.ค.นี้จะมีส่วนคลี่คลายสถานการณ์ได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนหวังเป็นเช่นนั้น เพราะเป้าหมายคือต้องการให้ทุกฝ่ายเข้าสมามีส่วนร่วม ได้ฟังเสียงของทุกๆคนว่าความต้องการคืออะไร เมื่อถามว่า จะฝากถึงสถาบันพระปกเกล้าเกี่ยวกับแนวทางนี้อย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขอให้พิจารณาเข้ามาช่วยการทำงานของรัฐบาลเพื่อประโยชน์ของสังคม

เมื่อถามว่า มีข่าวทางสถาบันพระปกเกล้าจะเสนอให้ นายสุจิต บุญบงการ อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ทำหน้าที่ประธานปฏิรูปการเมือง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้ตั้งเงื่อนไขเรื่องนี้ เพียงแต่ขอให้สถาบันพระปกเกล้าซึ่งมีความเป็นกลางไปพิจารณา
กำลังโหลดความคิดเห็น