“มาร์ค” สั่งจัดการ “เสื้อแดง” ปาระเบิดปิงปอง ลั่นต้องไม่ให้เกิดขึ้นอีก

“อภิสิทธิ์” ลั่นต้องดำเนินคดี“กลุ่มเสื้อแดง ที่ทำผิด กม.ยันไม่กังวลที่ต้องลงพื้นที่ครั้งต่อไป และไม่ต้องเพิ่มการรักษาความปลอดภัย แต่ต้องไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก รับ “เทพเทือก” เป็นเป้าโจมตี ขณะเดียวกันไม่สนใจ “แม้ว” โฟนอินถี่ ชี้ กรณี "ใจ" มีที่อยู่ชัดเจน แต่ถือสองสัญชาติต้องดูข้อก.ม.และข้อตกลง ในการดำเนินคดี ซึ่งเป็นหน้าที่ของตร.

วันนี้ (15 มี.ค.) ที่สนามบินสุวรรณภูมิ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการเป็นเจ้าภาพประชุมอาเซียน ในขณะที่สถานการณ์การเมืองกำลังรุนแรงมากขึ้น ว่า มันไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรอก มันเป็นเพียงปฏิกิริยาและการเคลื่อนไหว เราก็ทราบว่ามีคนที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลส่วนหนึ่ง อาจจะมีความพยายามที่จะให้เป็นปัญหาในเชิงของข่าว หรือรุนแรงมากขึ้น แต่รับบาลก็ยืนยันความพร้อมที่จะเดินหน้าเข้าหาประชาชน เป็นสิ่งที่เราถือว่าเป็นหน้าที่ที่เราต้องทำ คนส่วนใหญ่ที่ไม่มีปัญหาเขาก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับการทำงานของรับบาลที่จะฟื้นเศรษฐกิจ สร้างโอกาสให้กับเขา เราก็ต้องทำต่อ ส่วนเจ้าหน้าที่ก็มีหน้าที่ในการดูแลความสงบเรียบร้อย การกระทำที่เกินเลยขอบเขตของกฎหมายก็ต้องดำเนินการ และได้โทรศัพท์ถามนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ท่านก็ยืนยันว่าเดินหน้าต่อ

ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจว่าจะเดินหน้าต่อไปได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มั่นใจๆ ว่าเราจะเดินหน้าต่อไป รักษากฎหมายได้ เมื่อถามว่าแสดงว่าจะต้องใช้ไม้แข็งกับผู้ที่ก่อกวน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อย่าไปเรียกว่าไม้แข็งไม้อ่อนเลย เราก็ใช้แนงนี้มาตลอด ว่าถ้าใครใช้สิทธิเสรีภาพอยู่ในขอบเขตเราก็ยอมให้ทำอยู่แล้ว จะมาตะโกนด่า พูดปราศรัย เราก็ไม่มีปัญหา เราอดทนอดกลั้น แต่ต้องไม่ทำผิดกฎหมาย การใช้ระเบิดปิงปองหรือขว้างปาสิ่งของเพื่อให้เกิดการทำร้ายหรือการทำลายอันนี้ไม่ได้

ต่อข้อถามว่า อีกฝ่ายจะอ้างว่าทีทำไมกับพันธมิตรไม่เห็นดำเนินการแบบนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า บอกมาซิว่ามีคดีไหนที่เราละเว้นละเลย ไม่มีหรอก ทุกอย่างอยู่ในกระบวนการหมด และมีการเร่งรัดตลอด เราจะเห็นว่าระยะหลังตนก็ให้มีการรายงานความคืบหน้าตลอดเวลา ในสภาฯซักถามมาก็ชี้แจง ตอบไปตลอดเวลา

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการวิเคราะห์สถานการณืหรือว่าเหตุรุนแรงมากขึ้นเกี่ยวเนื่องกับการที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมอาเซียน เพื่อดิสเครดิตรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ได้มองตรงนั้น คิดว่าเป็นปฏิกิริยาที่เรากำลังเดินเข้าหาประชาชนส่วนใหญ่ในเรื่องนโยบาย และอาจจะเกี่ยวพันไม่ถึงเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจ หรืออะไรต่างๆ เมื่อถามว่าเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นจะส่งผลให้รัฐบาลเปลี่ยนแปลงที่จะลงพื้นที่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มี ที่ผ่านมาก็เรียบร้อยดี รัฐมนตรีก็ยังต้องลงพื้นที่ก็ต้องไปให้ครบ ต่อข้อถามว่า เริ่มท้อถอยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “ไม่ครับ ผมคิดถึงคนส่วนใหญ่ จะมากังวลกับคนจำนวนน้อยไม่ได้ คำว่าจำนวนน้อยเดี๋ยวจะถูกโต้แย้งว่าเสื้อแดงน้อยหรือเสื้อแดงมาก มันไม่ใช่นะครับ คนจำนวนน้อยในที่นี้คือคนที่ไม่เคารพกฎหมาย ผมจะมากังวลกับคนที่ทำผิดกฎหมายหรือเป็นปฏิกิริยาการปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ ผมต้องปฏิบัติหน้าที่กับคนส่วนใหญ่

ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นเพราะรัฐบาลลงพื้นที่แล้วได้ผลเขาจึงเกิดความหวั่นไหว นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้พูดว่าได้ผลหรือไม่ได้ผล ถือว่าเป็นการเคลื่อนไหวตอบโต้ทางการเมือง ถ้าเขาทำอยู่ในขอบเขตก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเกินขอบเขตก็ต้องดำเนินการ เมื่อถามว่าในอนาคตห่วงว่าจะรุนแรงกว่าระเบิดปิงปองหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าเราต้องไม่ให้มี การดำเนินคดีต้องมีประสิทธิภาพ เมื่อถามว่ามีการมองว่าเป้าหมายคือการยุบสภา นายกฯคิดว่าจะเดินไปถึงจุดนั้นได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าตนยุบสภาไม่ได้หรอก เพิ่งยื่นญัตติอยู่ ห้ามยุบสภาฯ ถ้าตนแพ้ญัตติคุณเฉลิมก็เป็นนายกฯ

ผู้สื่อข่าวถามว่าการลงพื้นที่ครั้งหน้าต้องเพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมามองว่าเขาพยายามทำอย่างดีที่สุด ต้องเห็นใจเจ้าหน้าที่เหมือนกัน ฝ่ายที่ป้องกันฝ่ายที่ระวัง กับฝ่ายที่กระทำ มันก็ไม่ง่าย ที่ผ่านมาเขาก็ทำได้ดีพอสมควร แต่ต้องดูเก็บเกี่ยวบทเรียนไป เมื่อถามว่าเป็นเพราะไม่ดำเนินการเด็ดขาดเขาถึงกล้ามาทำขนาดนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มันไม่มีแบบนี้ ครั้งที่แล้วมีขวดน้ำ ตนก็บอกว่าพอเข้าใจกันได้ ไม่ได้ทำให้ใครบาดเจ็บหรือเสียหายอะไร แต่ครั้งนี้มันไม่ได้ มันเป็นระเบิด ต่อข้อถามว่าครั้งต่อไปจะให้เจ้าหน้าที่กันผู้ชุมนุมให้อยู่ไกลออกไปหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เข้าใจว่าพยายามทำแล้ว เท่าที่คุยกับนายสุเทพ บอกว่าทางออกมันแคบ

เมื่อถามว่าคนที่ถูกกระทำครั้งนี้เป็นถึงรองนายกฯที่ดูแลฝ่ายความมั่นคง ถือเป็นการท้าทายรัฐบาลหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้าพูดตรงๆ ท่านก็เป็นเป้าหมายหลัก เป้าหมายหนึ่งอยู่แล้ว เมื่อถามว่ารัฐมนตรีจากพรรคอื่นไม่มีใครโดนกลุ่มเสื้อแดงก่อกวน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จริงๆก็มี ตนคุยกับรัฐมนตรีจากพรรคอื่นๆที่ผ่านมาเวลาไปลงพื้นที่ก็มีบ้าง แต่ว่าอาจจะไม่ได้เป็นข่าว เมื่อถามว่าหากลงพื้นที่ครบ 76 จังหวัดแล้ว จะมีการย้อนกลับมาอีกหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงจะทำต่อเนื่อง เพราะนโยบายต่างๆกำลังนำไปสู่การปฏิบัติ แต่จะลงพื้นที่มากขึ้นคงเป็นช่วงปิดสมัยประชุม

ผู้สื่อข่าวถามว่าตอนนี้พรรคเพื่อไทยเริ่มลงพื้นที่ และกลุ่ม 111 ก็เตรียมเคลื่อนไหวในช่วงหลังสงกรานต์จะมีการลงพื้นที่ไปพูดคุยกับประชาชนเช่นเดียวกัน มองการเคลื่อนไหวตรงนี้อย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ดี นักการเมืองควรเข้าหาประชาชน เมื่อถามว่าประชาชนจะสบสนข้อมูลระหว่างฝ่ายค้านกับรัฐบาลหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ประชาชนต้องใช้วิจารณญาณ เราต้องเชื่อในประชาชน เพราะเราเชื่อในประชาธิปไตย เมื่อถามว่าการเคลื่อนไหวแบบคู่ขนานระหว่างรัฐบาล ฝ่ายค้าน จะสร้างความความแตกแยกให้กับประชาชนหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หวังว่าการลงไปเคลื่อนไหวไม่ใช่ไปสร้างความแตกแยก อย่างรัฐบาลลงพื้นที่ก็ไม่ได้พูดเรื่องการเมือง ไปคุยเรื่องนโยบายที่ทำอยู่ เรื่องพวกนี้จะไปแตกแยกอะไร ส่วนอีกฝ่ายถ้าไปพูดอะไรแตกแยก ตนก็บอกแล้วตบมือข้างเดียวไม่ดัง

เมื่อถามว่าฝ่ายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พยายามลงสู่รากหญ้า โจมตีการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่เป็นไร มันเป็นความคิดเห็นของท่าน ต่อข้อถามว่า มีการระบุว่าเหมือนเด็กสองคนพยายามแก้ไขปัญหาอยู่ ตรงนี้ทำให้ขาดความเชื่อมั่นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ หัวเราะพร้อมกับกล่าวว่า ตนเป็นผู้ใหญ่เกินกว่าที่จะไปตอบโต้ ต่อข้อถามว่า คิดที่จะสกัดกั้นการโฟนอินน์ของพ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีความจำเป็นที่ต้องไปทำอะไรอย่างนั้น

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีนายใจ อึ๊งภากรณ์ ว่าจะนำตัวมาดำเนินคดีอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เข้าใจว่าเจ้าหน้าที่มีที่อยู่อยู่แล้ว เมื่อถามว่าเขาถือ 2 สัญญาชาติจะสามารถดำเนินการได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงต้องดูตามข้อตกลงตามกระบวนการกฎหมาย ตำรวจเขาดูอยู่

เตรียมหารือปธ.สภาฯกำหนดวันซักฟอก เผยว่าง 25-27 มี.ค.นี้

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยระบุว่าไม่สามารถเปิดตัวผู้อภิปรายได้เพราะมีการล็อบบี้จากฝ่ายรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีหรอก ตนประกาศตั้งแต่ต้นว่ายอมรับการตรวจสอบ อยากให้เขาทำหน้าที่ของเขาเต็มที่ ตนเป็นฝ่ายค้านมากี่ปีจำไม่ได้แล้ว แต่ก็รู้ว่าเป็นหน้าที่ที่ต้องทำและเป็นหน้าที่ที่สำคัญ อยากให้รัฐบาส สังคม ยอมรับการทำหน้าที่ตรงนี้ เราเรียกร้องมาตลอดตอนเป็นฝ่ายค้าน เมื่อมาเป็นรัฐบาลเราก็ต้องยืนยันจุดยืนนั้น พร้อมที่จะถูกอภิปราย ตนสะดวกจริงๆวีนที่ 25-27 มี.ค. แต่ต้องอยู่ที่ท่านประธานสภาฯ ส่วนจะเปิดให้ยาวเลยหรือไม่นั้นก็แล้วแต่จะตกลง แต่ที่ทราบ 2วัน ของตน 1 วันเต็มๆ

ผู้สื่อข่าวถามว่าการอภิปรายถ้าข้อมูลครบ ชัดเจนเพียงพอ เป็นไปได้หรือไม่ที่จะไม่ยกมือให้รัฐมนตรีตัวเอง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องเห็นข้อมูลก่อนว่าหนักแค่ไหน ยังไม่ทราบ การอภิปรายหลายครั้งส่งผลในทางการเมือง มีการเปลี่ยนแปลงบ้าง อาจจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงรัฐบาล ก็เปลี่ยนในรัฐบาล ครั้งนี้เราอยู่ในระบบรัฐสภาฯ ก็ให้เกียรติกัน ขอฟังข้อมูลก่อน ถ้ามีน้ำหนักเป็นประโยชน์ในการชี้ รัฐบาลปรับเปลี่ยนแล้วมันบริหารดีขึ้นก็ควรจะทำ แต่หากว่าไม่ได้ส่งให้ให้ต้องมีการเปลี่ยนแปลง หรือเปลี่ยนแล้วไม่ดีขึ้นก็ควรจะเดินหน้าต่อ เมื่อถามว่า จะไม่มีการบังคับว่าต้องโหวตไปในทิศทางเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีหรอก จริงๆที่ผ่านมาทุกพรรคการเมืองจะดูข้อสันนิษฐานว่ามันไม่มีปัญหาอะไร แต่พอฟังข้อมูลเสร็จก็ต้องไปประชุมพรรคกัน ครั้งนี้ก็คงเหมือนกัน