“เฉลิม” ฟุ้งก่อนซักฟอกมีข้อมูลเด็ด เชื่อรัฐบาลอ่วมแน่ ชี้อย่าดูถูกข้อมูลเก่า ขอให้ลองฟังให้ดี แฉรัฐบีบหน่วยราชการเปิดคำให้การ พร้อมท้าทีพีไอฟ้อง อ้างมีข้อมูลเช็คครบถ้วน แนะตั้งทีมทนายฝีมือดีไว้ได้เลย ทำเก่งแจงตัวเลขละเอียดยิบมีเงิน 227 ล้านนำไปใช้ผ่าน 8 โครงการ ทำฉุนนักวิชาการหยามศึกซักฟอกรัฐบาลเหลว ย้อนไม่เคยให้ราคา
วันนี้ (19 มี.ค.) ที่รัฐสภา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน และประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่า อยากให้พรรคประชาธิปัตย์ติดตามฟังว่าตนมีหลักฐานอะไรบ้าง อย่ามาถามว่าเป็นข้อมูลเก่าหรือไม่ ยืนยันว่าเป็นข้อมูลที่ใหม่กว่าสมัยพรรคประชาธิปัตย์อภิปรายไม่ไว้วางใจนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย เป็นนายกฯ สิ่งที่ตนอยากบอกคือ คนในรัฐบาลกำลังบีบบังคับหน่วยราชการให้ส่งคำให้การมาให้รัฐบาล ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้รัฐบาลบอกว่าไม่ผิด ชี้แจงได้แล้วทำไมต้องไปบังคับขู่เข็ญข้าราชการ
“ก็ไหนรัฐบาลบอกว่าเก่ง แล้วทำไมต้องไปขู่เข็ญเขาตั้งแต่เมื่อคืน พอเขาไม่ให้ ตอนเช้าก็เอาอีกแต่เขาก็ไม่ให้ จะขอถ่ายเอกสารมา ก็ไหนบอกว่าพรรคประชาธิปัตย์มาตรฐานสูง ไหนว่ามีความซื่อสัตย์สุจริต สะอาดกว่าพรรคการเมืองอื่น แล้วทำอย่างนี้ทำไม” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่บริษัท ทีพีไอโพลีน ระบุว่าจะฟ้องร้องตนถ้าอภิปรายพาดพิงนั้น อยากบอกว่าตนมีข้อมูลครบถ้วน โดยเฉพาะเรื่องเช็คที่ให้กับบริษัท เมสไซอะ จำนวน 27 ใบนั้น ที่ถ่ายเอกสารมามันไม่ชัดเจนว่ามีหมายเลขอะไรบ้าง เพราะที่ถ่ายออกมาดูได้แค่ 16 ใบ จึงต้องถามว่าอีก 11 ใบอยู่เส้นทางสายไหน นำเงินไปไว้ที่ไหน และไปไว้กับใคร เรื่องนี้ตนมีข้อมูลครบถ้วน ดังนั้น ถ้าบริษัททีพีไอจะฟ้องก็เชิญฟ้องได้เลย แต่ขอให้ตั้งทีมทนายดีๆ เพราะการบริจาคเงินครั้งนี้ไม่ใช่เงินบริจาคแต่เป็นเงินโจร เป็นเงินในตลาดหลักทรัพย์ที่มีบริษัทมหาชนถือหุ้น จึงไม่สามารถนำออกมาได้
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวอีกว่า เรื่องนี้ตนตรวจสอบแล้วไม่พบว่ามีการรายงานว่านำเงินไปทำอะไร แต่มีการระบุว่านำไปใช้ 8 โครงการ จำนวนเงิน 227 ล้านบาท และก่อนหน้านั้นก็มีการนัดพบกันที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านราชประสงค์ มีการมอบเงินอีก 36 ล้านบาท ตนไม่เคยพูดว่า 258 ล้านบาทแต่จะบอกว่าเป็น 263 ล้านบาทและก็ยังมีอีก 26.9 ล้านบาท แต่ที่เป็นประเด็นคือโครงการต่างๆต้องมีกรรมการ 2 ใน 9 เซ็นต์อนุมัติ แต่ปรากฏว่ามีการเซ็นต์อนุมัติเพียงคนเดียวทำให้สัญญาเป็นโมฆะ
ผู้สื่อข่าวถามว่า หน่วยงานใดที่รัฐบาลบังคับให้ส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการอภิปรายมาให้ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนไม่บอกว่าเป็นหน่วยงานใด แต่ขอให้ฟังข้อมูลที่ตนจะอภิปรายให้ดี เรื่องนี้ตนเชื่อว่าสื่อมวลชนและประชาชนจะเข้าใจ ซึ่งหลังจากการอภิปรายในช่วงเช้าแล้วตนจะเก็บตัวอยู่ที่ห้องประธานวิปฝ่ายค้าน ส่วนรัฐบาลบังคับให้หน่วยราชการส่งข้อมูลให้อย่างไร ร.ต.อ. เฉลิม กล่าวว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อปลายปี 2551 ที่มีพยานมาทวงถามสิทธิที่ควรจะได้รับ แต่ปรากฏว่าไม่ให้เขาแล้วยังหลอกให้เซ็นชื่อในเอกสาร 40 แผ่น ด้วยปากกา 20 ด้ามที่มีน้ำหมึกของปากกาไม่เหมือนกัน เพื่อหวังว่าจะไม่มีความผิด แต่อยากบอกว่าเข้าใจผิด เพราะการตรวจพิสูจน์หลักฐานสามารถตรวจสอบได้ ดังนั้นใครจะดูหมิ่นดูแคลนตนว่าเป็นข้อมูลเก่าต้องฟังให้ดี
ส่วนกรณีที่มีนักวิชาการบางคนระบุว่าฝ่ายค้านอภิปรายเท่าไหร่ก็ไม่เป็นผลเพราะประชาชนยังให้โอกาสรัฐบาลอยู่นั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนไม่ได้บอกว่าจะไม่ให้โอกาส นักวิชาการออกมาวิจารณ์นั้นตนก็ไม่เคยให้แต้มอยู่แล้ว ทั้งนี้ส่วนตัวแล้วก็รักใคร่ชอบพอกับนายอภิสิทธิ์ ดังนั้นถ้านายอภิสิทธิ์ชี้แจงได้ก็ไม่มีปัญหา