xs
xsm
sm
md
lg

“ปชป.” ดักคอ “เหลิม” อย่าตีขลุมซักฟอก หากไม่มีหลักฐาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เทพไท เสนพงศ์ โฆษกส่วนตัวนายกรัฐมนตรี
“เทพไท” เหน็บฝ่ายค้านขอเพิ่มวันอภิปรายฯ แค่เกมต่อรอง เชื่อฝ่ายค้านยื่นญัตติก็ต้องพร้อมซักฟอก เผยรัฐบาลต่างหากที่ฉุกละหุกหาข้อมูลเก่าเก็บตั้งแต่สมัยยังไม่มีคอมพิวเตอร์ ดักคอ “เฉลิม” อย่าตีขลุมซักฟอกงบบริจาค 258 ล้าน ทั้งที่ไม่มีหลักฐานชัด ข้องใจเรื่องอยู่ระหว่างสอบสวนของดีเอสไอกลับดึงมาอภิปรายหวังผลทางการเมือง

วันนี้ (18 มี.ค.) ที่รัฐสภา นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรกำหนดการประชุมวันอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นวันที่ 19-20 มี.ค.ว่า เป็นอำนาจของประธานสภาฯ และเชื่อว่าพรรคฝ่ายค้านจะต้องมีความพร้อมอยู่แล้ว ถ้าไม่มีความพร้อมจะยื่นญัตติได้อย่างไร ฝ่ายรัฐบาลต่างหากที่มีความฉุกละหุกในการเตรียมประเด็นที่จะตอบคำถาม เพราะบางเรื่องเป็นเรื่องเก่าที่ล่วงเลยมาหลายปีแล้ว ต้องใช้เวลาในการไปหาข้อมูลย้อนหลัง อาทิ กรณีการเป็นสมาชิกพรรคของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อปี 2535 พรรคจะต้องไปหาข้อมูลย้อนหลัง ซึ่งเป็นยุคที่ยังไม่มีคอมพิวเตอร์บันทึกข้อมูลรวม ดังนั้น พรรคฝ่ายค้านจะเบี่ยงเบนประเด็นว่าได้มีข้อตกลงจะอภิปรายในวันที่ 26-27 มี.ค.จึงเป็นเรื่องแก้เกี้ยวในความพร้อมของตัวเองมากกว่า และพยายามเล่นเกมต่อรองจำนวนวันอภิปรายให้เพิ่มเป็น 3 วันทั้งที่ก่อนหน้านี้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทยประกาศว่าจะใช้เวลา 2 วันเท่านั้น

“ร.ต.อ.เฉลิมต้องใช้ความเป็นหัวหน้าทีมอภิปรายฯแสดงภาวะผู้นำปิดปากลูกพรรค ไม่ควรออกมาโวยวาย ไม่ใช่มาแสดงความเห็นแบบแก้ผ้า เอาหน้ารอดว่า เห็นด้วยกับการอภิปราย 2 วันก็ได้ แต่เรื่อง 3 วันเป็นเรื่องความต้องการของลูกพรรคที่มีข้อมูลมาก จึงเห็นว่า ขอให้ใช้ข้อมูลที่มีอยู่ให้ครบ 2 วันเสียก่อน จึงจะมาเรียกร้องเพิ่มอีก 1 วัน” นายเทพไท กล่าว

นายเทพไทกล่าวต่อว่า ส่วนการที่ ร.ต.อ.เฉลิมได้ประกาศว่าจะอภิปรายเรื่องเงินจำนวน 258 ล้านของบริษัท ทีพีไอ นั้นก็เป็นสิทธิและเป็นความรับผิดชอบที่จะพาดพิงถึงคนนอกและบุคคลที่ 3 แต่ถ้าไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงมาถึงพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่ควรที่จะอภิปรายประเภทตีขลุมให้พรรคเสียหาย แต่ถ้าข้อมูลเกี่ยวข้องกับตัวบุคคลก็เป็นเรื่องส่วนตัวของบุคคลนั้นๆ ก็อย่าโยงถึงพรรคว่ามีส่วนเกี่ยวข้องด้วย เพราะเรื่องนี้กำลังอยู่ในกระบวนการยุติธรรมที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กำลังตรวจสอบหาหลักฐานเพื่อดำเนินคดี จึงไม่แน่ใจว่าจะสามารถนำมาใช้อภิปรายเพื่อหวังผลทางการเมืองได้หรือไม่ เพราะในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ ตนได้อภิปรายประเด็นคดีหมิ่นประมาทที่นายสมัครเป็นจำเลย ซึ่งศาลชั้นต้นได้พิพากษาตัดสินให้จำคุกแต่คดีอยู่ในระหว่างอุทธรณ์ ร.ต.อ.เฉลิมก็เป็นคนที่ลุกขึ้นประท้วงการอภิปรายของตน โดยอ้างว่าเรื่องดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของกระบวนการยุติธรรม ไม่สามารถนำมาอภิปรายฯได้ ดังนั้น เรื่องเงิน 258 ล้านบาทก็ถือเป็นเรื่องอยู่ในกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ และจะนำมาเพื่ออภิปรายในครั้งนี้อาจจะส่งผลต่อการดำเนินการของกระบวนการยุติธรรมหรือไม่
กำลังโหลดความคิดเห็น