“หน่อย” ปัดจูบปาก “ห้อย” เผย “แม้ว” แค้นจัด ส.ส.หนีซบ “เพื่อนเนวิน”

“สุดารัตน์” ปฏิเสธเข้าร่วมงานการเมืองกับ “เนวิน” อ้างเด็กในคาถาย้ายซบ “ภูมิใจไทย”เอง โดยไม่ได้ขออนุญาต ด้านแหล่งข่าวใน “เพื่อไทย” เผย “ทักษิณ” แค้นจัด พวกชิ่งหนีพรรค ลั่นเลือกตั้งครั้งหน้าได้เห็นกัน ด้าน “ศิธา” ยัน “เจ๊หน่อย” ไม่เกาเหลา “นช.แม้ว”

จากกรณีที่ ร.ต.ปรพล อดิเรกสาร ส.ส.สระบุรี พรรคเพื่อไทย บุตรชายนายปองพล อดิเรกสาร อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ประกาศชัดเจนว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะลงในนามพรรคภูมิใจไทย พร้อมระบุว่ายังมี ส.ส.พรรคเพื่อไทยอีกหลายคนที่จะย้ายมาสังกัดพรรคภูมิใจไทย เช่น น.ส.ศิลัมพา เลิศนุวัฒน์ บุตรสาวนายสัมพันธ์ อดีต ส.ส.กทม และล่าสุด น.ส.ศุภมาศ อิศรภักดี อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย กลุ่มคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตกรรมการบริหารพรรค มาร่วมประชุมในวันนี้ด้วย ขณะที่ ส.ส.หลายคนอยากให้พรรคมีมติขับ ร.ต.ปรพล ออกจากการเป็นสมาชิกพรรค เพื่อแสดงความเป็นเอกภาพ แต่ติดปัญหารัฐธรรมนูญ 2550

แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทยเปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าว พ.ต.ท.ทักษิณ อดีตนายกฯ ที่หลบหนีคดีอยู่ต่างประเทศ และเป็นผู้กุมอำนาจในพรรคเพื่อไทยอย่างแท้จริง บอกว่า รู้มานานแล้ว โดยช่วงที่อยู่ฮ่องกง พ.ต.ท.ทักษิณ ถึงกับพูดว่า “ส.ส.บางคนในเพื่อไทยนึกว่าผมไม่รู้ ปากก็บอกว่ารักผม จะอยู่ช่วยสนับสนุนผม จะอยู่ช่วยพรรคเพื่อไทย ไปรับเงินแล้วไปช่วยคนอื่น ซึ่งผมมีรายชื่อคนเหล่านี้ไว้หมดแล้ว ถ้าลงเลือกตั้งได้เห็นกัน ส่วนพวกที่ยังไม่ไปบางคนก็ยังจะให้โอกาส แต่ก็ต้องมีการดำเนินการอะไรกันบ้าง”

ด้านคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงกระแสข่าวจะไปย้ายไปร่วมกับพรรคภูมิใจไทยว่า ไม่เป็นความจริง ตนไม่ได้ย้ายไปไหน ไร้สาระ ไม่ได้ยุ่งการเมือง เพราะเป็นอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง เปรียบเสมือนนักฟุตบอลที่กรรมการบอกให้ไปอยู่ข้างสนาม และต้องรอเวลาอีก 3 ปี โดยขณะนี้ตนอยู่เฉยๆ ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับใครเพราะทุ่มเทกับการทำมูลนิธิไทยพึ่งไทย

“อย่าเอาพี่ไปยุ่งกับรักสามเศร้า คน 3 กลุ่ม คือพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย และกลุ่มพันธมิตรฯ ที่กำลังแก่งแย่งอะไรกันอยู่ ปล่อยให้พี่อยู่อย่างสงบดีกว่า และขณะนี้ก็ไม่มีสังกัดและดูแล ส.ส.กลุ่มไหน เพราะเป็นคนนอกเอาไว้ว่างๆ จะพาสื่อมวลชนไปดูการทำงานของมูลนิธิจะได้เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

ส่วนกรณีที่ น.ส.ศุภมาส อิสรภักดี อดีต ส.ส.กทม.พรรคไทยรักไทย อ้างว่าได้รับการอนุญาตให้ไปอยู่พรรคภูมิใจไทย คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า น.ส.ศุภมาสไม่ได้มาขออนุญาตตน แต่เขาได้ลาออกจากพรรคเพื่อไทยก่อนแล้วถึงมาเจอตน และเขาก็ยืนยันว่าไม่ย้ายไปพรรคภูมิใจไทย บอกว่าจะอยู่เฉยๆ ซึ่งตนอยากฝากไปบอก น.ส.ศุภมาส ว่าหากอยู่เฉยๆ ก็สบายไปแล้ว

น.ต.ศิธา ทิวารี อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และแกนนำภาค กทม.สมัยพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า จากการเช็คจำนวน ส.ส.ของกลุ่ม กทม.พรรคเพื่อไทยไม่มีใครย้ายไปร่วมกับพรรคภูมิใจไทย มีเพียง น.ส.ศุภมาส อิสรภักดี ที่ไปร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย เพราะมีความใกล้ชิดสนิมสนมกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล แกนนำพรรคภูใจไทย

ทั้งนี้ จากการสอบถาม น.ส.ศุภมาส ที่บอกว่าคุณหญิงสุดารัตน์ไม่ได้ว่าอะไรนั้น ก็เป็นความจริง เพราะคุณหญิงสุดารัตน์ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง และเคยบอกว่า ใครจะไปไหนก็ไป และตนขอยืนยันว่าคุณหญิงสุดารัตน์ไม่มีปัญหาอะไรกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรด้วยและ ส.ส.ในกลุ่มก็พร้อมทำงานร่วมกับพรรคเพื่อไทยต่อไป

เมื่อถามว่ามีการมองว่าคุณหญิงสุดารัตน์เคยมีความขัดแย้งกับนายเนวิน น.ต.ศิธา กล่าวว่าไม่มีความขัดแย้งกัน โดยเฉพาะวัตถุประสงค์ของงานไม่มีปัญหา แต่ความคิดเห็นอาจจะแตกต่างกัน เพราะบางคนอาจชอบใช้วิธีฮาร์ดคอร์ ขณะที่อีกคนใช้ซอฟต์คอร์ ส่วนในอนาคตจะทำงานด้วยกันได้หรือไม่ยังไม่สามารถตอบได้ เพราะเหลือเวลาการตัดสิทธิทางการเมืองอย่างน้อย 3 ปี

“การร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยนั้นก็ไม่รู้จะไปได้หรือไม่ เพราะเป็นพรรคใหม่ที่ยังไม่ผ่านการเลือกตั้ง และที่ผ่านมาพรรคการเมืองที่อยู่ตรงข้ามกับพรรคประชาธิปัตย์และกลุ่มพันธมิตรประชาเพื่อประชาธิปไตยก็จะไปไม่รอด จะต้องถูกยุบพรรคการเมือง มีเพียงพรรคการเมืองที่ยอมศิโรราบเท่านั้นที่อยู่ได้” น.ต.ศิธา กล่าว