“ไข่แม้ว” โวซักฟอกแพ้เสียง ส.ส. แต่ชนะใจคนนอกสภา

โฆษกพรรคเพื่อไทย ป้ายสีรัฐบาลรายวัน ชี้เงินประกันตนและแจกเบี้ยยังชีพถือเป็นการหาเสียงล่วงหน้า ถอดใจไม่กล้าเด็ดหัวงูเห่า “ปรพล” พ้นพรรคแม้ทำตัวนอกคอก ปากกล้าไม่หวั่นรัฐบาลชิงเลื่อนอภิปราย อ้างแอบพึ่งไสยศาตร์ ชิงออกตัวแม้เสียงในสภาจะสู้ไม่ได้ ฟุ้งแต่จะชนะใจคนนอกสภา

วันนี้ (17 มี.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีที่รัฐบาลเตรียมแจกเงินให้กับข้าราชการและผู้ประกันตนทีมีรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาทจำนวน 2,000 บาท และกรณีแจกเบี้ยยังชีพจำนวน 500 บาทให้แก่ผู้สูงอายุว่า จากการลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 14 มี.ค. พบว่ามีการใช้โครงการดังกล่าวหาเสียงล่วงหน้า โดยมีการขึ้นป้ายที่มีรูปนายศุภชัย ศรีหล้า และนายวุฒิพงษ์ นามบุตร ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมข้อความว่า “เชื่อมั่นประเทศไทย มั่นใจประชาธิปัตย์ ข้าราชการ ลูกจ้างรับ 2,000 บาท ช่วยชาติ ช่วยเศรษฐกิจไทย” และ “ได้แล้ว เบี้ยยังชีพพ่อใหญ่ แม่ใหญ่ เดือนละ 500 บาท” ทั้งๆ ที่ชาวบ้านยังไม่ได้รับเงินเลย โดย ส.ส.ทั้ง 2 คนโดนใบเหลืองจาก กกต.เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.2551 ซึ่งถ้าหากศาลฎีกาชี้ว่าผิดจริงก็จะต้องมีการเลือกตั้งใหม่ การขึ้นป้ายในลักษณะนี้จึงเหมือนเป็นการหาเสียงล่วงหน้า ขอถามว่าเหมาะสมหรือไม่ที่นำเงินหลวงมาหาเสียง และขอถามไปถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ว่าถ้าหัวไม่ส่ายหางจะกระดิกได้อย่างไร ถ้าผู้ใหญ่ไม่ให้ท้ายลูกแถวมีหรือจะกล้า การกระทำลักษณะนี้ถือว่าผิดพรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง การได้มาซึ่ง ส.ส.และ ส.ว. พ.ศ.2550 ซึ่งพรรคเพื่อไทยกำลังพิจารณาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นายพร้อมพงศ์กล่าวถึงกรณีที่ ร.ต.ปรพล อดิเรกสาร ส.ส.สระบุรี ระบุว่า แม้ชื่อจะอยู่พรรคเพื่อไทย แต่ตัวและหัวใจอยู่พรรคภูมิใจไทยว่า ส.ส.หลายคนอยากให้พรรคมีมติขับ ร.ต.ปรพลออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อแสดงความเป็นเอกภาพ แต่รัฐธรรมนูญ 2550 ซึ่งเป็นฉบับเผด็จการมุ่งหมายให้พรรคการเมืองอ่อนแอ ให้เอกสิทธิ์ ส.ส.ในการโหวตโดยไม่ต้องฟังมติพรรค ซึ่งเชื่อว่าทุกพรรคการเมืองทั้งพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทยก็อาจจะมีการโหวตสวนเช่นเดียวกัน ดังนั้น แกนนำพรรคและกรรมการบริหารพรรคได้หารือและมีมติว่า จะไม่ขับ ร.ต.ปรพลออกจากพรรค แต่ในแง่ของจริยธรรม คุณธรรม และอุดมการณ์นั้น จะให้ประชาชนชาวสระบุรีเป็นคนตัดสินในการเลือกตั้งสมัยหน้า ร.ต.ปรพลนั้นแม้ว่าอาจจะได้รับเงินเดือนสูงกว่าหรือค่าตอบแทนที่ดีกว่า หรืออุดมการณ์อาจจะเปลี่ยนไป แต่เราจะให้อยู่อย่างนี้ต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า ส.ส.ของพรรคที่มีพฤติกรรมเหมือน ร.ต.ปรพลยังมีอีกหรือไม่ เพราะมี ส.ส.บางคนออกมายอมรับว่า มีอีกประมาณ 20-30 คน นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า เป็นเพียงข่าวลือ เพราะมีเพียง ร.ต.ปรพลคนเดียวเท่านั้น

นายพร้อมพงศ์กล่าวถึงการเลื่อนวันอภิปรายไม่ไว้วางใจให้เร็วขึ้น มาเป็นวันที่ 19-20 มี.ค. และลงมติในวันที่ 21 มี.ค.ว่า ก่อนหน้านี้นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ออกมาตั้งแง่ถึงการลงชื่อในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี ที่ส.ส.พรรคเพื่อไทยลงชื่อทั้ง 2 ฉบับว่า อาจจะขัดต่อกฎหมายหรือไม่ มาวันนี้นายชัยออกอากการกลัวอะไรสักอย่าง โดยเลื่อนวันอภิปรายให้เร็วขึ้น เพราะเท่าที่รู้มาพรรคประชาธิปัตย์และรัฐบาลไปดูฤกษ์ผานาที พึ่งไสยศาสตร์ เพราะเชื่อว่าหากมีการอภิปรายในวันที่ 19-20 มี.ค.นั้นรัฐบาลอาจจะรอด แต่ไม่เป็นไร พรรคเพื่อไทยมีความพร้อม จะอภิปรายเมื่อไหร่ก็ได้ จะเอาเปรียบอย่างไรก็เชิญ ขอย้ำว่าเราจะชี้ให้เห็นถึงพฤติกรรมฉ้อฉล ขัดต่อรัฐธรรมนูญและกฎหมายอื่นๆ อย่างไร แม้เสียงในสภาจะสู้ไม่ได้ แต่เชื่อว่าเสียงนอกสภาจะล้นหลาม คนที่ตัดสินใจยกมือไว้วางใจนายอภิสิทธิ์และรัฐมนตรีจะต้องเอาปี๊บคลุมหัว เพราะไม่กล้ากลับไปสู้หน้าประชาชนในพื้นที่