โฆษกพรรคเพื่อไทย ประโคมข่าวยื่นถอดถอนนายกฯ ทุจริตต่อหน้าที่พรุ่งนี้ เมินประชาราช ไม่ร่วมสังฆกรรมยื่นญัตติอภิปราย รมต.12 มี.ค.ด้าน “สุรพงษ์” ค้านพระปกเกล้าเป็นเจ้าภาพศึกษาปฏิรูปการเมือง เหน็บ เอาคนรับใช้ คมช.มาร่าง รธน.เชื่อซ้ำรอย รธน.ปี 51
วันนี้ (10 มี.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงความคืบหน้าในการยื่นถอดถอนนายกรัฐมนตรี และยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้างใจรัฐบาล ว่า ในวันพรุ่งนี้(11 มี.ค.) พรรคเพื่อไทย นำโดย นายวิทยา บุรณะศิริ ประธานวิปฝ่ายค้าน และ นายพีระพันธุ์ พาลุสุข หัวหน้าคณะทำงานยื่นถอดถอนนายกรัฐมนตรี รวมทั้ง ส.ส.จะเดินทางไปยื่นถอดถอนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ต่อ นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ในเวลา 10.00 น.ที่ห้องรับรองประธานวุฒิสภา โดยจะยื่นใน 14 ประเด็นที่มีลักษณะความผิดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 158 ที่มีลักษณะเข้าข่ายไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายอื่น ตลอดจนมีพฤติกรรมทุจริตประพฤติมิชอบ และบกพร่องต่อหน้าที่ สำหรับการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ และรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลนั้น ยังอยู่ระหว่างการประสานกับ นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ซึ่งคาดว่าจะสามารถยื่นญัตติอภิปรายได้ภายในวันที่ 11 หรือ 12 มี.ค.ส่วนสาเหตุที่เลื่อนการยื่นถอดถอนจากวันที่ 10 มี.ค.เป็นวันที่ 11 มี.ค.นั้น เนื่องจากติดขัดในส่วนของทีมประสานงานกับประธานวุฒิฯ
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคประชาราช ได้แจ้งความจำนงเพื่อลงชื่อในญัตติด้วยหรือไม่ นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า เบื้องต้นเท่าที่ตรวจสอบนั้น จำนวน ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยมีเกินที่ต้องการแล้ว
นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่สถาบันพระปกเกล้า รับเป็นเจ้าภาพการปฏิรูปการเมือง โดยให้ นายสุจิต บุญบงการ ประธานสภาพัฒนาการเมือง เป็นประธานคณะกรรมการศึกษารวบรวมรับฟังความคิดเห็นและเสนอแนะการพัฒนาประชาธิปไตยและการเมืองการปกครอง ว่า ตนมองว่า สถาบันพระปกเกล้า ไม่เป็นกลาง และไม่ใช่วิธีแก้ไขที่ถูกต้อง เป็นเพียงการซื้อเวลาเพื่อยืดเวลาของรัฐบาลออกไปเท่านั้น เพราะดูจากความตั้งใจของรัฐบาลที่แต่งตั้ง นายสุจิต นายชัย ชิดชอบ และ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณแล้ว ก็เป็นคนของเขาทั้งนั้น จึงไม่มีความเป็นกลาง
นายสุรพงษ์ กล่าวอีกว่า ทางแก้หรือทางที่จะทำให้รัฐธรรมนูญออกมาดีที่สุด คือ คนที่เป็นฝ่ายปฏิบัติ ก็คือ ส.ส.ที่รู้ข้อบกพร่องดีที่สุดอยู่แล้ว แม้จะเถียงกันให้ตายในสภา แต่พอในชั้นกรรมาธิการก็จะเป็นการแก้กันด้วยเหตุด้วยผล ซึ่งทางออกจะมีอยู่ตลอด การนำนักวิชาการมาร่างรัฐธรรมนูญนั้น ก็คือ สิ่งที่ คมช.เคยทำมาแล้วในอดีต แล้วสุดท้ายก็จะเละเหมือนรัฐธรรมนูญปี 2550
“คนที่ออกมาให้สัมภาษณ์ตอนนี้ล้วนเป็นคนที่ร่างรัฐธรรมนูญ 2550 มาทั้งนั้น แล้วครั้งนี้จะไปร่างอะไรให้แตกต่างจากรัฐธรรมนูญปี 2550 ได้ และยังไม่ได้แก้ปัญหาความขัดแย้งหรือทำให้เกิดความปรองดองได้เลย ต้องเอาคนที่ประชาชนเลือกมาเป็นตัวแทนของเขา นั่นก็คือ พวกผมที่มาจากรัฐธรรมนูญปี 2550 ประชาชนแต่งตั้งให้มาเป็นผู้แทนฯ การให้ ส.ส.ในพื้นที่มาร่างรัฐธรรมนูญจึงจะถือว่าถูกต้อง ซึ่งเรื่องนี้ผมไม่เห็นด้วยมาตั้งแต่แรกแล้ว เพราะแค่อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่แล้ว บอกว่าเอาคนกลาง เอาสถาบันพระปกเกล้าฯ ก็พวกคุณทั้งนั้น นายบวรศักดิ์ เองก็คนรับใช้ คมช.ไม่ใช่หรือ” นายสุรพงษ์ กล่าว
