xs
xsm
sm
md
lg

ป.ป.ช.เชือด “วัฒนา” ทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วัฒนา เมืองสุข
ป.ป.ช.มีมติส่งอัยการสูงสุด ฟ้อง “วัฒนา เมืองสุข” อดีต รมว.พัฒนาสังคมฯ ทุจริต จัดซื้อจัดจ้างบริษัทเอกชน โดยการเคหะแห่งชาติในโครงการบ้านเอื้ออาทร ขณะเดียวฟันอาญา “สุวิทย์ เดชภูมี” อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร ทุจริตในการจัดซื้อ วัสดุป้ องกันโรคไข้เลือดออก


วันนี้ (18 มี.ค.) นายกล้านรงค์ จันทิก โฆษกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงว่า ได้มีการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. โดยมีเรื่องสำคัญที่ควรแถลงให้สื่อมวลชนทราบ จำนวน 2 เรื่อง ดังนี้ 1. เรื่องการพิจารณาข้อไม่สมบูรณ์ในเรื่องกล่าวหา นายวัฒนา เมืองสุข เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กับพวก ร่วมกันกระทำทุจริตเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างเอกชน โดยการเคหะแห่งชาติ ในโครงการบ้านเอื้ออาทรตามที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ได้ส่งสำนวนการตรวจสอบไต่สวน ไปให้อัยการสูงสุดยื่นฟ้ องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เรื่องกล่าวหา นายวัฒนา เมืองสุข เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กับพวก กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญา กรณีร่วมกันเรียก รับเงินจากผู้ประกอบการซึ่งเป็นเอกชนในการจัดซื้อจัดจ้างโครงการบ้านเอื้อาทรของการเคหะแห่งชาติ

ต่อมา คตส. ได้ส่งมอบสำนวนและเรื่องต่าง ๆ มาให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขฉบับที่ 30 เรื่อง การตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ ลงวันที่ 30 กันยายน พุทธศักราช 2549 พ.ศ. 2550 นั้นปรากฏว่า เรื่องนี้อัยการสูงสุด มีความเห็นว่าสำนวนการตรวจสอบไต่สวนดังกล่าวยังมีข้อไม่สมบูรณ์พอที่จะฟ้องคดี และได้มีหนังสือลงวันที่ 29 กรกฎาคม 2551 แจ้งข้อไม่สมบูรณ์มายังคณะกรรมการ ป.ป.ช. พร้อมแต่งตั้ง คณะทำงานผู้แทนฝ่ายอัยการสูงสุด จำนวน 10 คนมาให้พิจารณาซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาในการประชุม เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2551 แล้วมีมติให้ตั้ง คณะทำงานผู้แทนฝ่ายคณะกรรมการ ป.ป.ช. โดยมี นายประสาท พงษ์ศิวาภัย และนางสาวสมลักษณ์ จัดกระบวนพลกรรมการ ป.ป.ช. พร้อมเจ้าหน้าที่และผู้ทรงคุณวุฒิ รวม 10 คนเป็นคณะทำงาน เพื่อให้คณะทำงานของทั้ง สองฝ่ายร่วมกัน พิจารณาพยานหลักฐานที่ไม่สมบูรณ์และรวบรวมพยานหลักฐานให้สมบูรณ์

บัดนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้รับรายงานว่า คณะทำงานร่วมระหว่างผู้แทนฝ่ายคณะกรรมการ ป.ป.ช. และฝ่ายอัยการสูงสุด ได้ดำเนินการพิจารณาพยานหลักฐานที่ไม่สมบูรณ์และรวบรวมพยานหลักฐานให้สมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว และได้ส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดเพื่อฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2542 มาตรา 11 ต่อไปแล้ว

2. เรื่องกล่าวหา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร กับพวกทุจริตในการจัดซือ้ วัสดุป้ องกันโรคไข้เลือดออก (มุ้ง)ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติแต่งตั้ง คณะอนุกรรมการไต่สวน เพื่อดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริง เรื่องกล่าวหา นายสุวิทย์ เดชภูมี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร กับพวก กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่กรณีเข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นในการจัดซื้อ วัสดุป้องกันโรคไข้เลือดออก (มุ้ง) ในเขตพืน้ ที่อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนครโดยมี นายประสาท พงษ์ศิวาภัย กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวน นั้นคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงของคณะอนุกรรมการไต่สวนแล้ว

ซึ่งข้อเท็จจริงฟังได้ว่า เมื่อปี พ.ศ. 2542 ขณะที่ นายสุวิทย์ เดชภูมี ดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร มีหน้าที่รับผิดชอบในการบริหารราชการขององค์การบริหารส่วนจังหวัด ได้ใช้ อำนาจในตำแหน่งเสนอญัตติจ่ายขาดเงินสะสมในการจัดทำโครงการจัดหาวัสดุในการป้องกันโรคไข้เลือดออกในเขตอำเภอวานรนิวาส (มุ้ง) จำนวน 9,250 หลัง วงเงิน 1,850,000 บาท ต่อสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร และเมื่อได้รับอนุมัติจากสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนครแล้วนายสุวิทย์ เดชภูมี ได้ร่วมกับ นายวีระศักดิ์ หล้าพิศาล อดีตสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร กำหนดให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร จัดซือ้ มุ้งขนาด 2x2 เมตร ซึ่งเป็นขนาดที่ไม่มีจำหน่ายตามร้านค้าทั่วไป

จากนั้น นายสุวิทย์ เดชภูมี กับพวก ได้ติดต่อร้านค้าที่รับผลิตและจำหน่ายมุ้งแห่งหนึ่งให้ผลิตมุ้งขนาด 2x2 เมตร จำนวน 9,250 หลัง ในราคาหลังละ 88.50 บาท รวมเป็นเงิน818,625 บาท และให้พิมพ์ข้อความในกระดาษว่า “ด้วยรักและห่วงใยจากนายวีระศักดิ์ หล้าพิศาล”ใส่เข้าไปในถุงบรรจุมุ้งดังกล่าวด้วย แล้วให้พรรคพวกของตนไปดำเนินการจดทะเบียนร้านค้าเพื่อนำหลักฐานไปใช้ในการยื่นซองสอบราคาต่อองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร อีกทัง้ ได้แอบอ้างใช้ชื่อและเอกสารหลักฐานของร้านอื่น ๆ อีกจำนวน 2 ร้านไปร่วมยื่นเสนอราคาด้วย ซึ่งปรากฏว่า ร้านค้าของนายสุวิทย์ เดชภูมี กับพวก ได้รับการพิจารณาในการเสนอราคาขายวัสดุป้ องกันโรคไข้เลือดออก (มุ้ง)ในวงเงิน 1,831,500 บาท (หลังละ 198 บาท) และได้ทำสัญญาซื้อ ขายกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร โดยนายสุวิทย์ เดชภูมี กับพวก ได้รับประโยชน์จากราคาส่วนต่างของมุ้งที่ตนกับพวกได้ดำเนินการจ้างผลิตไว้ล่วงหน้าแล้ว และเป็นเหตุให้ทางราชการได้รับความเสียหายจากการจัดซื้อ มุ้งในราคาสูงกว่าความเป็นจริง (หลังจากหักภาษี ณ ที่จ่ายแล้ว) เป็นเงิน 994,560 บาท

คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงมีมติว่า การกระทำของ นายสุวิทย์ เดชภูมี มีมูลเป็นความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซือ้ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ ฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใดเข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นเนื่องด้วยกิจการนัน้ และฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 มาตรา 152 และมาตรา 157ส่วนนายวีระศักดิ์ หล้าพิศาล มีมูลเป็นความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดของนายสุวิทย์ เดชภูมี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 มาตรา 152 และมาตรา 157ประกอบมาตรา 86ให้ส่งรายงาน เอกสาร และความเห็นไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญากับนายสุวิทย์ เดชภูมี และนายวีระศักดิ์ หล้าพิศาล ในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542มาตรา 97 ต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น