xs
xsm
sm
md
lg

ชาวสกลฯ กว่า 300 บุกศาลากลางขับไล่ปลัด-การคลัง-โยธา อบต.ดงมะไฟ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สกลนคร - นายก อบต.ดงมะไฟ อำเภอเมืองสกลนคร พาลูกบ้านกว่า 300 คน บุกศาลากลางฯ ยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัด ให้ย้ายปลัด อบต.-การคลัง-ช่างโยธา ออกนอกพื้นที่ อ้างว่าทั้ง 3 คน สร้างความขัดแย้งใน อบต.และไม่ตอบสนองนโยบายผู้บริหาร พร้อมข้อหาอื่นอีกเพียบ

รายงานข่าวแจ้งว่าวันนี้( 21 ก.พ.) ได้มีชาวบ้านหลายหมู่บ้าน ในตำบลดงมะไฟ อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร กว่า 300 คน นำโดย นายไพโรจน์ บรรทมจิตต์ นายสว่าง ตะวันธรรม ราษฎร บ.ดงมะไฟ หมู่ 1 เดินทางมาชุมนุมที่หน้าศาลากลางจังหวัดสกลนคร โดยใช้เครื่องขยายเสียงกล่าวปราศรัย และแจ้งว่ามีความประสงค์จะยื่นหนังสือร้องเรียนพฤติกรรม และขอให้ย้ายข้าราชการใน อบต.ดงมะไฟออกนอกพื้นที่

ในหนังสือร้องเรียนส่งถึง นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร อ้างว่าขณะนี้ใน อบต.ดงมะไฟ มีพนักงานที่มีความประพฤติไม่เหมาะสมกับการเป็นข้าราชการ คือ ปลัด อบต.,หัวหน้าส่วนการคลัง และ หัวหน้าส่วนโยธา ในหนังสือร้องเรียนยังระบุว่า บุคคลทั้งสามได้สร้างความขัดแย้งขึ้นใน อบต.ดงมะไฟ ทำให้การปฏิบัติงานทุกอย่างเป็นไปอย่างล่าช้า ไม่ตอบสนองนโยบายของผู้บริหาร ซึ่งทำให้การพัฒนาตำบลเกิดความล่าช้า

หนังสือร้องเรียน ยังกล่าวหาผู้ถูกร้องเรียนถึง 11 ข้อ คือ มีส่วนได้เสียในการจัดซื้อจัดจ้างของ อบต.ดงมะไฟ, ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา มีความกระด้างกระเดื่องและไม่สนองนโยบายการบริหารงานของผู้บริหาร ทำให้เกิดความล่าช้าต่อระบบราชการและมีผลกระทบต่อชาวบ้าน, ไม่มีมนุษยสัมพันธ์ต่อเพื่อนร่วมงานและประชาชนในตำบล, ใช้เวลาราชการไปทำประโยชน์ส่วนตัว ไม่ค่อยอยู่ที่ทำงาน

เมื่อมีผู้มาติดต่อราชการก็ไม่ค่อยพบ,สร้างความแตกแยกในหน่วยงาน แบ่งพรรคแบ่งพวกและใช้อำนาจข่มขู่ผู้ใต้บังคับบัญชา, ไม่มีผลงานในการมาอยู่ที่ อบต.ดงมะไฟ, มีเจตนาไม่สนับสนุนกลุ่มอาชีพต่างๆของคนในตำบลและยังมีการขัดขวางกลุ่มอาชีพในตำบล ทำให้ขาดโอกาสได้รับการส่งเสริมจากทาง อบต.เช่น กลุ่มปลูกหม่อนเลี้ยงไหม กลุ่มทอผ้า, ทำงานไม่มีคุณภาพเหมือนคนทำงานไม่เป็น จนเกิดความเสียหายต่องบประมาณของ อบต. ,ร่วมกันปกปิดประกาศสอบราคาของวันที่ 15 พย.2550 เพื่อผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง และชอบพูดให้ร้ายผู้บริหาร โดยชอบพูดโอ้อวดว่ามีเส้นสายทั้งนักการเมืองและข้าราชการคอยช่วยเหลือ จะทำอะไรก็ได้ไม่เกรงกลัวกฎหมายและระเบียบวินัยของทางราชการ

นายไพโรจน์ ได้อ้างข้อความในหนังสือร้องเรียนดังกล่าวว่า จากพฤติกรรมของพนักงานส่วนตำบลทั้งสามคนจึงมีความไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ที่จะให้ปฏิบัติงานที่ อบต.ดงมะไฟอีกต่อไป เพราะมีแต่จะทำให้เกิดความเสียหายต่อ อบต. รวมทั้งคนในตำบลดงมะไฟ แม้แต่ผู้ใต้บังคับบัญชาก็ต้องขาดขวัญและกำลังใจในการทำงาน จนมีความหวาดระแวงอยู่ตลอดเวลาว่าอาจจะถูกฟ้องร้อง หรือถูกกลั่นแกล้งจากบุคคลทั้งสามคน

จึงขอให้ผูว่าราชการจังหวัดสกลนคร ได้พิจารณาและมีคำสั่งย้ายบุคคลทั้งสามออกจากพื้นที่ อบต.ดงมะไฟโดยด่วน เพื่อไม่ให้ความขัดแย้งที่มีอยู่ ได้ขยายวงลุกลามออกไปทั่วทั้งตำบล และอาจเกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินของทางราชการ และเพื่อประโยชน์สุขของชาวตำบลดงมะไฟ อย่างไรก็ตาม นายพิทยา สุนทรวิภาต รอง ผวจ.สกลนคร นายประทีป จุลวัฒะกะ ท้องถิ่นจังหวัดฯ ได้เชิญตัวแทนราษฎรขึ้นไปพบและรับหนังสือร้องเรียนไว้

พร้อมชี้แจงว่าผู้ว่าราชการไม่มีอำนาจสั่งย้ายพนักงานส่วนตำบลได้ แต่รับปากว่าจะนำเข้าประชุมในเร็วๆนี้ และจะตั้งคณะกรรมการสอบสวนทันที ในเบื้องต้นเพื่อความเป็นธรรม จะได้เรียกตัวให้เข้ามาช่วยราชการในตัวจังหวัดฯ เพื่อความสบายใจและจะได้ดำเนินการต่อไป ซึ่งชาวบ้านพอใจแยกย้ายกันเดินทางกลับ

ผุ้สื่อข่าว ได้สอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้นจาก นายไพโรจน์ พลธิราช ปลัด อบต., นางจีระภา ธารชัยหัวหน้าส่วนการคลัง และ นายสรรชัย คำเมือง หัวหน้าส่วนโยธา ซึ่งถูกกล่าวหา โดยทั้ง 3 คน กล่าวว่า พวกตนเป็นผู้ปฏิบัติงานให้กับ อบต.ดงมะไฟมานาน รู้ว่าอะไรเป็นอะไร รู้ผิดรู้ถูก รู้ระเบียบข้อปฏิบัติเป็นอย่างดี สิ่งใดที่ไม่ถูกต้องตามระเบียบพวกตนจะไม่ทำอย่างเด็ดขาด เมื่อถูกกล่าวหาเช่นนี้ พวกตนก็พร้อมที่จะให้หน่วยเหนือที่มีความเป็นกลางเข้าไปตรวจสอบ ที่ผ่านมาการดำเนินการทุกเรื่องได้ทำแบบโปร่งใส ตรวจสอบได้ เรื่องนี้พวกตนถือว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างมาก

ดังนั้นจากข้อกล่าวหาที่ระบุมา หากสิ่งใดหรือข้อความใดที่ทำให้พวกตนได้รับความเสื่อมเสีย ถูกดูหมิ่นดูชังจากสังคม พวกตนก็จำเป็นต้องรักษาศักดิ์ศรีด้วยการฟ้องร้องขอความเป็นธรรมต่อศาล และเชื่อว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ชาวบ้านส่วนใหญ่ก็ทราบดี เพราะที่ผ่านมา ผู้บริหารท่านหนึ่งได้ถูกผู้รับเหมาฟ้องร้องต่อศาล ฐานใช้อำนาจหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ด้วยการสั่งยกเลิกโครงการสอบราคาโครงการจ้างเหมาสอบราคา ของ อบต.ดงมะไฟ ในปีงบประมาณ 2551

ซึ่งศาลชั้นต้นได้พิพากษาออกมาแล้ว ตัดสินให้จำคุกผู้บริหารท่านนั้น 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา ขณะนี้อยู่ระหว่างการอุทธรณ์ สำหรับเรื่องนี้หากมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นมา พวกตนยินดีให้ปากคำตามความเป็นจริงทุกอย่าง แต่ก็ขอความเป็นธรรมให้กับพวกตนด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น