กบข.พล่านเร่งเดินสายชี้แจงผลดำเนินงาน หลังถูกสมากชิกลุกฮือประท้วงหน้าทำเนียบ จี้ นายกฯ สั่งยุบกองทุน-ปลดผู้บริหาร กางผลตอบแทน 7.04% กล่อมข้าราชการภาคอีสาน ยันผลตอบแทนติดลบเกิดจากผลกระทบวิกฤตเศรษฐกิจโลก ขณะที่ ป.ป.ท.วอนรัฐบาลต้องเร่งสางความจริงให้โปร่งใส ปราศจากการครอบงำของมาเฟียตลาดหุ้น
นายนันทพล สุวรรณาศรัย เจ้าหน้าที่อาวุโส ฝ่ายฝึกอบรมสมาชิกและส่งเสริมการเรียนรู้ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กล่าวในโอกาสเดินทางมาจัดกิจกรรมตามโครงการ กบข.สมาชิกสัมพันธ์สัญจร ครั้งที่ 2/2552 และมีการถ่ายทอดเสียงออกอากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดมุกดาหาร ในวันนี้ โดยระบุว่า จากกรณีที่มีสมาชิกสอบถามเกี่ยวกับผลการดำเนินงานของ กบข.ซึ่งได้ปรากฏรายงานไปในใบแจ้งยอดสมาชิกปี 2551 ที่มีผลตอบแทนลงทุนติดลบ ร้อยละ 5.12 นั้น เป็นผลที่เกิดจากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจทางการเงินของโลกที่รุนแรง ทำให้เกิดผลกระทบต่อการลงทุนของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม กบข.ได้คงนโยบายการลงทุนตามกรอบพระราชบัญญัติ กบข.และกฎกระทรวง ที่กำหนดมาโดยตลอด ตั้งแต่ปี 2540 จนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้ผลตอบแทนจากการดำเนินงานโดยรวม ตั้งแต่จัดตั้งยังเป็นบวก โดยผลตอบแทนลงทุนจากสมาชิกที่สะสมมาจนถึงสิ้นปีที่ผ่านมา ที่สมาชิกได้รับอยู่ที่อัตราร้อยละ 124 และผลตอบแทนเฉลี่ยตั้งแต่ตั้งกองทุน อยู่ที่ร้อยละ 7.04 ซึ่งเป็นอัตราที่สูงกว่าอัตราเงินเฟ้อ อยู่ที่ร้อยละ 3.26
สำหรับ โครงการ กบข.สมาชิกสัมพันธ์สัญจร ครั้งที่ 2/2552 ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ครั้งต่อไป กำหนดจัดขึ้นที่จังหวัดสกลนคร ในวันที่ 19 มีนาคม 2552 ระหว่างเวลา 08.30-12.00 น.
ล่าสุด มีรายงานว่า นายธาริต เพ็งดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันแลปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) กล่าวว่า หลังให้เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.ไปยื่นหนังสือถึงปลัดกระทรวงการคลัง เพื่อยืนยันการเข้าตรวจสอบการบริหารงานของ กบข.ซึ่งควรมีการตรวจสอบทั้งภายในเอง และการตั้งคณะกรรมการอิสระเข้ามาตรวจสอบด้วย เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสังคมได้อย่างกระจ่างชัด และปราศจากอิทธิพลของมาเฟียในตลาดหุ้นเข้ามาครอบงำ โดยคาดว่า สัปดาห์หน้า คงมีคำตอบที่ชัดเจนในการตรวจสอบ