xs
xsm
sm
md
lg

“แม้ว” โฟนอินเจาะยาง “มาร์ค” ถี่ยิบ เพ้อเป็นนายกฯ จะเสกเงินให้ชาวบ้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“แม้ว” ขยันเจาะยาง “มาร์ค” วันเดียวโฟนอิน 2 รอบ ที่มุกดาหาร-อยุธยา ใส่ไฟ “เด็ก 2 คน” ไม่เข้าใจความซับซ้อน ไม่มีทางแก้ปัญหาเศรษฐกิจสำเร็จ เพ้อถ้าเป็นนายกฯ จะเสกเงินลงพื้นที่ 7-8 แสนล้าน อ้างอีกมีแผนทำคนไทยหายจนปี 52 โดยอิงแนวทางที่ในหลวง-ราชินีพระราชทาน กับใช้เงิน 2.5 แสนล้าน แต่โดนไล่ก่อน ย้ำไม่เคยขอพระราชทานอภัยโทษ แค่รายงานกราบบังคมทูลฯ ก่อนกลับเข้าประเทศ ลั่นโฟนอินหนักขึ้น พร้อมยกระดับเป็นวิดีโอลิงค์ วันอาทิตย์จ้อต่อที่จันทบุรี

เมื่อเวลา 20.15 น.วันที่ 14 มีนาคม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่อยู่ระหว่างหลบหนีคดีอยู่ต่างประเทศได้โทรศัพท์เข้าไป (โฟนอิน) ในงาน “ความจริงวันนี้สัญจร” ของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่สนามกีฬาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดนมีนายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำคนเสื้อแดง เป็นผู้สัมภาษณ์

พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวตอนหนึ่งว่า ตนเป็นห่วงว่าขณะนี้ 3 เสาหลักของสังคมไทยกำลังมีปัญหา คือ เสาการเมือง และเสาเศรษฐกิจมีปัญหา ก็มีปัญหากับเสาที่ 3 คือเสาสังคม คือปัญหาเรื่องของครอบครัว ชุมชน สังคม ซึ่งนายวีระได้ถามแทรกว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับเสาที่ 4 หรือสี่เสาฯ หรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณ ตอบว่าไม่เกี่ยว นอกจากไม่เกี่ยวแล้วอย่ายุ่งด้วยก็ดี

พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวต่อว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีไปสอนเรื่องประชาธิปไตยที่อังกฤษ เกรงว่ากลับมาเด็ก 2 คน หัวจะโน เพราะหัวชนไปตลอดทางว่าจะกลับมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้อย่างไร เพราะมันยาก มันซับซ้อน มันมาจากปัญหาการเมืองไทย ที่การเมืองมาทำลายชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของตัวเอง ทำให้คนที่จะมาเที่ยวเมืองไทย นักท่องเที่ยว นักลงทุนไม่อยากมา แล้วมาต่อด้วยปัญหาเศรษฐกิจโลก เจอ 3 เด้ง เข้าไป

“โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มาจาก พื้นฐานของเผด็จการ ไม่ว่าจะเป็นพวกทหาร พวกที่ทำนอกระบอบทั้งหลาย แล้วมาตั้งรัฐบาล อย่าหวังที่ทั่วโลกเขาจะเชื่อถือ แม้จะไปหลอกเขาว่าเป็นประชาธิปไตยก็ตาม” พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว

พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า ตอนนี้งูเห่าก็เกิด เศรษฐกิจก็พัง หนี้ก็เยอะ ทำเสียหายเยอะ นี่งูเห่ารอบ2 ก็เริ่มกู้ กู้มาแจก กู้มาฟุ่มเฟือย คนอื่นเขามีแต่กู้มาลงทุน รอบแรกก็กู้มิยาซาวา ตอนนี้ก็กู้มาแจกคนละ 2 พัน คนงานอยากได้เงินก่อน โรงงานก็รับซื้อคนละ 1,300-1,500 บาท หนี้เกิดขึ้นแล้ว เพราะความไม่เข้าใจความซับซ้อนของปัญหาเศรษฐกิจ

“ถ้าผมอยู่ผมไม่ทำ บางครั้งไปลอกเลียนแบบ ไม่ดูวิธีคิด ใช้ผิด ระบบก็ไม่เกิดประโยชน์ มันต้องสร้างงาน สร้างโอกาส สร้างรายได้ ไม่ใช่อยู่ๆ บอกว่าไปกู้เอามาใช้ อเมริกาก็พังเพราะกู้มาใช้ เพราะไปกู้ซื้อบ้าน 2 ปีก็กู้เพิ่ม ไม่รู้เอาไปทำอะไร ก็กู้ไปซื้อเรือ ซื้อบ้านตากอากาศ ผลสุดท้ายก็พัง”

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า วันนี้ตนเห็นใจพี่น้องผู้กู้เงิน ดอกเบี้ยธนาคารแห่งประเทศไทยสั่งลดเอาๆ แต่ลดเฉพาะดอกเบี้ยเงินกู้ ดอกเบี้ยเงินฝากไม่ลด แบงก์ก็กำไรมากขึ้นโดยไม่ต้องปล่อยกู้มาก เพราะจ่ายดอกเบี้ยเงินฝากไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์ แต่เก็บดอกเบี้ยเงินกู้ได้ 10 กว่าเปอร์เซ็นต์ กำไร 7-8 เท่า

“ตอนที่ผมจะไปกล่าวสปีชที่สมาคมผู้สื่อข่าวที่ฮ่องกงนั้น รัฐบาลไทยโดยเฉพาะไอ้รัฐมนตรีต่างประเทศ ที่เคยเป็นลูกน้องเก่าผมที่ช่วยงานที่ทำเนียบ ก็ไปเจรจา โอย..จะต้องไล่จี้ คอยไปไล่จี้ จนเขารับปาก ผมก็เกรงใจ ผมก็เลยรับปาก ก็เลยไม่ไป เลยใช้วีดีโอลิงค์ถ่ายทอดสัญญาณ

สิ่งที่ผมพูด วันนั้นคงเป็นข่าวในไทยไปแล้ว คือ สิ่งที่มันเกิดขึ้นมันไม่ใช่ปัญหาทางเศรษฐกิจทางการเมืองแล้วนะ มันเป็นปัญหาความจนปัญญา ไม่รู้จะแก้ยังไง ก็ชี้ให้เห็นว่า 3 ทศวรรษที่ผ่านมา คนเก่งๆ มันไปเข้าภาคการเงินหมด ภาคการเงินก็หัวดี คิดค้นกระดาษเอามาทำเงินในรูปแบบต่างๆ ทำกำไรได้เร็ว จนแทรกแซงพวกการผลิตที่ตามไม่ทัน กระดาษกำไรดีกว่า”

พ.ต.ท.ทักษิณ ย้ำอีกว่า สิ่งที่เป็นปัญหาขณะนี้คือการลดดอกเบี้ยเงินฝากแต่ไม่ยอมลดดอกเบี้ยเงินกู้ ถ้าตนยังเป็นนายกอยู่ ถึงปี 2552 เราจะไม่มีคนจนเหลืออยู่ในประเทศไทย เพราะตนได้ไปศึกษาวิธีการแก้ปัญหา โดยอิงสิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานคำแนะนำไว้บ้าง สิ่งที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงทำไว้บ้าง ประกอบกับแนวของเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งตนคิดว่ามันสามารถแก้ได้ พอทดลองเสร็จปุ๊บมันใช้ได้จริง ตนกะจะใช้เงิน 250,000 ล้าน เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนภายในปี 2552 ก็มีไอ้พวกที่มาไล่ตนตออกมา จนบ้านเมืองก็ทรุดลงทุกวัน

“ผมนึกว่าถ้ามันไล่ผมออกแล้วมันดีผมก็ยอมเสียสละ แต่วันนี้มันสิ้นหวัง”

นายวีระได้ถามแทรกว่า “ท่านนายกฯ ครับ ขออนุญาตขัดจังหวะนิดหนึ่งครับ เพราะท่านนายกฯ อธิบายมาพี่น้องก็สนใจ นั่งฟังตาแป๋ว กลัวว่าจะเผลออธิบายไปหมด ไอ้พวกนั้นก็จะลอกไปหมด”

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวด้วยเสียงหัวเราะว่า “ท่านวีระครับ บางทีเราคนละวัฒนธรรม เขาเห็นเราทอดไข่เจียวนี่นะ มันบอกไข่เจียวเรานี่น่าอร่อยน่ากิน แต่ไม่รู้หรอกว่าไข่นี่เขาใช้ไข่อะไร ใช้น้ำมันอะไรทอด และความร้อนแค่ไหน ก็เลยลองไปทำดู ไม่รู้หยิบไข่อะไรมาทอด ผลออกมากินไม่ได้ ไม่รู้ใช้ไข่อะไร น้ำมันที่ใช้ทอด ใช้น้ำมันพืชอะไรพวกนี้นี่ ผลสุดท้ายไข่ดำปิ๊ดปี๋”

หลังจากนั้น นายวีระได้ถามถึงกรณีที่หนังสือพิมพ์แจแปนไทมส์ ลงบทสัมภาษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณที่บอกว่าเคยทำหนังสือขอพระราชทานอภัยโทษแล้ว 3 ครั้ง ซึ่งนายวีระอ้างว่าสื่อมวลชนไทยและพรรคประชาธิปัตย์นำมาบิดเบือนสร้างเรื่อง

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ตนขออธิบายให้ฟังว่า ในฐานะเป็นข้ารองพระบาท ถวายรับใช้ ตนก็ถือว่า เมื่อระหกระเหินไปอยู่ต่างประเทศก็ต้องกราบบังคมทูลให้ทรงทราบเรื่องที่ถูกกล่าวหา เพื่อกราบบังคมทูลข้อเท็จจริงให้ทรงทราบ ตนทำประมาณ 3 ครั้ง ครั้งล่าสุดก่อนจะกลับเข้ามาก็กราบบังคมทูลให้ทรงทราบว่าจะกลับมาประเทศไทย แล้วตนก็กลับมา ตอนนั้นตนยังไม่มีคำกล่าวหาใดๆ เลย ทำไมผมจะต้องไปขออภัยโทษ แต่ถามว่าตอนหลังจากมีคำสั่งศาลนี่ ตนทำอะไรไหม ก็ยังไมได้ทำ ที่องคมนตรีบอกว่ายังไม่เห็นเรื่องก็ถูกต้องแล้ว เพราะยังไม่ได้ทำเข้าไป ตนเพียงแต่ทำหนังสือกราบบังคมทูลผ่านทางราชเลขาธิการ และก็ไม่ทราบว่า จะส่งถึงหรือไม่เท่านั้นเอง อันนี้ ตนมิบังอาจ

“ผมให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ญี่ปุ่น เขาก็ถามผมว่าได้ติดต่อสำนักพระราชวังบ้างไหม ผมก็เลยบอกข้อเท็จจริงก็คือตามนี้ เพราะฉะนั้นนี่คือคำพูดที่ได้ฟังจากปากผม” พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว หลังจากนั้น นายวีระกล่าวว่า หวังว่าพี่นองที่นี่คงจะได้ฟังว่าอะไรคือความจริงตามนี้ และขอให้ตบมือโห่ไล่สื่อที่บิดเบือนด้วย

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวต่อว่า ช่วงนี้นี้ตนเป็นห่วงการใช้จ่ายทั้งภาครัฐและประชาชนชน เพราะต่อไปเงินจะหายากมาก เงินมันลดน้อยลง ธนาคารไม่ปล่อยกู้ เพราะฉะนั้นการใช้จ่ายต้องระวัง รัฐบาล เวลานี้ งบประมาณนอกจากจะตั้งไว้ขาดดุลแล้ว ยังเก็บภาษีไม่ได้ตามเป้า ขนาดรีดเลือกจากปูแล้วยังไม่ได้ตามเป้า ตั้งไว้ว่าปีหนึ่งจะขาด 2 แสนกว่าล้าน ปรากฏว่าขาดไป 8 หมื่นกว่าล้านแล้ว เพราะฉะนั้นแล้วมันจะต้องขาดเพิ่มขึ้น และจะต้องกู้เพิ่มขึ้น แล้วยังใช้จ่ายสุรุ่นสุร่ายอีก น่ากลัว

“โดยเฉพาะอย่างยิ่งทหารตอนนี้ต้องชะลอการซื้อ เพราะตนนี้ซื้อแลหก บางครั้งซื้อตามคนขาย การซื้อเราต้องซื้อตามที่จะใช้อะไรแล้ว แล้วให้คนขายมาขาย แต่วันนี้มันแล้วแต่ใครมาวิ่ง อย่างภาคใต้ แทนที่จะไปนั่งดูกลยุทธ แต่ไปซื้ออะไรรู้ไหม ซื้อบอลลูน ทางใต้ฝนตกทุกวัน ซื้อบอลลูนมาทำอะไร มันตลก ก็เลยอยากจะบอกว่างบประมาณขอให้ระวังหน่อย ใช้จ่ายให้เกิดการจ้างงาน ไม่จ้างงานเมื่อไหร่เศรษฐกิจจะฟื้น เอาเงินไปแจกไม่มีผล แล้ววันนี้ นักท่องเที่ยวเขาไม่มาหรอก เพราะว่าเอาไอ้คนที่ไปปิดสนามบินมาเป็นรัฐมนตรี ใครเขาจะกลับเข้ามา ขนาดคนเป็นรัฐมนตีรียังปิดสนามบินได้

“เพราะฉะนั้นวันนี้มันก็แย่ โรงงานก็ปิด การส่งออกชะลอตัว หายไปหลายเปอร์เซ็นต์ ญี่ปุ่นหายไปกี่เปอร์เซ็นต์ ขนาดโตโยต้า พานาโซนิค ยังขาดทุน ขาดทุนทั้งระบบ เขาปิดโรงงานที่อยู่นอกประเทศ โดยเฉพาะในไทยเริ่มปิด 2 โรงงาน เพราะฉะนั้นผมเป็นห่วงคนไทยที่จะต้องตกงาน เป็นห่วงเรื่องการชิงปล้น ยาเสพติด และขอให้พี่น้องเสื้อแดงที่ถูกดูแคลนว่าเป็นรากหญ้า แต่พวกท่านเป้ฯคนมีจิตใจสูง ขอให้ทำเป็นอย่าง ดูแลตัวเองให้ดี” พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว

นายวีระถามว่า เมื่อสักครู่นี้ท่านนายกฯ เพิ่งคุยกับพี่น้องที่มุกดาหาร แล้วตอนนี้มาคุยกับพี่น้องที่อยุธยา แสดงว่าตอนนี้ท่านพร้อมที่จะคุยกับพี่น้องทุกที่ใช่หรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า “แน่นอนครับ ผมมีความสุขเมื่อได้อยู่กับ ประชาชน ได้ทำงานกับประชาชน ได้พูดคุยกับประชาชน ผมมีความสุข นี่หละคือยาหอมชั้นดีให้ผมเลย ผมอยู่เมืองนอกผมเหงา แต่ว่าไอ้ผมโฟนอินคุยกับพากเรา ตอนแรกๆ มีคนห้ามอย่าเลยๆ อยู่เงียบๆ ดีกว่า ผมบอกตอนนี้ผมจะคุย มีอะไรไหม แล้วจะคุยมากขึ้น แล้วหนักเข้า ผมจะใช้วีดีโอลิงค์โผล่ภาพ แล้วจะดูภาพพี่น้องด้วย ตราบใดที่ความเป็นธรรมจังไม้เกิด”

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวในตอนท้ายว่า เมื่อพูดถึงปัญหาเศรษฐกิจ ตอนนี้ตนรู้สึกคันมืออยากทำเอง มีโอกาสได้ทำตอนนี้ จะเสกเงินลงพื้นที่เพื่อสร้างรายได้ สร้างงาน สร้างโอกาสให้ประชาชนเทงบ 7-8 เสนล้าน ขอให้พวกเราเสื้อแดงอดทน แม้ว่าทำอะไรก็ผิด อีกพวกหนึ่งทำผิดก็ดี แต่พวกเราต้องทนต่อแรงเสียดสี ต้องยิ้มรับกับ 2 มาตรฐาน ถ้ายิ้มรับไปสักพักคงรับไม่ไหว ระบบ 2 มาตรฐานที่ทุเรศๆ ทุเรศมา 2 ปีกว่าแล้ว พี่น้องเสื้อแดงแต่ละคนที่มามาด้วยใจ หลายคนที่บ้านมีปัญหายังอุตส่าห์เสียสละเพื่อมา ดังนั้นไม่มีวันที่จะขี้เกียจพูดเพราะเป็นคนว่างงานอยู่ แน่นอนว่าในวันอาทิตย์นี้จะโฟนอินที่จันทบุรีด้วย

โฟนอินมุกดาหาร-โม้แก้ ศก.ใน 6 เดือน

อนึ่ง ก่อนหน้านั้นที่ จ.มุกดาหาร นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นางสาวสุนีย์ เหลืองวิจิตร เลขาธิการพรรค นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรค และ ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ได้ร่วมกันขึ้นเวทีปราศรัยกับชาว จ.มุกดาหาร ที่มาร่วมงานในพิธีเปิดอาคารศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย สาขา จ.มุกดาหาร ที่ถนนพิทักษ์พนมเขต โดยก่อนทำพิธี ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ได้ผลัดกันขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีให้ร้ายการบริหารงานของรัฐบาลชุดปัจจุบัน โดยเฉพาะการแจกเงิน 2,000 บาท ที่อ้างว่าเป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ

เวลาต่อมา พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โทรศัพท์เข้ามาในงานเป็นเวลาประมาณ 10 นาที โดยบอกว่า คิดถึงประเทศไทยมาก อยากให้เลือกคนของพรรคเพื่อไทยให้มากๆ จะได้ช่วยให้กลับประเทศไทยได้ง่ายขึ้น และยืนยันว่าปัญหาของประเทศไทยขณะนี้ โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ พ.ต.ท.ทักษิณ เชื่อว่า ตนเองมีความสามารถที่จะแก้ได้ภายใน 6 เดือน ขอเพียงแต่ให้ตนได้กลับมาทำงานรับใช้ประชาชนอีกครั้ง





กำลังโหลดความคิดเห็น