xs
xsm
sm
md
lg

เปิดตัวกุนซือวอร์รูม ปชป. “ชวน-บัญญัติ”นำทีมสู้"แม้ว"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชวน หลีกภัย
ในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา มีกระแสข่าวเล็ดลอดออกมาจากที่ประชุมวอร์รูมของพรรคประชาธิปัตย์ ว่า จะมีการยกทัพไปตะลุยเกาะฮ่องกง เพื่อควานหาตัวนักโทษชาย ทักษิณ ชินวัตร ที่ยังอยู่ระหว่างหลบหนีคดีอาญา ให้มาดำเนินคดีในไทย

จนเป็นที่น่าสนใจของสื่อมวลชนที่คอยเกาะติดกระแสอย่างใกล้ชิดว่า จะกล้าลุยกันถึงขนาดนั้นเชียวหรือ?

แต่พอเอาเข้าจริงก็ไม่มีอะไรในกอไผ่ เหตุเพราะความคิดเรื่องนี้ไม่โดนใจแกนนำพรรค หลังจากมีการนำไปหารือกันในที่ประชุมพรรค หลายคนแย้งว่าหากผลีผลามทำลุยไปแบบนั้น อาจจะถูกมองว่าเป็นการมุ่งเล่นเกมการเมืองมากเกินไป อาจเกิดแรงสะท้อนกลับมา โดยเฉพาะกลุ่มที่ยังสนับสนุนระบอบทักษิณอยู่

ทางด้านแกนนำวอร์รูมหลายคนต่างรีบออกมาปฏิเสธข่าวกันให้จ้าละหวั่นว่า แนวคิดดังกล่าว เป็นเพียงความเห็นของส.ส.บางคนที่อ้างเอ่ยถึงมติวอร์รูมเท่านั้น แท้จริงแล้ววอร์รูมแห่งนี้ไม่มีมติอะไรออกมาในแนวนี้ เพราะประเมินสถานการณ์ดูแล้วไม่น่าจะคุ้มค่าเท่าไหร่ พรรคไม่ควรโดดออกมาเล่นบทบาทนี้ โดยเมื่อมีอำนาจรัฐอยู่ในมือแล้วควรจะใช้เส้นทางนั้น จะเป็นความชาญฉลาดมากกว่า

เล่นเอา นช.ทักษิณ ที่กำลังกบดานอยู่ต่างแดน ถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ ด้วยความโล่งอก

ต้องยอมรับว่าความเคลื่อนไหวตอบโต้ทางการเมืองของรัฐบาล และพรรคประชาธิปัตย์ในช่วงนี้ ค่อนข้างจะสุขุม เฉียบคมมากขึ้น หากจะเปรียบในเชิงมวยก็เรียกได้ว่า เป็นมวยที่ชกอย่างมีชั้น แต่ละหมัดที่ออกไปเข้าเป้า ได้แต้ม ถูกใจประชาชนหลายเรื่อง

นั่นเป็นเพราะมีพี่เลี้ยงทำงานดี ขยันขันแข็งคอยให้น้ำให้ท่า พร้อมสอนชั้นเชิงต่างๆ อยู่เบื้องหลัง

พี่เลี้ยงที่ว่าก็คือ “คณะทำงานเพื่อปฏิบัติการทางการเมือง” หรือที่เรียกกันติดปากว่า “วอร์รูม”นั่นเอง

“วอร์รูม” แห่งนี้ไม่ถือว่าเป็นของใหม่สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ เพราะได้มีการจัดทำมาตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นฝ่ายค้าน ในช่วงที่ต้องเล่นบทซักฟอกรัฐบาลในชุดก่อนๆ ก็มีการใช้ “วอร์รูม” มาทำหน้าที่เก็บรวบรวมข้อมูลต่างๆ จนเห็นผลมาหลายครั้งหลายครา

ยิ่งเมื่อพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ไม่นาน ต้องมาเจอศึกรอบด้านทั้งในสภา และนอกสภามากมาย ทั้งใต้ดิน บนดิน

ครั้นจะให้รัฐบาลเอาเวลาทั้งหมดมาทุ่มเทกับการแก้เกมทางการเมืองอย่างเดียว ก็คงจะไม่ไหว เพราะเดิมพันของพรรคประชาธิปัตย์ครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก หากบริการบ้านเมืองไม่เข้าตาประชาชน วิกฤตของประเทศก็จะอาจจะกลับกลายมาเป็นวิกฤตศรัทธาของพรรคก็เป็นได้

เวทีแห่งนี้จึงจำเป็นต้องเรียกหาพี่เลี้ยงมาคอยดูแล หัวหอกสำคัญที่ได้รับมอบหมายให้มาปฏิบัติภารกิจสำคัญนี้ มี ชำนิ ศักดิเศรษฐ์ เป็นหัวหน้าทีม พร้อมด้วย ชุมพล กาญจนะ และจุติ ไกรฤกษ์ ที่ล้วนแต่เป็นผู้ที่มีความเก๋ากึ๊ก ในเกมการเมืองมายาวนาน

ร่วมกับนักการเมืองรุ่นใหม่ไฟแรง อย่าง ชนินท์ รุ่งแสง ธนา ธีรวนิช สอดประสานกับทีมโฆษกพรรค นำโดย นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ ทีมโฆษกรัฐบาลโดย พุทธิพงษ์ ปุณณกัณต์ และที่ขาดไม่ได้ โฆษกส่วนตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ผู้มีฝีปากกล้า เทพไท เสนพงศ์ ร่วมแทกทีม ทำงานกันอย่างแน่นปึ๊ก

แต่ที่ทำให้วอร์รูมชุดนี้มีสีสันยิ่งขึ้น คือ การร่วมมือกับของบุคคลระดับคีย์แมนของพรรค อย่าง ชวน หลีกภัย และบัญญัติ บรรทัดฐาน ที่คอยช่วยเสริมกำลังทัพ ด้วยการให้คำปรึกษา และป้อนข้อมูลบางอย่างที่ไม่ลึกจนเกินศักยภาพของผู้นำเหล่านี้จะหามาได้

บทบาทหน้าที่ของคณะทำงานชุดนี้ ถูกจัดให้ทำการประเมินวิเคราะห์สถานการณ์การเมืองทุกสัปดาห์ เรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นบนถนนสายการเมือง กระแสความเคลื่อนไหวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เกิดจากฝ่ายตรงข้าม ข้อมูลที่เสนอผ่านตามสื่อมวลชน หรือเรื่องที่ได้รับมาจากของสมาชิกในพรรคด้วยกันเอง จะถูกไหลรวมมาเก็บไว้ในคลังข้อมูลแห่งนี้ อย่างลับสุดยอด

ทุกๆ เช้าวันอังคาร จะเป็นช่วงเวลาแห่งปฏิบัติการวอร์รูมชุดนี้

แต่ละคนจะหยิบยกข้อมูลมาทำการชำแหละ พร้อมเปิดโอกาสให้แต่ละคนได้ถกเถียงแสดงความคิดเห็นกันเต็มที่ เรื่องไหนจริง เรื่องไหนปลอม เรื่องไหนเท็จ หรือ แค่กระแสข่าวลือ ข่าวปล่อย ว่ากันอย่างเต็มที่ ทุกอย่างจะต้องเน้นความเฉียบคม ตรงตามข้อเท็จจริง

ข้อมูลส่วนใหญ่ที่ผ่านเข้ามายังวอร์รูม จะถูกตรวจสอบอย่างเข้มข้น จึงเป็นที่น่าพอใจจากแกนนำพรรคหลายคน ถึงขนาดออกมาชมในที่ประชุมพรรคว่า ผลงานดีเยี่ยม

ส่วนหนึ่งที่หลายคนพึงพอใจในผลงานโดยเฉพาะฐานข้อมูล ที่ใช้ฝีมือการเจาะลึกถึงแหล่งต้นต่อข้อมูลของแกนนำที่มีเครดิตทางการเมือง อาศัยความมีคอนเน็กชั่นจากบุคคลต่างๆ เพียง แค่ยกหูโทรศัพท์ข้อมูลก็หลั่งไหลพรั่งพรูออกมา ประกอบกับเป็นช่วงที่มีอำนาจรัฐอยู่ในมือ จึงไม่ยากเย็นเท่าไหร่ ต่อการตรวจสอบข้อมูลทั้งในเชิงลึก และเชิงลับ

ยุทธศาสตร์กระบวนการทำงานของ “วอร์รูม” ก็คือการนำข้อมูลต่างๆ มาวิเคราะห์ และ สังเคราะห์ ก่อนที่จะตกผลึกออกมาเป็นทิศทางที่ควรจะเป็น จากนั้นก็จะป้อนไปยัง 3 ฝ่าย คือ แกนนำรัฐบาล แกนนำวิปรัฐบาล และ แกนนำในที่ประชุมส.ส.พรรค รวมไปถึงการออกมาแถลงข่าวตอบโต้ประเด็นต่างๆรายวัน ของทีมงานที่รับผิดชอบ เพื่อให้การแสดงท่าทีทางการเมืองออกไปในทิศทางเดียวกัน หรือที่เรียกว่า “ความเป็นเอกภาพ” นั่นเอง

เกมการเมืองที่ยังคงบดบี้กันระหว่าง สุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ที่กุมบังเหียนตัวจริงในรัฐบาลชุดปัจจุบัน กับ อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้เคยเรืองอำนาจอย่าง ทักษิณ ชินวัตร คนที่พรรคประชาธิปัตย์จัดให้เป็นศัตรูทางการเมืองหมายเลขหนึ่ง

แม้ตอนนี้ดูเหมือนเกมทางคู่แข่งจะรุกหนัก หลังจากล่าสุดแกนนำของพรรคประชาธิปัตย์หลายคนต้องโดนกลุ่มเสื้อแดงเล่นแรง ถึงขั้นขวดน้ำ รองเท้า บินว่อน แถมด้วยตีนตบโห่ไล่ นี่ยังโชคดีที่เจ้าหน้าที่สกัดไหปลาแดกไว้ได้ทัน ไม่อย่างนั้น พวกเลือดสะตออย่าง สุเทพ เทือกสุบรรณ ชวน หลีกภัย คงได้ลิ้มรสชาดน้ำปลาแดก ให้จดจำไปอีกนาน

งานนี้ ทีมวอร์รูมดีดลูกคิดแล้วเห็นว่า “ได้มากกว่าเสีย” ปล่อยให้พวกเสื้อแดงเย้วๆ ต่อไป ไม่ต้องไปต่อล้อต่อเถียงให้มากความ เพราะม็อบนี้จะอยู่นานไม่นาน ขึ้นอยู่กับนายใหญ่ว่าจะส่งน้ำเลี้ยงมาให้ได้นานแค่ไหน ต้องรอดูช่วงสิ้นเดือนนี้ว่ากลุ่มเสื้อแดงจะรวมพลได้ยิ่งใหญ่ตามที่อวดอ้างหรือไม่

ถ้าน้ำเลี้ยงกระปริดกระปรอย เชื่อว่าม็อบจะมาแค่หยิบมือ ยื้อได้ไม่เกิน 2 วัน ชนิดที่ว่านกกระจอกไม่ทันกินน้ำ ก็แยกย้ายกันกลับบ้านใครบ้านมัน

แต่ก็ไม่ประมาท วอร์รูม ยังต้องดูที่ตัว นายใหญ่ด้วยว่า งานนี้จะมีการทุ่มหมดหน้าตักหรือไม่ แม้จะกล้าโผล่หน้าออกมาโฟนอินครั้งล่าสุด แต่ก็ยังคงปกปิดที่หลบซ่อนอยู่ แสดงว่าไม่ได้พร้อมที่จะเผชิญหน้าอย่างที่ประกาศไว้

แถมเมื่อดูถ้อยคำของแม้ว เที่ยวนี้ ทีมวอร์รูม พากันสบายใจ เพราะไม่มีประเด็นอะไรใหม่ เนื้อหายังคงวนๆเวียน เป็นแค่ ลิเกออกแขก เรียกคนดูมารวมกันทั่วทุกหัวเมืองในวันที่ 28 -29 มีนาคมนี้ ให้ได้มากที่สุด

แหล่งข่าวในทีมวอร์รูมมองว่า เกมการไล่ล่าตัว นายใหญ่กลับเมืองไทย ไม่น่าจะเป็นประโยชน์ต่อรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ เท่าที่ควร ทางที่ดีต้องกันให้อยู่นอกประเทศนานที่สุดเท่าที่จะนานได้จะเป็นการดี แม้ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ กลุ่มเสื้อแดงจะยังก่อกวนได้เป็นระยะๆ แต่ก็ยังพอที่จะควบคุมได้

แต่หากเปิดช่องให้ “นายใหญ่” เข้ามาเมืองไทยได้ ก็เหมือนส่งดาบให้โจรที่จะย้อนศรมาแทงเอาได้ เพราะยอมรับว่า 8 ปีของระบบทักษิณ มันฝังรากลึกยากเกินว่าจะขุดรากถอนโคนได้หมด โดยประชาธิปัตย์เองก็ไม่กล้าที่จะเตะต้อง หรือ ล้างบาง เพราะติดปัญหาว่า ไม่มีคนของตัวเองที่พอจะยัดเข้าไปเป็นมือเป็นไม้ได้ อย่างเห็นๆ ก็ สตช. หรือ ดีเอสไอ. ยกกรณีคดีหมิ่นของ เจ๊เพ็ญ ที่ยังคงลอยหน้าลอยหน้าอยู่ในสังคมได้ทุกวันนี้

เกมตั้งรับของทีมวอร์รูมคือ “สงบสยบความเคลื่อนไหว”

ปล่อยให้คู่แข่งเล่นไปฝ่ายเดียว สุดท้ายก็จบไปเอง ต่อกรไปใยให้เสียเวลา เสียอารมณ์ สู้เดินหน้าโหมอัดงบประมาณลงในนโยบายประชานิยม ผ่านโครงการต่างๆ ที่ทยอยออกมาเป็นระยะ เพราะยามนี้มีแต่ความได้เปรียบทุกสรรพกำลัง ขณะที่คู่แข่งตัวแม่ มีแต่เงิน ไร้อำนาจ ไร้ที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง

ได้เปรียบขนาดนี้แล้ว ยังตกเป็นรองคู่ต่อสู้ ก็ควรม้วนเสื่อกลับไปเป็นฝ่ายค้านตามเดิมได้แล้ว

บัญญัติ บรรทัดฐาน
กำลังโหลดความคิดเห็น