ปชป.ยันคดี “นช.แม้ว” ผิดอาญา ชี้อย่าโยงการเมือง

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์แจงคุยฮ่องกงไม่หวังเอาผิดเฉพาะ “นช.แม้ว” ชี้เป็นผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างสองประเทศ ย้ำชัดคดี “ทักษิณ” เป็นคดีอาญา ไม่เกี่ยวข้องการเมือง ลั่นพร้อมให้ร่วมมือสถาบันพระปกเกล้าปฏิรูปการเมือง แนะดึงคนนอกร่วม ระบุอย่ายึดติดอายุรัฐบาล แนะเดินหน้าต่อหากมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ปัด “ชวน” ซุกทรัพย์สิน ยันเป็นคนซื่อสัตย์ สุจริต ต่างชาตินับถือ

วันนี้ (9 มี.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการปฏิรูปการเมืองที่สถาบันพระปกเกล้าวางกรอบการว่า พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันในความพร้อมการมีส่วนร่วมการปฏิรูปการเมือง เพราะวิกฤตของประเทศคือสาเหตุโดยตรงมาจากการเมืองที่ล้มเหลวในอดีต ซึ่งประชาชนคาดหวังว่านักการเมืองและพรรคการเมืองต้องมีส่วนร่วมในการทำให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งพรรคเข้าใจดีแม้หลายฝ่ายจะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน พรรคจึงไม่ขอยื่นเงื่อนไขเพิ่มเติมใดๆ ทังสิ้น และยินดีมีส่วนร่วมกับกระบวนการใดก็ตามที่มีความเห็นพ้องร่วมกัน โดยไม่ยึดติดว่าจะต้องเป็นหรือไม่เป็นใคร โดยหลักการจุดเริ่มต้นสำคัญคือ จะต้องให้ทุกฝ่ายยอมที่จะมีการพูดคุยหารือกันก่อน และควรที่จะมีกระบวนการให้คนนอกเข้ามามีส่วนร่วมด้วย และผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียควรอยู่ในจุดที่เหมาะสม และควรจำกัดเฉพาะการแสดงความคิดเห็นมากกว่าที่จะมีส่วนในการตัดสินใจในเนื้อหาสาระนั้นๆ มิฉะนั้นสังคมก็จะไม่ให้ความไว้วางใจในการปฏิรูปการเมือง

นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า ส่วนข้อเสนอที่ว่านักการเมืองควรมีบทบาทอย่างไรนั้น พรรคเห็นว่าการปฏิรูปการเมืองโดยการมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายนั้น ทุกฝ่ายไม่ควรผูกติดอยู่กับอายุรัฐบาล หรือไม่ควรจบลงไปหากมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง แต่ทุกอย่างก็ต้องเข้าไปสู่การประชุมของรัฐสภา

นพ.บุรณัชย์กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยระบุว่านายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ปกปิดบัญชีทรัพย์สินว่า นายชวนเป็นบุคคลที่ชาวต่างชาติยอมรับว่าเป็นนักการเมืองที่ซื่อสัตย์สุจริต ใสสะอาด ดังนั้น ขอให้ผู้ที่กล่าวหานำหลักฐานออกมาเปิดเผยให้สังคมรู้ว่าเป็นจริงหรือโกหก เพราะการแสดงบัญชีทรัพย์สินของนายชวนทุกครั้งเป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมาย มีเพียงครั้งเดียวที่นายชวนแจ้งบัญชีทรัพย์สินบางส่วน คือเรื่องการถือหุ้นสหกรณ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สมันที่นายชวนเป็นนิสิตอยู่จำนวนเพียง 20 บาทเท่านั้น ซึ่งนายชวนเป็นผู้ที่นึกเรื่องนี้ได้เอง และนำข้อมูลไปให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพิ่มเติม ดังนั้นจึงอยากให้ผู้กล่าวหากล้านำเสนอข้อมูล ข้อเท็จจริงด้วย มิฉะนั้นจะเป็นเพียงการโจมตีใส่ร้ายและบิดเบือน

นพ.บุรณัชย์ กล่าวต่อว่า สำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่พรรคเพื่อไทยระบุว่าจะไม่อภิปรายเรื่องกิ๊กรัฐมนตรีแล้วนั้น ตนคิดว่าทางพรรคเพื่อไทยคงเห็นว่าประชาชนและสังคมให้การตอบรับเรื่องเหล่านี้น้อยลง จึงพยายามเปลี่ยนแปลงประเด็น แต่ขอยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์พร้อมที่จะให้การตรวจสอบทั้งหมดเดินหน้าได้ แต่ผู้ที่ตรวจสอบก็ต้องพร้อมพิสูจน์เช่นเดียวกันว่าทำอยู่บนพื้นฐานของประโยชน์ส่วนรวม ไม่จงใจใส่ร้ายบิดเบือนข้อเท็จจริง

นอกจากนี้ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ยังกล่าวถึงความการเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าพรรคมีจุดยืนว่าจะไม่ให้ความสำคัญต่อการเคลื่อนไหวทางการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่กรณีเรื่องการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งมีความพยายามพูดในลักษณะที่ว่ามีการดำเนินการเฉพาะของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งพรรคได้สอบถามข้อมูลแล้วยืนยันว่าทั้งหมดเป็นความร่วมมือกันตามปกติที่ดำเนินการมาก่อนหน้านี้แล้ว และเป็นสิ่งที่ทางการฮ่องกง และทางการไทยมีผลประโยชน์ร่วมกันหลายเรื่อง แต่เรื่องนี้ก็ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินเข้ามากระทบต่อความเชื่อถือของประเทศไทยที่ระบุว่าเป็นเรื่องทางการเมืองทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม ทางพรรคอยากให้รัฐบาลยืนยันใน 3 เรื่อง คือ 1.ข้อหาทั้งหมดของ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ใช่ข้อหาเกี่ยวข้องกับคดีทางการเมือง 2.สถานะของ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้มีสถานะของการเป็นนักโทษการเมือง แต่เป็นนักโทษคดีอาญา และ 3.การขอความร่วมมือระหว่างรัฐบาลนั้นก็ไม่ได้มีสาเหตุมาจากการเมือง แต่เป็นการปฏิบัติเกี่ยวกับการส่งผู้ร้ายข้ามแดนที่เกี่ยวข้องกับคดีอาญาต่างๆ