“ครส.” จี้ “รมว.ยุติธรรม” เชือด “เหลือบ DSI” เหตุคดีลอบสังหาร “พระสุพจน์” ไม่คืบหน้า แฉ “เจ้าหน้าที่ระดับสูง” แทรกแซงคดีหวังเบี่ยงเบนประเด็นให้เป็นเรื่องชู้สาว ปูดซ้ำ “รองอธิบดี DSI” คุมตัว “พยานปากเอก” เข้า กทม. ทั้งๆ ไม่มีส่วนรับผิดชอบโดยตรง หวั่นก้าวก่ายจนเกินความยากบำลากในการสะสางคดี
จากกรณีที่พระสุพจน์ สุวโจ ประธานมูลนิธิเมตตาธรรมรักษ์ สถานปฏิบัติธรรมสวนเมตตาธรรมกว่า 1,500 ไร่ ในพื้นที่ ต.สันทราย อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 17 มิ.ย.2548 ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้คดียังไม่ความคืบหน้า จนกระทั่ง รมว.ยุติธรรม ได้เร่งรัดไปยัง DSI จนเกิดการข่มขู่คุกคาม โดยการเผาสำนักสงฆ์สวนป่าเมตตาธรรม อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ของมูลนิธิเมตตาธรรมรักษ์ ซึ่งมีพระกิตติศักดิ์ กิตติโสภโณ เป็นประธานมูลนิธินั้น
ล่าสุด คณะกรรมการรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชน(ครส.) ระบุถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า ได้เรียกร้องไปยังรัฐบาล และ รมว.ยุติธรรม ให้ยุติการข่มขู่คุกคามนี้ ไม่ว่าจะมาจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือฝ่ายใดก็ตาม โดยเฉพาะให้มีการพิจารณาการทำงานของ DSI ที่ไม่มีความคืบหน้า อีกทั้งยังพยายามเบี่ยงประเด็นให้เป็นเรื่องชู้สาว ทั้งๆ ที่ยังไม่สามารถสรุปได้
นอกจากนี้ ยังมีปัญหาความขัดแย้งของคดีใน DSI เอง หลังจาก สภ.อ.ฝาง กักตัวนางคำ พยานปากหนึ่งของคดีไว้ โดยอ้างข้อหาเก่าว่าวางเพลิงเผาบ้านตัวเองนั้น ล่าสุดรองอธิบดี DSI ซึ่งไม่ได้รับผิดชอบคดีโดยตรง ได้ควบคุมนางคำ เข้ากรุงเทพฯ วันนี้ โดยไม่ทราบสาเหตุ ทั้งๆ ที่ตำรวจอ้างว่าจับขังในคดีเก่าโดยให้ติดคุกที่ สภ.อ.ฝาง จึงไม่ทราบว่ามีการต่อรองคดีอะไรหรือไม่ และเพื่อเบี่ยงเบนคดีอะไรหรือไม่ เพราะทราบข่าวลือมาว่า ผู้มีอำนาจใน DSI หลายส่วน มีการขอเปิดดูสำนวนสอบสวนจากผู้รับผิดชอบคดีโดยตรง และใช้อำนาจเข้ามาก้าวก่ายคดีจนเกิดความสับสน และเกิดความลำบากในการทำงาน
ครส.เห็นว่า หาก DSI ทำงานไม่มีความคืบหน้า มีแนวโน้มเตะถ่วงคดี และไม่สามารถคุ้มครองปกป้องการข่มขู่คุกคามนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนได้ โดยเฉพาะการคลี่คลายคดีพระสุพจน์ และทนายสมชาย ซึ่งจะครบ 5 ปีในปีนี้แล้ว ฉะนั้นขอให้ รมว.ยุติธรรม สมควรพิจารณาสั่งย้ายอุปสรรคใน DSI ออกไป อย่าปล่อยให้ข้าราชการเก่าที่เตะถ่วงคดีมีอำนาจเข้ามาสร้างความอยุติธรรมให้แก่เหยื่อของความไม่เป็นธรรมต่อไป
จากกรณีที่พระสุพจน์ สุวโจ ประธานมูลนิธิเมตตาธรรมรักษ์ สถานปฏิบัติธรรมสวนเมตตาธรรมกว่า 1,500 ไร่ ในพื้นที่ ต.สันทราย อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 17 มิ.ย.2548 ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้คดียังไม่ความคืบหน้า จนกระทั่ง รมว.ยุติธรรม ได้เร่งรัดไปยัง DSI จนเกิดการข่มขู่คุกคาม โดยการเผาสำนักสงฆ์สวนป่าเมตตาธรรม อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ของมูลนิธิเมตตาธรรมรักษ์ ซึ่งมีพระกิตติศักดิ์ กิตติโสภโณ เป็นประธานมูลนิธินั้น
ล่าสุด คณะกรรมการรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชน(ครส.) ระบุถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า ได้เรียกร้องไปยังรัฐบาล และ รมว.ยุติธรรม ให้ยุติการข่มขู่คุกคามนี้ ไม่ว่าจะมาจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือฝ่ายใดก็ตาม โดยเฉพาะให้มีการพิจารณาการทำงานของ DSI ที่ไม่มีความคืบหน้า อีกทั้งยังพยายามเบี่ยงประเด็นให้เป็นเรื่องชู้สาว ทั้งๆ ที่ยังไม่สามารถสรุปได้
นอกจากนี้ ยังมีปัญหาความขัดแย้งของคดีใน DSI เอง หลังจาก สภ.อ.ฝาง กักตัวนางคำ พยานปากหนึ่งของคดีไว้ โดยอ้างข้อหาเก่าว่าวางเพลิงเผาบ้านตัวเองนั้น ล่าสุดรองอธิบดี DSI ซึ่งไม่ได้รับผิดชอบคดีโดยตรง ได้ควบคุมนางคำ เข้ากรุงเทพฯ วันนี้ โดยไม่ทราบสาเหตุ ทั้งๆ ที่ตำรวจอ้างว่าจับขังในคดีเก่าโดยให้ติดคุกที่ สภ.อ.ฝาง จึงไม่ทราบว่ามีการต่อรองคดีอะไรหรือไม่ และเพื่อเบี่ยงเบนคดีอะไรหรือไม่ เพราะทราบข่าวลือมาว่า ผู้มีอำนาจใน DSI หลายส่วน มีการขอเปิดดูสำนวนสอบสวนจากผู้รับผิดชอบคดีโดยตรง และใช้อำนาจเข้ามาก้าวก่ายคดีจนเกิดความสับสน และเกิดความลำบากในการทำงาน
ครส.เห็นว่า หาก DSI ทำงานไม่มีความคืบหน้า มีแนวโน้มเตะถ่วงคดี และไม่สามารถคุ้มครองปกป้องการข่มขู่คุกคามนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนได้ โดยเฉพาะการคลี่คลายคดีพระสุพจน์ และทนายสมชาย ซึ่งจะครบ 5 ปีในปีนี้แล้ว ฉะนั้นขอให้ รมว.ยุติธรรม สมควรพิจารณาสั่งย้ายอุปสรรคใน DSI ออกไป อย่าปล่อยให้ข้าราชการเก่าที่เตะถ่วงคดีมีอำนาจเข้ามาสร้างความอยุติธรรมให้แก่เหยื่อของความไม่เป็นธรรมต่อไป
