“ปิยะวัฒก์” เผยการลอบเผาสวนป่าเมตตาธรรม 200 ไร่ เกี่ยวเนื่องรื้อฟื้นคดีฆ่าพระสุพจน์ โดยขณะนี้ดีเอสไอเดินถูกทางมั่นใจพยานหลักฐานการสังหารพระสุพจน์ โยง 2 ประเด็น บุกรุกป่า-วิจารณ์การทำงานรัฐบาลสมัยนั้น ด้าน “พระกิตติศักดิ์” บอกหลังเกิดเหตุกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ส่ง จนท.มาช่วยดูแลสวนปฏิบัติธรรม 5 นาย และได้สอบปากคำพยานแวดล้อมไปบ้างแล้ว
วันนี้ (3 มี.ค.) พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ ดีเอสไอ เปิดเผยความคืบหน้าเหตุคนร้ายลอบเผาสวนป่าเมตตาธรรม เสียหายประมาณ 200 ไร่ ในพื้นที่ ต.สันทราย อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ภายหลังเริ่มมีการเปิดประเด็นรื้อฟื้นคดีฆ่าพระสุพจน์ สุวโจ ขึ้นมาใหม่ ซึ่งพนักงานสอบสวนดีเอสไอมั่นใจในพยานหลักฐานเท่าที่มีอยู่ขณะนี้ พิสูจน์ชัดว่าคดีฆ่าพระสุพจน์ ที่เกี่ยวเนื่องกับเหตุการณ์ดังกล่าว มีสาเหตุมาจาก 2 ประเด็น คือ การวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลขณะนั้น และการบุกรุกป่าสวนเมตตาธรรมที่มีอยู่ก่อนแล้ว
“ก่อนที่จะเกิดไฟไหม้สวนป่าเมตตาธรรมประมาณ 2 สัปดาห์ ก็เคยมีการยิงปืนข่มขู่ที่วัดดังกล่าว ซึ่งตอนนั้นมีพระกิตติศักดิ์จำวัดอยู่ด้วย จึงมั่นใจว่าการทำงานของพนักงานสอบสวนคดีอาญาพิเศษ ที่ตั้งประเด็นไว้ 2 แนวทาง คือ การวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลและการบุกรุกสวนป่าเมตตาธรรม ดำเนินมาถูกทางแล้ว ไม่น่าจะหนีไปจากนี้ เพราะหากเป็นประเด็นชู้สาว คนร้ายไม่น่าจะมีศักยภาพพอที่จะก่อเหตุลักษณะดังกล่าว” พ.อ.ปิยะวัฒก์กล่าว
ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ กล่าวอีกว่า วานนี้ (2 มี.ค.) พนักงานสอบสวนคดีอาญาพิเศษได้เดินทางลงพื้นที่ ตรวจสอบกรณีไฟไหม้สวนป่าเมตตาธรรม จ.เชียงใหม่แล้ว ซึ่งหลังเกิดเหตุผู้กำกับการสถานีตำรวจ สภ.ฝาง ได้เดินทางไปตรวจสอบแล้ว และล่าสุดตนได้รับรายงานแล้วว่า พนักงานสอบสวนคดีอาญาพิเศษดังกล่าวได้เข้าไปยังพื้นที่เกิดเหตุแล้ว โดยอยู่ระหว่างประสานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ นอกจากนี้ ตนยังได้มอบหมายให้ ผอ.ส่วนสำนักคดีอาญาพิเศษ เดินทางลงไปสบทบเพื่อทำหน้าที่ไปอำนวยการและกำกับดูแลการทำงานให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น
ขณะที่ พระกิตติศักดิ์ กิตฺติโสภโณ กล่าวว่า เพิ่งจะเดินทางมาถึงสถานปฏิบัติธรรมสวนเมตตาธรรม เมื่อวานนี้ (2 มี.ค.) จึงทราบว่าผกก.สภ.ฝางและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาสอบปากคำ ชาวบ้าน คนงานและพระมหาเชิดชัยไว้แล้ว ระหว่างนี้คงรอให้ตำรวจในพื้นที่ติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุ นอกจากนี้ ทางกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติการพิเศษจำนวน 5 นาย มาประจำสถานปฏิบัติธรรมสวนเมตตาธรรมเพื่อดูแลความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยด้วย ในส่วนของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษดีเอสไอ ทราบว่าจะมีทำงานคู่ขนานกับตำรวจในพื่นที่ สภ.ฝาง โดยจะผนวกเอาคดีไฟไหม้สวนป่าเมตตาธรรม 200 ไร่ เข้าไปรวมกับคดีฆ่า “พระสุพจน์” เพราะเป็นคดีที่เกี่ยวเนื่องกัน
วันนี้ (3 มี.ค.) พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ ดีเอสไอ เปิดเผยความคืบหน้าเหตุคนร้ายลอบเผาสวนป่าเมตตาธรรม เสียหายประมาณ 200 ไร่ ในพื้นที่ ต.สันทราย อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ภายหลังเริ่มมีการเปิดประเด็นรื้อฟื้นคดีฆ่าพระสุพจน์ สุวโจ ขึ้นมาใหม่ ซึ่งพนักงานสอบสวนดีเอสไอมั่นใจในพยานหลักฐานเท่าที่มีอยู่ขณะนี้ พิสูจน์ชัดว่าคดีฆ่าพระสุพจน์ ที่เกี่ยวเนื่องกับเหตุการณ์ดังกล่าว มีสาเหตุมาจาก 2 ประเด็น คือ การวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลขณะนั้น และการบุกรุกป่าสวนเมตตาธรรมที่มีอยู่ก่อนแล้ว
“ก่อนที่จะเกิดไฟไหม้สวนป่าเมตตาธรรมประมาณ 2 สัปดาห์ ก็เคยมีการยิงปืนข่มขู่ที่วัดดังกล่าว ซึ่งตอนนั้นมีพระกิตติศักดิ์จำวัดอยู่ด้วย จึงมั่นใจว่าการทำงานของพนักงานสอบสวนคดีอาญาพิเศษ ที่ตั้งประเด็นไว้ 2 แนวทาง คือ การวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลและการบุกรุกสวนป่าเมตตาธรรม ดำเนินมาถูกทางแล้ว ไม่น่าจะหนีไปจากนี้ เพราะหากเป็นประเด็นชู้สาว คนร้ายไม่น่าจะมีศักยภาพพอที่จะก่อเหตุลักษณะดังกล่าว” พ.อ.ปิยะวัฒก์กล่าว
ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ กล่าวอีกว่า วานนี้ (2 มี.ค.) พนักงานสอบสวนคดีอาญาพิเศษได้เดินทางลงพื้นที่ ตรวจสอบกรณีไฟไหม้สวนป่าเมตตาธรรม จ.เชียงใหม่แล้ว ซึ่งหลังเกิดเหตุผู้กำกับการสถานีตำรวจ สภ.ฝาง ได้เดินทางไปตรวจสอบแล้ว และล่าสุดตนได้รับรายงานแล้วว่า พนักงานสอบสวนคดีอาญาพิเศษดังกล่าวได้เข้าไปยังพื้นที่เกิดเหตุแล้ว โดยอยู่ระหว่างประสานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ นอกจากนี้ ตนยังได้มอบหมายให้ ผอ.ส่วนสำนักคดีอาญาพิเศษ เดินทางลงไปสบทบเพื่อทำหน้าที่ไปอำนวยการและกำกับดูแลการทำงานให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น
ขณะที่ พระกิตติศักดิ์ กิตฺติโสภโณ กล่าวว่า เพิ่งจะเดินทางมาถึงสถานปฏิบัติธรรมสวนเมตตาธรรม เมื่อวานนี้ (2 มี.ค.) จึงทราบว่าผกก.สภ.ฝางและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาสอบปากคำ ชาวบ้าน คนงานและพระมหาเชิดชัยไว้แล้ว ระหว่างนี้คงรอให้ตำรวจในพื้นที่ติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุ นอกจากนี้ ทางกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติการพิเศษจำนวน 5 นาย มาประจำสถานปฏิบัติธรรมสวนเมตตาธรรมเพื่อดูแลความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยด้วย ในส่วนของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษดีเอสไอ ทราบว่าจะมีทำงานคู่ขนานกับตำรวจในพื่นที่ สภ.ฝาง โดยจะผนวกเอาคดีไฟไหม้สวนป่าเมตตาธรรม 200 ไร่ เข้าไปรวมกับคดีฆ่า “พระสุพจน์” เพราะเป็นคดีที่เกี่ยวเนื่องกัน
