xs
xsm
sm
md
lg

“พีระพันธุ์” รับปากเร่งรัดคดีฆ่าโหด “พระสุพจน์” หลัง 4 ปี คดีไม่คืบหน้า!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พระสุพจน์ สุวโจ พระนักอนุรักษ์ สวนป่าเมตตาธรรม จ.เชียงใหม่ ถูกฆ่าอย่างมีเงื่อนงำ
“พีระพันธุ์” รับปากเร่งสางคดีสังหาร “พระสุพจน์ สุวโจ” พระนักอนุรักษ์ จ.เชียงใหม่ จน"มรณภาพ"ปริศนา เมื่อปี 2548 พร้อมให้ดีเอสไอชี้แจงคดีภายใน 15 วัน ด้านคณะกรรมการรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชนเผย เป็น 1 ใน 3 คดีสำคัญ ที่ดีเอสไอรับผิดชอบแต่คดีไม่คืบหน้า

วันนี้ (15 ก.พ.) เมื่อเวลา 16.30 น.ความคืบหน้าการคลี่คลายคดีฆ่าพระสุพจน์ สุวโจ เจ้าอาวาสสถานปฏิบัติธรรมหรือสำนักสงฆ์สวนป่าเมตตาธรรม จ.เชียงใหม่ เหตุเกิดเมื่อกลางดึกวันที่ 17 มิ.ย.2548 หลังโอนเป็นคดีพิเศษแล้วคดีเงียบหายไป 4 ปี ไม่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า คดีนี้ได้เร่งรัดให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รวบรวมหลักฐานหาตัวผู้กระทำผิด โดยเมื่อผู้เสียหายมาร้องเรียน และสอบถามความคืบหน้าคดี เมื่อวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา ตนก็รับปากว่าจะดำเนินการให้ เนื่องจากตรงกับนโยบายของตนอยู่แล้วที่ต้องการให้ดีเอสไอนำคดีเก่าต่างๆ ที่ยังคั่งค้าง มาดำเนินคดีเสียใหม่

“หากที่ผ่านมา 3-4 ปี คดีไม่มีความคืบหน้า ก้ต้องให้คำตอบว่าทำไมจึงล่าช้า ไม่สามารถดำเนินการได้ และขอให้เอาคดีค้างเก่าต่างๆ มาดำเนินการ” รมว.ยุติธรรม กล่าว

ด้าน นายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชน (ครส.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชน และ พระกิตติศักดิ์ กิตฺติโสภโณ ได้ไปติดตามความคืบหน้าคดีฆ่าพระสุพจน์ สุวโจ กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม ที่รัฐสภา เนื่องคดีดังกล่าวอยู่ในความรับผิดชอบของดีเอสไอ แต่ผ่านไป 4 ปีแล้ว ยังไม่สามารถหาตัวผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้ ซึ่ง รมว.ยุติธรรม รับปากว่า จะเร่งรัดคดีให้ โดยให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีดีเอสไอ ทำหนังสือชี้แจงภายใน 15 วัน ว่าเหตุใดคดีดังกล่าวจึงไม่คืบหน้า

นายเมธา กล่าวต่อว่า คดีที่ดีเอสไอ รับผิดชอบ มีอยู่ทั้งหมด 3 คดี ที่อยู่ในสนใจของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนสากล คือคดีทนายสมชาย นีละไพจิตร คดีฆ่าเจริญ วัดอักษร อดีตแกนนำกลุ่มอนุรักษ์บ่อนอกหินกรูด และคดีฆ่าพระสุพจน์ สำหรับคดีฆ่าพระสุพจน์นั้น ช่วงแรกดีเอสไอ ได้ลงพื้นที่สอบปากคำพยานและหาหลักฐานแต่ก็ไม่คืบหน้า อาจเป็นเพราะคดีนี้มีตำรวจ ผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ หรือลูกน้องนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ส่วนกรณีประเด็นชู้สาวที่ดีเอสไอออกมาพูดอย่างกะทันหันเมื่อสัปดาห์แล้วนั้น คงเป็นการเบี่ยงประเด็นมากกว่า เพราะมีข้อสงสัยว่าเวลาผ่านไปนานแล้ว ทำไมจึงเพิ่งมีข่าวออกมาช่วงที่จะมีการรื้อฟื้นคดีขึ้นมาใหม่ ส่วนประเด็นสาเหตุนั้นคาดว่า น่ามาจากเรื่องความขัดแย้งที่กลุ่มนายทุนต้องการเข้าไปฮุบที่ดินป่าอนุรักษ์ของวัด จำนวนกว่า 1,500 ไร่ หรือกรณีการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการเมืองของรัฐบาลสมัยนั้น แต่ไม่ว่าจะมาจากสาเหตุใดก็ตาม อยากให้ดีเอสไอเร่งคลี่คลายคดี นำคนผิดมาลงโทษให้ได้ ไม่ใช่ออกมาพูดแล้วคดีก็เงียบหายไปอีกเหมือนเช่นที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่เดินทางไปเก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ
กำลังโหลดความคิดเห็น