“เทพไท” แขวะ “เหลิม” พึ่งบารมีอดีตนายกฯ หวังชูคอขึ้นทำเนียบผู้นำ

โฆษกมาร์คชำแหละ “เหลิม” อุปโลกน์ตัวพึ่งบารมีอดีต 3 นายกรัฐมนตรี หวังชูคอขึ้นทำเนียบนายก เชื่อเพื่อไทยเลื่อนยื่นญัตติซักฟอกหลังเทศกาลสงการนต์แน่ เหตุไปตายเอาดาบหน้า เฟ้นข้อมูลอภิปรายไม่เจอ ด้านทีมโฆษกสำทับซ้ำ กกต.ยืนยันบริจาคพรรค ปชป.โปร่งใส แฉแผนชั่ว 1 ส.ส.คนขนม็อบเสื้อแดง 3 พันลงพื้นที่คู่ขนานกับรัฐบาล

วันนี้ (6 มี.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขณะนี้ฝ่ายค้านขาดเอกภาพ พรรคร่วมฝ่ายค้านอื่นมีความเห็นแตกต่างกันไป ดังนั้น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย ควรแสดงภาวะความเป็นผู้นำด้วยการสร้างบารมีให้กับตัวเองในฐานะเป็นหัวหน้าทีมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตนไม่อยากให้ ร.ต.อ.เฉลิม เป็นเพียงแม่ทัพที่ถูกอุปโลกน์ขึ้นมา ซึ่งต้องได้รับการสนับสนุนจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีให้เป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรี ในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ อีกทั้งยังต้องให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ามาช่วยล็อบบี้นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ในการเข้าร่วมยื่นญัตติซักฟอก ขาดเพียงนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ที่น่าจะเป็นผู้แนะนำเทคนิคการอภิปรายในสภาให้กับ ร.ต.อ.เฉลิม ถ้าเป็นเช่นนั้นจะถือว่า ร.ต.อ.เฉลิม ใช้อดีตนายกรัฐมนตรีถึง 3 คน เป็นตัวช่วย ตนจึงไม่แน่ใจว่าบทบาทของ ร.ต.อ.เฉลิม เป็นเพียงการออกแขก โหมโรง ปล่อยข่าวสร้างกระแสอภิปรายไม่ไว้วางใจเท่านั้นหรือ

นายเทพไทกล่าวว่า ส่วนที่มี ส.ส.พรรคเพื่อไทย เสนอให้เลื่อนการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจออกไปเป็นหลังเทศกาลสงกรานต์นั้น เท่ากับว่าพรรคเพื่อไทย ไม่มีข้อมูลจนต้องไปหาข้อมูลดาบหน้า เนื่องจากไม่มีประเด็น เอาแต่ประโคมข่าว และคอยหาข้อมูลจากข่าวหรือผู้หวังดี เหมือนลงเล่นฟุตบอลแต่ไม่มีโอกาสยิงประตู หวังแต่ลูกฟาวล์เท่านั้น ซึ่งตนอยากให้การอภิปรายมีคุณภาพในมือของฝ่ายค้านหัดขับอย่างพรรคเพื่อไทย อย่างไรก็ตาม การที่นายเสนาะ เทียนทอง ระบุอยากให้บ้านเมืองสงบนั้น ถือเป็นการเตือนพรรคเพื่อไทยว่ามือไม่พายอย่าเอาเท้าราน้ำ ตนอยากให้สังคมจับตามอบว่าญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ใครจะอภิปรายใครกันแน่

ด้าน นพ. บุณณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ กกต.ให้ข้อมูลที่ชัดเจนกรณีเงิน 250 ล้านว่า ไม่พบแต่อย่างใด และเงินจำนวน 23 ล้าน ถูกต้องทั้งหมด เมื่อองค์กรที่รับผิดชอบโดยตรงยืนยันข้อเท็จจริงก็แสดงว่าการกล่าวหาของฝ่ายค้านทั้งหมดเป็นเพียงการจงใจใส่ร้ายพรรคโดยปราศจากมูลความจริงทั้งสิ้น และพรรคมั่นใจว่าประชาชนจะมั่นใจในเรื่องเหล่านี้ว่าพรรคไม่เคยดำเนินการทางธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับเงินที่ผิดกฎหมายแต่อย่างใด โดยพรรคจะมีการนำข้อมูลการใช้จ่ายเงินทั้งหมด ลงในเว็ปไซด์ของพรรคเพื่อยืนยันความพร้อม ในการทำงานทางการเมืองอย่างโปร่งใสและมีคุณภาพ

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ข้อดังกล่าวอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ฝ่ายค้านต้องเลื่อนยื่นญัตติซักฟอกออกไป เพราะเวลานี้ข้อมูลไม่ได้เป็นไปตามกล่าวอ้างแล้ว ซึ่งการเลื่อนญัตติออกไปเป็นการเตรียมพร้อมกับการ ที่กลุ่มเสื้อแดงจัดชุมนุมใหญ่ในอีก 3 สัปดาห์ข้างหน้า ถ้าการดำเนินการในส่วนนี้เพียงเพื่อจะขัดขวางการทำงานของรัฐบาล โดยอาศัยเกมการเมืองนอกสภา เพื่อให้นโยบายสำคัญที่รัฐบาลเตรียมการแก้ไขปัญหาผู้ได้รับผลกระทบ ทั้งเกษตรกรและผู้ตกงาน โดยผลักดันให้เป็นแนวร่วมต่อต้านรัฐบาล พรรคเป็นห่วงว่าการดำเนินงานในยุทธศาสตร์นี้ไมได้ทำเพื่อประโยชน์ของประชาชน แต่เป็นการดำเนินการเพื่อล้มรัฐบาล จึงอยากให้ฝ่ายค้าน แสดงความจริงใจในการยึดมั่น ใช้เวทีสภาเป็นที่ตรวจสอบ หรือ ขับไล่รัฐบาล

ขณะเดียวกัน ส่วนที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบรัฐบาลก็อยากให้เป็นไปตามกลไกรัฐธรรมนูญ อยากให้พรรคเพื่อไทย มีความชัดเจนในเรื่องของบุคคล เพื่อได้รับการโปรดเกล้าให้เป็นผู้นำฝ่ายค้าน ดังนั้น หากพรรคเพื่อไทย มั่นใจในตัว ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ก็อยากให้ ร.ต.อ.เฉลิมมั่นใจด้วยว่า ควรที่จะพร้อมเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เป็นกรรมการบริหารพรรค เป็นหัวหน้าพรรค และเป็นผู้นำฝ่ายค้าน และควรที่จะพร้อมได้รับการตรวจสอบและรับผิดชอบ ต่อผลการกระทำของตนเอง ซึ่งจะถือเป็นเงื่อนไขสำคัญ ที่จะทำให้การเมืองเป็นปกติ

นายเทพไทกล่าวว่า อยากให้กลุ่ม นปช.ที่เคลื่อนไหวต้านรัฐบาลลงพื้นที่ พบประชาชนในสุดสัปดาห์นี้ออกมาแสดงเหตุผลให้ชัดเจน เพราะแกนนำ นปช.ได้พูดชัดว่า ไม่มีเหตุผลอื่นแต่เป็นการยกระดับการไล่รัฐบาล ตนไม่อยากให้การต่อต้านรัฐบาล เป็นเรื่องของอารมณ์ หรืออยู่บนผลประโยชน์ของใคร ทั้งนี้ การที่พรรคเพื่อไทยทำพื้นที่คู่ขนานด้วยการส่ง ส.ส.และผู้บริหารลงพื้นที่ โดยกำหนดให้ ส.ส.1 คน เกณฑ์มวลชนให้ได้ 3 พันคนนั้น มีวาระซ่อนเร้นหรือไม่ เพราะเหมือนกับแผนความเคลื่อนไหวที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่า 1 ส.ส.ต้องมีมวลชนพร้อม 3 พันคน เพื่อพร้อมนัดชุมนุมใหญ่ทันที เมื่อมีการเป่านกหวีด ดังนั้นพรรคเพื่อไทยต้องแสดงเจตนารมณ์ให้ชัดเจนเพื่อไม่ให้ประชาชนสงสัย