xs
xsm
sm
md
lg

สุริยะใสจี้รัฐบาลปฏิรูปสื่อ ให้อาหารสมองประชาชน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ยังเคลื่อนไหวเพื่อกลับมามีอำนาจทางการเมืองอีกครั้งว่า ไม่มีอะไร ไม่ได้จับตาเป็นพิเศษ ยังเหมือนเดิมทุกอย่าง เมื่อถามว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ยังอยู่รอบๆประเทศไทย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าก็อยากให้เข้ามา ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการปล่อยข่าวลอบสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ เรื่องนี้มีมูลหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้ยินเลย แต่ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางมาไทย ก็เป็นหน้าที่ที่รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ต้องดูแลให้ดีที่สุด

**ชี้ประชาชนเลิกสนใจ"แม้ว"
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ความสนใจของคนส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดของประเทศคือ ทำอย่างไรให้ประเทศเดินหน้า มันมีเรื่องที่สำคัญสำหรับชีวิตของคน มากกว่าบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ตนก็สนใจแต่เรื่องของการแก้ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ แก้ปัญหาเรื่องที่จะทำให้การเมืองมีความมั่นคง มีเสถียรภาพ มองไปข้างหน้าในเชิงระบบ อย่างเรื่องการปฏิรูปการเมือง เมื่อวันพุธ ที่ 4 ก.พ.52 ก็ได้ไปพบกับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผู้นำฝ่ายค้าน ก็ได้คุยกันว่า มาช่วยกันดูดีกว่าว่าจะเดินหน้าปฏิรูปการเมืองอย่างไร ซึ่งร.ต.อ.เฉลิม บอกว่าดี อยากให้มีกระบวนการตามระบบของเราที่จะแก้ไขปัญหาได้ แต่ท่านก็ขอรับไปดูว่ารายละเอียดเรื่องกลไก ตัวบุคคล ตรงไหนที่จะเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนของสภาฯ ก็ค่อนข้างมีปัญหา จะมีการคุยกันตรงนี้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในส่วนรัฐบาลก็ต้องช่วยกันระดมให้มีความพร้อมตลอดเวลา ที่ผ่านมาคิดว่าอาจจะไม่ค่อยราบรื่น แต่งานก็เป็นไปตามเป้าหมาย จุดสำคัญคืองบประมาณผ่าน ข้อตกลงอาเซียนผ่าน การทำงานของสภาฯก็ทำกันเต็มที่
ส่วนการเสนอให้นับองค์ประชุมของฝ่ายค้านนั้น ก็เป็นสิทธิ์ของเขา จริงๆแล้วหากจะนับในประเด็นที่มีความขัดแย้งกันมากๆ คิดว่าตนก็เข้าใจได้ แต่ถ้าจะนับทั้งๆที่เรื่องที่จะพิจารณาไม่ได้มีความขัดแย้งกัน ก็อยากเห็นมันเดินหน้าไป ตนกลัวประชาชนจะมีความรู้สึกว่าไม่ดีต่อสภาฯ
**ไม่มีการของบลับ 2 พันล้าน
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า กองทัพเตรียมงบลับ 2,000 ล้านบาทไว้ล้างบางระบอบทักษิณ และกลุ่มเสื้อแดง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบ ยังแปลกใจอยู่ว่ามาจากไหน ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับตนที่ต้องเป็นผู้อนุมัติในกรณีที่เป็นงบกลางก็ยังไม่มี ในส่วนที่เป็นงบประมาณเพิ่มเติมที่จัดลงไปงบกลางปีก็ไม่เห็นมี เอาไปทำอะไรหรือ ฟังไม่เข้าใจ มันจะเป็นโครงการอะไรได้ ตนก็ยังงงอยู่
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะลงไปตรวจสอบรายละเอียดหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เวลานี้มันไม่มี งบกลางปีก็ไม่ได้จัดไว้ งบกลางก็ยังไม่เห็นมีใครขอมา เมื่อถามว่ามีการแฉเอกสารทางกระทรวงกลาโหม ว่ามีงบลับ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าถ้ามาถึงตนก็จะพิจารณา แต่ตนไม่คิดว่าจะมี เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าไม่จำเป็นต้องมี ใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่มีหรอก จริงๆแล้วไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะไปเอางบประมาณมาปฏิบัติการทางการเมืองอย่างนั้น การเมืองก็ว่ากันในส่วนของการเมือง แต่การสร้างความสมานฉันท์ การสร้างค่านิยมการเผยแพร่ประชาธิปไตย อันนี้ทำได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า วันที่ 14 ก.พ.52 กลุ่มเสื้อแดงเตรียมเคลื่อนไหวอีกครั้ง เป็นห่วงสถานการณ์หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ได้มอบแนวทางชัดเจน ให้อยู่ในกรอบของการใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ ถ้าจะมีการทำผิดกฎหมาย ก็จะไม่ให้มีการเกิดขึ้น

**จี้ปฏิรูปสื่อให้อาหารสมองปชช.
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า ข้อกล่าวหารัฐบาลจัดงบลับ 2 พันล้าน เพื่อล้างสมองและสลายขุมกำลังเสื้อแดงนั้น จะมีจริงหรือไม่ ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ แต่ประเด็นสำคัญต้องยอมรับว่าความบิดเบี้ยวหรือวิกฤติการณ์เรื้อรังของบ้านเมืองในขณะนี้ เกิดจากการบิดเบือนข้อมูลข่าวสารอย่างรุนแรง ในระช่วงระบอบทักษิณเรืองอำนาจ มีทั้งการแทรกแซง แทรกซึม และแทรกซื้อสื่อ
และยังใช้ทั้งสื่อของรัฐ และงบประมาณทั้งบนดินและใต้ดิน ล้างสมองคนไทย โจมตีผู้ไม่สวามิภักดิ์เพื่อสร้างขั้วอำนาจเดียวที่ตนเองเป็นศูนย์กลางอำนาจ
ยุทธศาสตร์เผด็จอำนาจด้วยการล้างสมองคนไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังดำเนินอยู่ในปัจจุบัน แม้ไม่ได้เป็นรัฐบาล แต่ยังมีอำนาจทางการเมือง มีข้าราชการจำนวนไม่น้อยยังจงรักภักดี และยังมีเม็ดเงินมหาศาล นอกจากนี้ ยังมีการทุ่มงบว่าจ้างบริษัทล็อบบี้ยิสต์ โจมตีประเทศไทย และสร้างขุมกำลังเครือข่ายในประเทศทั้งบนดิน และใต้ดิน กล่าวหาและทำลายความน่าเชื่อถือของสถาบันเบื้องสูง และศาลสถิตยุติธรรม อยู่ตลอดเวลา
นายสุริยะใส กล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้ต้องกล้ายอมรับความจริงว่า คนไทยจำนวนมากได้ถูกล้างสมองโดยระบอบทักษิณไปก่อนหน้านี้แล้ว ฉะนั้น หน้าที่เร่งด่วนและสำคัญของรัฐบาลจึงต้องพยายามคืนความจริง คืนความถูกต้องให้กับประชาชน ด้วยการให้อาหารสมอง ด้วยความจริง ด้วยการเร่งจัดระเบียบและปฏิรูปสื่อสารมวลชนทั้งระบบ และกลไกรัฐราชการหลายส่วนที่ยังโหยหาระบอบทักษิณอยู่
ยุทธศาสตร์นี้ไม่ใช่เรื่องที่ต้องดำเนินการทางลับ แต่ต้องทำอย่างเปิดเผย โปร่งใส และตรงไปตรงมา ให้สังคมได้รู้ความจริงอย่างรอบด้าน
รัฐบาลจะต้องไม่ประเมินการเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ต่ำเกินไป ตราบที่ตัวรัฐบาลเองยังไม่มีผลงานที่โดดเด่น หรือเป็นรูปธรรม ถ้ายังไม่มีผลงาน โอกาสที่ระบอบทักษิณ จะคืนชีพก็เป็นไปได้สูง และต้องไม่ลืมว่า การเคลื่อนไหวนอกสภาด้วยเครือข่ายมวลชนขนาดใหญ่ เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงกว่าในสภา เพราะในสภาต้องเปิดเผย สังคมตรวจสอบได้ แต่ถ้านอกสภา หรือเป็นขบวนการใต้ดิน เป็นเรื่องที่ติดตามตรวจสอบได้ยาก
กำลังโหลดความคิดเห็น