xs
xsm
sm
md
lg

กมธ.จับเท็จเจ้าพ่อนมบูด รับเลี่ยงภาษี 2 ปี ร่วมพันล้าน ชงนายกฯ เชือดพรุ่งนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สุวโรช พะลัง
กมธ.ยุติธรรม สภา จับเท็จเจ้าพ่อนมโรงเรียนกลางที่ประชุม หลังรับสารภาพเลี่ยงภาษี 2 ปี ร่วมพันล้านบาท เผย ขบวนการทำสัมปทานร่วมวิทยาลัย 3 แห่งในภาคใต้ สัญญา 10 ปี ลั่นจับโจรได้แล้ว เตรียมชงนายกฯเชือดพรุ่งนี้ ยื่น ดีเอสไอ-ป.ป.ช.สาวนักการเมืองผู้อยู่เบื้องหลัง

วันนี้ (4 มี.ค.) ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาปัญหานมโรงเรียนไม่มีคุณภาพ และมาตรฐาน โดยได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจง ประกอบด้วย นายเจริญ เดชเกิด ตัวแทนผู้ประกอบการส่งนมรายใหญ่ในโซน 2 ภาคใต้ นายวิศวะ คงแก้ว ผอ.วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีชุมพร นายสมศักดิ์ จันทร์รุ่ง ตัวแทนกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ตัวแทนกรมสรรพากร พร้อมด้วยตัวแทนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตัวแทนผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภา ตัวแทนคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เข้าร่วมสังเกตการณ์

ภายหลังการประชุม นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ พร้อมด้วย นายสุวโรช พะลัง ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ ร่วมกันแถลงข่าว โดย นายประชา กล่าวว่า ที่ประชุมได้พิจารณาถึงปัญหานมบูด นมเน่า นมเสีย และนมไม่ได้มาตาฐาน โดยเชิญหน่วยงานทุกส่วนมาชี้แจง และพบหลักฐานการจัดส่งนมโดยเฉพาะนมผงขาดมันเนยที่นำเข้ามาในประเทศสำหรับเลี้ยงสัตว์ ที่นำเข้าเกินความจำเป็นที่จะใช้ในประเทศ ไม่ทราบว่า หน่วยงานต่างๆ ปล่อยให้นำเข้าได้อย่างไร เชื่อว่าส่งที่เกินจะนำไปแปรรูปเป็นส่วนผสมของนมโรงเรียน ทำให้นมโรงเรียนขาดคุณภาพ

ขณะนี้คณะกรรมาธิการใกล้ได้ข้อสรุปแล้ว โดยจะสรุปข้อมูลนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีในวันที่ 5 มี.ค.ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีดำริที่จะกวาดล้างกระบวนการดังกล่าว และดำเนินการประมูลนมให้โปร่งใส พร้อมจะส่งข้อมูให้ดีเอสไอ ป.ป.ช.ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา ในการติดตามเส้นทางการเดินของเงินเพื่อหาผู้ที่อยู่เบื้องหลังต่อไป เพราะเท่าที่ตรวจสอบ นายเจริญ ปิดปากไม่ยอมเอ่ยพาดพิงนักการเมืองหรือผู้อยู่เบื้องหลังแต่อย่างใด แต่เชื่อว่า จะมีนักการเมืองอยู่เบื้องหลัง

นายสุวโรช กล่าวว่า นอกจากนี้ นายเจริญ เดชเกิด ผู้รับสัมปทานเอเยนต์รายใหญ่ภาคใต้ ได้มาชี้แจงด้วย โดยที่ประชุมได้มีการซักถามถึงขั้นตอนการจัดส่งน้ำนมจากสหกรณ์โคนมหนองโพ ราชบุรี จำกัด (ในพระบรมราชูปถัมภ์) มายังวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีชุมพร ได้ความว่า นายเจริญ มีการหลบเลี่ยงภาษีในช่วง 2 ปี โดยมีวิธีการทำสัญญาร่วมค้ากับส่วนราชการคือวิทยาลัยเกษตรฯ และเป็นคนลงทุนสร้างโรงงาน จัดหาเครื่องจักร และป้อนวัตถุดิบให้กับวิทยาลัยดังกล่าว โดยที่วิทยาลัยดังกล่าวไม่ต้องทำอะไรเลย แต่ได้ส่วนแบ่ง 12 สตางค์ต่อถุง ทั้ง ๆ ที่ราคากลางอยู่ 5-6 บาทต่อถุง ดังนั้นส่วนที่เหลือนายเจริญ จึงรับไปคนเดียว และขั้นตอนการรับเงิน ทาง อบต.จะสั่งจ่ายเช็คในนามของวิทยาลัยเกษตรฯ และนายเจริญ จะไปรับเงินจากวิทยาลัย ซึ่งทางวิทยาลัยได้หักส่วนแบ่งไว้เรียบร้อยแล้ว โดย นายเจริญ ยอมรับว่าไม่ได้มีการเสียภาษี และทางวิทยาลัยก็ไม่ได้หักภาษี ณ ที่จ่าย

นายสุวโรช กล่าวว่า ต้องขอบคุณ นายเจริญ ที่กล้าเข้ามาชี้แจง ถือว่าเป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ มาแรง มีทั้งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ภูเก็ต ธุรกิจโรงเบียร์ ธุรกิจร้านอาหาร ดังนั้น จึงต้องจับตานายเจริญ เป็นพิเศษ เพราะ นายเจริญ ยอมรับกลางที่ประชุม ว่า ได้รับสัมปทานส่งนมโรงเรียน 3 แห่งในภาคใต้ โดยทำร่วมกับวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีชุมพร วิทยาลัยเทคโนโลยีศรีวิชัย นครศรีธรรมราช และที่สงขลา โดยไม่มีการจ่ายภาษีแต่อย่างใด ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่านายเจริญ น่าจะเลี่ยงภาษีในช่วง 2 ปี เป็นเงินเกือบพันล้านบาท

ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่กรมสรรพากรจะต้องไปดำเนินการต่อไป โดยขบวนการหลบเลี่ยงภาษีอ้างว่าเป็นการลงทุนกับทางวิทยาลัย ซึ่งเป็นการลงทุนเพื่อการเกษตร ทำสัญญากัน 10 ปี ซึ่งนายเจริญ ก็ยอมรับทุกขั้นตอน และเป็นที่น่าสังเกตด้วยว่า นายวิศวะ เป็นอาจารย์เก่าของนายเจริญ โดยส่วนหนึ่งที่ นายวิศวะ ต้องร่วมรับผิดชอบด้วยคือการมีส่วนร่วมในการให้เจริญ หลีกเลี่ยงภาษี การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดในเรื่องฮั้ว ทางกรรมาธิการจะส่งให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ แต่เราจะเดินหน้าจับคนที่เป็นเหลือบหากินกับนมเด็ก

นายสุวโรช กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังพบพฤติกรรมของนายเจริญ ช่วงที่ผ่านมาว่าเคยถูกดำเนินคดีในข้อหาปลอมแปลงเอกสารเบิกเงิน 280 ล้านบาทมาใช้ แต่ปรากฏว่า มีการยอมความกัน โดย นายเจริญ ยอมจ่ายค่าเสียหายให้กับสหกรณ์โคนมเพิ่มอีก 9 แสนบาท ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าเรื่องนี้เป็นความผิดอาญาไม่สามารถยอมความกันได้ แต่เหตุใดจึงมีการยอมความกันง่ายๆ น่าจะมีเบื้องหน้าเบื้องหลังหรือไม่ และนำไปสู่การจัดโผ 68 บริษัทในการได้รับสัมปทานจัดส่งนมโรงเรียน

“นายเจริญ ถือเป็นเจ้าพ่อนมในยุทธจักร แม้จะมีการยอมรับว่าไม่ได้เสียภาษี แต่ นายเจริญ ยังเป็นผู้บริสุทธิ์ แค่อยู่ในข่ายผู้ต้องสงสัย ตอนนี้พูดภาษาชาวบ้านว่า เราจับโจรได้แล้ว ส่วนจะมีใครหรือมีนักการเมืองอยู่เบื้องหลังหรือไม่ให้ดูจากมติ ครม.วันที่ 30 พ.ย.2548 จะรู้ว่าใครอยู่เบื้องหน้าเบื้องหลัง ใครเป็นคนเสนอเข้า ครม.โดยในวันที่เสนอมีการเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหานมทั้งระบบ โดยแบ่งเป็นนมดิบ นมโรงเรียน นมผงขาดมันเนย ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาระยะสั้น และยังมีการแก้ไขปัญหาระยะยาวอีก อย่างไรก็ตามปัญหาในขณะนี้จากข้อมูลของกรมศุลกากรชี้ชัดว่ามีการนำเข้านมผงขาดมันเนยมากเกินความจำเป็น ซึงอาจมีการเล่นแร่แปรธาตุ นำไปผลิตเป็นนมผงให้เด็ก อยากให้รัฐบาลไปดูในสต็อกว่าเหลืออยู่เท่าไหร่ และที่เหลือเอาไปที่ไหน และเอาไปทำอะไร” นายสุวโรช กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น