“สนธิ” ยัน “21 พันธมิตรฯ” พร้อมตบเท้าเข้ารับทราบข้อกล่าวหา 30 มี.ค.นี้ ซัด “อำนวย” ปากดีพล่าม 30 ปี ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความยุติธรรม ฮึ่มจ่อแฉกำพืดเร็วๆ นี้ ปูด “พรรคการเมือง” วิ่งฝุ่นตลบดันคนของตัวเองนั่ง กกต.แทน “สุเมธ” ก่อนเผย “เนวิน” กร้าวไม่เอาพวกล้ม “สถาบัน” พร้อมจัด “เสื้อน้ำเงิน” ตะเพิด “กลุ่มเสื้อแดง” ที่ จ.นพนม
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสนธิ ลิ้มทองกุล กล่าวในรายการ
เมื่อเวลา 06.00-07.00 น.วันนี้ (3 มี.ค.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ดำเนินรายการ “Good Morning Thailand” ทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีทีวี-ทีวีของประชาชน โดยได้หยิบยกกรณีที่ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. พันธมิตรฯ ออกมาระบุว่า จะออกหมายจับ 21 แกนนำพันธมิตรฯ หากไม่เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาว่าพันธมิตรฯ มีมติว่าจะเดินทางรับทราบข้อกล่าวหาพร้อมกันในวันที่ 30 มี.ค.นี้ เนื่องจากมีแกนนำพันธมิตรฯ บางคนไปปรากฏตัวปราศรัยยังต่างประเทศ
“ที่สำคัญ พล.ต.ต.อำนวย ยังปากเก่งเหมือนเดิม โดยเฉพาะที่ออกมาระบุด้วยความมั่นใจว่า 30 ปีที่เป็นตำรวจมานั้น ไม่เคยมีครั้งไหนที่ปฏิบัติหน้าที่แล้วไม่เกิดความยุติธรรม ฉะนั้นไม่แน่ในวันที่ 4 มี.ค.นี้ จะเอาความจริงบางอย่างเกี่ยวกับ พล.ต.ต.อำนวย มาเล่าให้ฟัง จะได้รู้ว่าที่ พล.ต.ต.อำนวย พูดออกมานั้น แท้ที่จริงแล้วคือการถ่มน้ำลายรดฟ้า แล้วน้ำลายหล่นลงบนดิน จนต้องก้มลงไปเลียน้ำลายบนดิน” นายสนธิ กล่าว
นายสนธิยังกล่าวถึงกรณีที่นายสุเมธ อุปนิสากร กกต.ด้านกิจการการมีส่วนร่วม เกษียณอายุในวันที่ 8 มี.ค.นี้ เนื่องจากหมดวาระเพราะอายุครบ 70 ปี ว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ เมื่อนายสุเมธ หมดจากวาระไปแล้ว แต่การแต่งตั้งนายสุเมธนั้นมาจาก 2 ส่วน โดยส่วนแรกถูกแต่งตั้งมาจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา และ คปค. ฉะนั้นจึงต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความ ที่น่าสนใจ คือ กกต.ขณะนี้เหลือเพียง 4 คน ซึ่งถือเป็นประตูด่านแรกที่จะกลั่นกรอง ส.ส.เข้าไปนั่งในสภา เพราะถ้า กกต.ไม่เข้มแข็ง หรือไม่ซื่อสัตย์เหมือน กกต.ชุดปัจจุบันบางคน ก็จะทำให้เกิดวิกฤตของชาติเหมือนในขณะนี้
“ปัญหาวิกฤตทางการเมืองที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้นั้น เกิดจาก กกต.บางคนไม่ซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพ เพราะนอกจากจะรับเงินจากฝ่ายตรงข้ามแล้ว ยังจ้องทำลาย และปกป้องคนที่กระทำผิดอยู่ ซึ่งคงไม่ต้องเอ่ยชื่อว่าเป็นใคร ฉะนั้น การเลือก กกต.เข้าไปแทนที่นายสุเมธ นั้น คงจะมีสู้กันจนฝุ่นตลบ เพราะพรรคการเมืองทุกพรรค รวมทั้งพรรคฝ่ายค้าน คงพยายามทุกวิถีทางที่จะเอาคนของตัวเองเข้าไปเป็น กกต. ที่สำคัญนายสุเมธได้ระบุเอาไว้ว่า อยากให้ตุลาการภิวัฒน์พิจารณาตัวเอง เพราะวิกฤตบ้านเมืองเริ่มดีขึ้นแล้ว ทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเริ่มมีความจำเป็น โดยเฉพาะกรณียุบพรรค แต่หลายคนไม่เห็นด้วย เพราะยังเห็นว่าวิกฤตของประเทศยังไม่หมดไป เนื่องจากยังมีพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นนอมินีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งยังให้การสนับสนุนกลุ่มเสื้อแดง รวมทั้งนายใจ อึ๊งภากรณ์ ทำร้าย ทำลายประเทศไทย โดยเขาต้องการล้มล้างระบอบการปกครองของไทย” แกนนำพันธมิตรฯ ระบุ
แกนนำพันธมิตรฯ ยังกล่าวถึงกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงรวมตัวกันไล่นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม ที่ จ.นครพนม จนภายหลังถูกกลุ่มเสื้อน้ำเงิน ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของนายเนวิน ชิดชอบ ขับไล่จนกระเจิงว่า สรุปแล้วขณะนี้เราเริ่มมีกีฬาสีทางการเมือง โดยมีทั้งเสื้อเหลือง ซึ่งจะเป็นสีที่คงอยู่ตลอดไปไม่เคยเปลี่ยน เสื้อแดง และเสื้อสีน้ำเงิน ทั้งนี้จะดีจะชั่วอย่างไร นายเนวินได้ระบุออกมาทางลับว่า หากใครที่คิดจะล้มล้างสถาบันกษัตริย์ เขาก็ไม่เอาเหมือนกัน ฉะนั้นวันนี้จึงมีกระบวนการเสื้อน้ำเงินเกิดขึ้น ซึ่งกลุ่มเสื้อแดงจะต้องเจอกับกลุ่มเสื้อน้ำเงินที่ภาคอีสาน ส่วนสีเหลืองของพันธมิตรฯ นั้น ไม่อยู่กับสีไหน เพราะเป็นสีที่อยู่กับชาติ ศาสนา และราชบัลลังก์ จึงเป็นสีที่เข้มข้น ขอให้พี่น้องพันธมิตรฯ สบายใจได้