พท.ว่างจัดกล่าวหา รบ.ไม่หยุด จวกรัฐปฏิบัติการยึดช่อง 11 ไม่ต่างจากสมัย คมช.ยึดไอทีวี เอื้อพวกพ้องพันธมิตรฯ พร้อมอัด “เทพชัย หย่อง” กินเงินเดือน 3-4 แสนบาท เหน็บนายกฯ เงินเดือนยังน้อยกว่า แถมใช้ทีวีไทยรองรับ “พนง.เนชั่น-เอเอสทีวี” พร้อมฝาก 7 คำถามให้ “มาร์ค-สาทิตย์” ตอบ ขณะเดียวกัน จ่อตั้งกระทู้สดการปฎิรูปสื่อภาครัฐ สัปดาห์นี้
วันนี้ (1 มี.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีที่รัฐบาลเตรียมปฎิรูปสื่อภาครัฐ โดยเฉพาะการรื้อผังสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีและเปลี่ยนโลโก้ใหม่ว่า ดูผิวเผินเหมือนกับมีความตั้งใจจริงที่จะพัฒนาสื่อภาครัฐให้ปราศจากฝ่ายการเมือง แต่หากมองให้ลึกจะเห็นว่าการดำเนินการของรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ภายใต้การกำกับดูแลของนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คนสนิทของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในครั้งนี้เป็นปฎิบัติการยึดช่อง 11 โดยสมบูรณ์แบบและแยบยล ไม่ต่างจากสมัย คมช.ที่ทำการยึดสถานีโทรทัศน์ไอทีวี เพื่อให้สื่อสายพันธมิตรฯ กลุ่มหนึ่งเข้าไปบริหารในนามสื่อสาธารณะ
นายพร้อมพงศ์กล่าวต่อว่า ปัจจุบันทีวีไทยบริหารงานโดยนายเทพชัย หย่อง โดยได้รับงบประมาณบริหารจัดการจากภาครัฐปีละ 2,000 ล้านบาท ซึ่งมาจากภาษีบาปคือภาษีเหล้าและบุหรี่ ทีวีไทยหรือทีวีสาธารณะในปัจจุบันไม่ต่างไปจากแดนสนธยา เพราะถูกยึดกลุ่มแบบเบ็ดเสร็จของกลุ่มนายเทพชัย หย่อง อดีตผู้บริหารเครือเนชั่น ผู้บริหารกลุ่มนี้สามารถรับพนักงานทีวีไทยและกำหนดอัตราเงินเดือนให้แต่ละคนได้ตามอำเภอใจ โดยเฉพาะพนักงานที่มาจากเครือเนชั่น และเอเอสทีวีโดยไม่มีหลักเกณฑ์ทั้งๆ ที่เป็นเงินภาษีของประชาชน ไม่ใช่บริษัทเอกชนส่วนตัวของใครคนใดคนหนึ่ง
“นายเทพชัย หย่อง ได้รับค่าตอบแทนกว่า 300,000-400,000 บาทต่อเดือน ยังไม่รวมพนักงานที่ถ่ายเทมาจากเครือเนชั่นที่ประสบภาวะขาดทุนอย่างหนักให้มาเป็นพนักงานและรับเงินเดือนในอัตราที่สูง ทั้งที่เคยพูดว่าตราบใดที่เป็น ผอ.สถานีทีวีไทยจะไม่รับพนักงานจากเครือเนชั่นแม้แต่คนเดียว แต่ปัจจุบันกลับทำตรงกันข้ามคือรับมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งหากเปรียบเทียบ เงินเดือนผู้บริหารทีวี ผอ.ช่อง 11 รับอัตราเงินเดือนเท่าข้าราชการซี 9 คือประมาณ 50,000 บาท ในขณะที่นายกรัฐมนตรีได้รับอัตราเงินเดือนโดยประมาณ 120,000 บาท ทั้งๆ ที่ต้องกำกับดูแลกระทรวงถึง 21 กระทรวง” โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าว
นายพร้อมพงศ์กล่าวอีกว่า ขอเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์และนายสาทิตย์ตอบคำถามต่อไปนี้ 1. ช่อง 11 จะปฎิรูปสื่อภาครัฐหรือฮุบสื่อภาครัฐ จะทำการบริหารเหมือนทีวีไทยที่นำสื่อที่ได้รับการจัดสรรงบจากรัฐไปให้กับกลุ่มที่สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ อันประกอบด้วย สื่อสาร ทหาร ทุน พันธมิตรฯ พรรคร่วมฯ และคนใกล้ชิดหรือไม่ 2. การปฏิรูปสื่อภาครัฐครั้งนี้มีใบสั่งจากคนใหญ่ในรัฐบาลชื่อ “ส” ดำเนินการผ่านนายสาทิตย์เพื่อต่างตอบแทนกลุ่มต่างๆ ที่สนับสนุนหรือไม่ 3.ช่อง 11 ที่จะปฎิรูปใหม่นั้นใช้งบจากส่วนไหน จำนวนเท่าไหร่ และประชาชนผู้เสียภาษีจะได้ประโยชน์อย่างไรกับช่อง11
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า 4.สื่อกลุ่มของ “นายโป๊งเหน่ง” ที่มีความสัมพันธ์กับนายเทพชัย หย่อง นาย “จ” แนวร่วมต่อต้านรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี บ.ดิจิตอลมีเดีย ที่แต่งตัวใหม่ รวมทั้งสื่อที่ใกล้ชิดพรรคประชาธิปัตย์ จะอยู่ในผังรายการปฎิรูปสื่อใหม่ของช่อง 11 ด้วยหรือไม่ 5.การบริหารของนายเทพชัย หย่อง ทั้งเรื่องการใช้งบประมาณ หลักเกณฑ์การรับสมัครพนักงาน รวมทั้งการกำหนดอัตราเงินเดือนของผู้บริหารและพนักงาน เป็นไปตามระเบียบการรับสมัครของทีวีสาธารณะหรือไม่ ขอให้รัฐบาลเปิดเผยเรื่องดังกล่าวให้สาธารณะชนได้รับทราบเนื่องจากงบประมาณมาจากภาษีของประชาชน 6.การนำเสนอข่าวของทีวีไทยและช่อง11ที่จะปฎิรูปสื่อใหม่นั้นจะเป็นกลางมากน้อยเพียงใด มีคณะกรรมการที่เป็นกลางจริงๆตรวจสอบดูแลหรือไม่ และ 7.เรื่องการจัดสรรเวลาให้กับฝ่ายค้านในการออกอากาศนั้นจะจัดสรรเวลาที่เหมาะสมให้เมื่อไหร่เตรียมยื่นกระทู้สดสัปดาห์นี้
นายพร้อมพงศ์กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทยจะยื่นกระทู้ถามสดในสภาเกี่ยวกับการปฎิรูปสื่อภาครัฐ ช่อง 11 และการใช้งบประมาณ รวมทั้งระเบียบต่างๆ ที่ใช้ในการรับพนักงานของทีวีไทยในสัปดาห์นี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม นายพร้อมพงศ์ไม่ยอมพูดถึง สมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ที่มีนายจักรภพ เพ็ญแข เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อเข้ามาแล้วได้ย้ายอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ทันที และเปลื่อนช่อง 11 เป็น เอ็นบีที พร้อมกับจัดผังรายการใหม่เพื่อให้คนที่เกี่ยวข้องกับพรรคพลังประชาชนมาดำเนินรายการ