xs
xsm
sm
md
lg

“สนธิ”ประเดิม Good Morning Thailand แฉ ตร.บิดเบือน-ให้ร้าย “น้องโบว์”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สนธิ”ประเดิมรายการใหม่ “Good Morning Thailand” ทางเอเอสทีวี 6-7 โมงเช้า เปิดโปงซ้ำ “ตำรวจมาร” บิดเบือน-ให้ร้าย “น้องโบว์” เสียชีวิตเพราะพกระเบิดซีโฟร์ อัดยับ “พัชรวาท” เฉไฉอ้างไม่รู้เรื่องรายงานสรุปเหตุการณ์ 7 ต.ค.ที่ทำเสร็จสิ้นมานานถึง 4 เดือน จวกซ้ำ “ข่าวสด-มติชน” เสนอข่าวเอียงข้างตำรวจ เหตุเพราะต้องการให้ “นช.แม้ว”กลับเข้าประเทศ


คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "Good Morning Thailand"

รายการ “Good Morning Thailand by Sondhi Limthongkul” ออกอากาศทาง เอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน เวลา 06.00-07.00 น. วันจันร์ถึงศุกร์ ดำเนินรายการโดย นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประเดิมรายการวันแรก 27 กุมภาพันธ์ 2552

“สวัสดีครับ พ่อแม่พี่น้องพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตยและท่านผู้ชม วันนี้เป็นวันแรกของรายการ Good Morning Thailand กับผม สนธิ ลิ้มทองกุล นะครับ วันนี้ ต้องกลับมาออกรายการอีกครั้งหนึ่งในช่วงเช้าๆ เชื่อผมเหอะ ไม่สนุกหรอกครับ ตื่นตี 4 เตรียมเอกสาร สงสารทีมงานที่ต้องเตรียมข้อมูล ทำไมต้อง Good Morning Thailand จะหาว่าผมเลียนแบบ Good Morning เวียดนาม ของโรบิน วิลเลียมส์ ก็ได้ แต่ว่า มันคนละแบบกัน โรบิน วิลเลียมส์ นั้นเขามีวิทยุเป็นตัวสื่อ แต่ผมจำเป็นต้องใช้โทรทัศน์เป็นตัวสื่อ

มีคนบอกว่า ผมหายห่างเหินจากเวทีไปนาน เขาไม่อยากดูเฉพาะวันศุกร์ ผมเองด้วยความที่ไม่เคยหลงตัวเลยแม้แต่นิดเดียวเพราะอยากนอนมากว่า ก็เลยปฏิเสธมาตลอดละครับ หลายคนยุให้ผมทำรายการ ยามเฝ้าแผ่นดินรายวัน แต่ผมคิดว่าตอนกลางคืนนั้น รายการ เอเอสทีวีตอนกลางคืน เข้มแข็งอยู่แล้ว เอาเช้าดีกว่า จะได้บังคับตัวเราเองมั่ง จะได้นอนเร็วหน่วยและก็ตื่นเช้าหน่อย เจอบรรยากาศที่ดีๆ เหมือนเมื่อเช้า เช้านี้บรรยากาศดีมากครับ นั่งรถผ่านมา ย่านชุมนุมหน้าทำเนียบฯ ผ่านมาก็เห็นแต่ขยะพี่น้อง สงสารคน กทม.ที่ต้องมากวาดขยะเก็บขยะ ซึ่งคนพวกเสื้อแดงทิ้งไว้ เหมือนนรกเลยพ่อแม่พี่น้อง เต็มไปด้วย สิ่งปฏิกูลทั้งหลายและก็มีแต่เจ้าหน้าที่ กทม.หลายคน กวาดไป คงจะบ่นไป ไม่เหมือนทีมงานสันติอโศก ซึ่งทำงานด้วยความตั้งใจ เต็มใจ ที่ได้ทำนะครับพี่น้องครับ

วันนี้ รายการ Good Morning Thailand เป็นรายการที่จะเอาเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้นะครับ แต่จะไม่ทุกรายการ เอาบางเรื่องมา จะไม่ไปแข่งกับพี่ปอง อัญชลีของผมละครับ เพราะว่า ปากมันคนละขนาดครับ ความคมก็ต่างกัน ผมมันปากทื่อๆ พี่ปองเป็นคนที่ปากค่อนข้างจะคมจัดนิดนึง ขนาดผมไปสัมภาษณ์วีซ่าที่สถานทูตอเมริกัน หัวหน้าวีซ่า ชื่อคุณโจเซฟ อุตสาห์ถามถึงคุณอัญชลี ว่าคุณอัญชลีเป็นยังไงบ้าง ผมก็บอกว่าสบายดี เขาบอกว่า พูดเก่งนะ คล่องแคล่ว ผมก็บอกว่า หมายถึงปากจัดใช่มะ เขาบอก เยส นั่นแหละหมายถึงปากจัด พี่ปองของผมนี่มีชื่อเสียงมาก แต่ว่า Good Morning Thailand นั้น จะเอาองก์ความรู้ในเรื่องที่จะต้องพูดมาเล่าให้พ่อแม่พี่น้องฟัง เพื่อที่จะเข้าใจ เพราะคนที่ชมเอเอสทีวี กับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้นต้องกอรปไปด้วยคนที่มีปัญญา เข้าใจเรื่องราวทุกอย่าง ไม่ต้องไปดูหรอกครับ รายการเช้าของช่องนู้นช่องนี้ ถ้ามีเวลาจะดูรายการนี้ แต่จะจัดได้นานแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ครับ เพราะผมคิดว่าช่วงนี้มีความจำเป็นมาก ที่พ่อแม่พี่น้องจะต้องรับรู้เรื่องราวต่างๆ เข้าใจเรื่องราวต่างๆ เพราะว่าการเมืองกำลังเดินไปสู่ช่วงความสับสนหลายๆ ประการ และเศรษฐกิจโลก การเมืองของโลก ตลอดจนเรื่องหลายเรื่อง

วันนี้ เป็นวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2552 ขณะนี้เวลา 06.10 น.ที่กรุงเทพมหานคร และเป็นเวลาเดียวกันทั่วประเทศไทย มหานครลอสแองเจลิส ก็เป็นเวลา 15.10 น. ที่มหานครนิวยอร์กก็เป็นเวลา 6 โมงกับอีก 10 นาที นะครับ ที่ซิดนีย์ออสเตรเลีย จะเป็นเวลา 10 โมงเช้า

พ่อแม่พี่น้องครับ วันนี้เรามีเรื่องหลายเรื่องที่จะพูดกัน เรื่องสำคัญที่ผมจำเป็นต้องพูดคือเรื่องของผลการแถลงข่าว ของฝ่ายพิสูจน์หลักฐาน ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มาพูดในเชิงให้ความจริงแค่ 30% ว่าน้องโบว์พกสารซีโฟร์ในกระเป๋า หรือในร่างกายหลังจากการตรวจ ก็รายงานนี้จำเป็นมากที่ผมต้องพูดออกมาอีกครั้ง โดยเอาหลักฐานและเหตุผลทั้งหมดเอามาอธิบายความกัน เมื่อวานนี้ คุณคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.ก็พูดไปแล้วทีนึง เรื่องที่สอง เป็นเรื่องการประกาศลดดอกเบี้ยของประเทศไทย ซึ่งลดลงไปอีก 0.5% ซึ่งจะมีผลยังไงบ้าง เรื่องที่สามคือเรื่องศาลอาญายกฟ้อง คุณศิโรตม์ สวัสดิ์พาณิชย์ อธิบดีกรมสรรพากร แต่มีข้อติงน่าสงสัยอันนึงที่ผมต้องอธิบายให้พ่อแม่พี่น้องฟังนะครับ เรื่องที่ 4 คือ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ปล่อยรายชื่อ 21 พันธมิตรฯ ที่เตรียมขอศาลออกหมายจับโดยหนังสือพิมพ์ข่าวสด ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์เครือทักษิณ ชินวัตร และเรื่องที่ 5 คือ นปช.หมดเงิน เลิกชุมนุมและจะเรียกชุมนุมใหม่ เรื่องที่ 6 คือเรื่องคุณอภิสิทธิ์ เตรียมประสานจีนส่งตัวคุณทักษิณ และเรื่องสุดท้าย โอ๊ย 7 8 เรื่อง เยอะแยะเต็มไปหมด เรื่องที่ 7 คือ นายโจเซฟ สติกลิตซ์ นักเศรษฐศาสตร์ ระดับโลก เคยได้รับรางวัลโนเบิลไพรส์ ได้ยอมรับมาเป็นที่ปรึกษาของท่านนายกฯอภิสิทธิ์ และเรื่องที่ 9 คือ เรื่องที่นางฮิลลารี คลินตัน ไปเยือนจีน นัยมีตรงไหนยังไม่มีใครพูด และนอกนั้น เป็นเรื่องเศรษฐกิจเล็กๆ น้อยๆ ตามด้วยเรื่องสุดท้ายเรื่องที่ บริษัทประมูลแห่งโลก คริสตี จัดประมูลหัวนักษัตร ซึ่งเป็นของประเทศจีน และเหตุที่มาที่ไปเป็นยังไง

พักกันสักครู่นะครับ แล้วกลับมา เราค่อยไล่กัน แต่อาจไม่ถูกทุกเรื่อง เผลอๆ อาจเป็นเรื่องน้องโบว์เรื่องเดียว เพราะเรื่องน้องโบว์ก็เป็นเรื่องที่ใหญ่โตมโหฬาร

(-----เบรก 2 ----)

ท่านผู้ชมครับ ขณะนี้มีการถกเถียงกันผมไม่อยากใช้คำว่า ถกเถียง ผมอยากใช้คำว่า บิดเบือน โดยเฉพาะอย่างยิ่งระยะเวลาที่ ใกล้กับการชี้มูลของ ป.ป.ช.เรื่องผู้กระทำผิดในการฆ่าประชาชน หรือปราบปรามประชาชนด้วยความรุนแรงใกล้จะมาถึงแล้ว ผมว่าหลังการประชุมอาเซียนซัมมิท จะชี้มูล ก็มีคนที่เดือดร้อนมากมายแสนสาหัส ว่า ตัวเองจะโดนหรือเปล่า ก็มีการปล่อยข่าวมาตลอดเวลา ก็ไม่เป็นที่น่าประหลาดใจ หนังสือพิมพ์ซึ่งเป็นที่พวกนี้ชอบปล่อยข่าวในหนังสือพิมพ์ข่าวสด และหนังสือพิมพ์เครือมติชน อย่างที่ผมพูดกับท่านผู้ชมและก็พี่น้องพันธมิตรฯมาแล้วว่า หนังสือพิมพ์เครือมติชนนั้น เป็นหนังสือพิมพ์เครือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพื่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกต้องและกลับมา ก็ไม่มีอะไรน่าประหลาดใจ แต่ที่น่าประหลาดใจที่ผมจำเป็นต้องพูดให้ผู้ชมฟังคือ รายงานที่ตำรวจออกมาทราบว่า รายงานนี้ตำรวจทำเสร็จเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2551 ตุลา พฤศจิกา มกรา กุมภา 4 เดือนร่วม 5 เดือน ไม่มีแถลงออกมา ทำไมมาแถลงกันตอนนี้ และที่ตลกสุดคือว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ปฏิเสธตัวยาว กระโดดตัวยาวเลย บอกผมไม่รู้เรื่อง ผมไม่รู้ว่ามีรายงานเล่มนี้ ก็เลยแถลง ก็แสดงว่าท่านกว่าจะรู้เรื่องมีรายงานนี้ ต้องใช้เวลา 4 เดือนกว่า ท่านถึงจะรู้เรื่อง มิน่าตอนที่เขาปราบอยู่ เวลาท่านให้การ ป.ป.ช. ท่านบอกว่า ผมไม่รู้ ว่ามีการปราบ ตั้งแต่เช้า เขายิงเช้า ยิงกลางวัน ยิงเย็น ก็ไม่รู้เรื่อง และคนอย่างนี้มาเป็นตำรวจได้ยังไง คนมาปล้นบ้านคุณตั้งนาน และคุณก็บอกไม่รู้เรื่องว่ามีคนมาปล้นบ้าน เหตุผลนี้ฟังไม่ขึ้น

ประเด็นที่สำคัญที่สุดครับท่านผู้ชม และพี่น้องพันธมิตรฯ ประเด็นสำคัญแบ่งเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งคือฝ่ายเรา ยืนยันพร้อมหลักฐาน ฟังใด้ดีๆนะ พร้อมหลักฐานว่า ตำรวจใช้อาวุธร้ายแรงปราบปรามประชาชน และน้องโบว์ถูกระเบิดแก๊สน้ำตาตาย ส่วนทางตำรวจ อ้างว่า เนื่องจากน้องโชว์นั้น ได้พกระเบิด เป็นไปได้ไหมน้องโบว์พกระเบิด เขาใช้คำว่า ซีโฟร์ อยู่ในกระเป๋าและระเบิดขึ้นมา เมื่อเกิดระเบิดขึ้นมาน้องโบว์ถึงตาย

พี่น้อง เมื่อมันเป็นความเห็นขัดแย้ง 2 อัน เรามาดูหลักฐานนะครับ ตำรวจอ้างว่า ถูกระเบิดที่ใส่กระเป๋าไปด้วยเนี้ยะ พี่น้องลองดูภาพน้องโบว์หน่อยซิ ผมจะให้ดูภาพน้องโบว์ซึ่งผมไม่อยากเอาให้ดูเลย พี่น้องเห็นกระเป๋าน้องโบว์ไหม เห็นไหมกระเป๋าน้องโบว์ ถ้าเป็นอย่างที่ตำรวจพูด หรือตำรวจที่ปากเสีย หรือหนังสือพิมพ์ที่เลวทรามต่ำช้า ร่วมมือกับตำรวจเนี้ยะ และน้องโบว์จะอยู่มะ ถ้าระเบิดมันมีจริงในกระเป๋า รูปร่างน้องโบว์ตรงนั้นจะอยู่อีกไหมพี่น้อง เพราะฉะนั้นแล้ว โกหก อันนี้พิสูจน์ชัด

เรื่องที่สอง ตำรวจหน่วยพิสูจน์หลักฐาน บอกว่า น้องโบว์ตายเพราะแก๊สน้ำตา และมีซีโฟร์ติดตามเสื้อ เพราะเขาเอาหลักฐาน 3 ชิ้นไปตรวจสอบ แต่เขาไม่ได้ชันสูตรศพ พ่อแม่พี่น้อง การที่เข้าไปอยู่พื้นที่ที่เกิดอาชญากรรมนั้นถ้ามีคนตาย เขาต้องดูว่าตายเพราะอะไร เขาไม่ได้เอาแค่เสื้อผ้าไปดู เขาต้องเอาไปผ่าไปดู คนที่ไปชันสูตรศพนั้นกลับเป็นแพทย์รามาธิบดี

ที่น่าสนใจอย่างพี่น้อง มีคนๆหนึ่งชื่อ พล.ต.ท.อัมพร จารุจินดา ท่านเป็นอดีตผู้เชี่ยวชาญวัตถุระเบิดและผู้เชี่ยวชาญอาวุธปืน และท่านเองก็ลงทะเบียนเป็นผู้เชี่ยวชาญในการพิสูจน์หลักฐานต่างๆ ในศาล เพราะฉะนั้นแล้ว พูดถึงศักดิ์ศรีของท่าน พูดถึงสถานภาพของท่านเนี้ยะ น่าเชื่อถือ ท่านเป็นปรมาจารย์ในเรื่องนี้ ที่สำคัญคือ ท่านเป็นตำรวจที่ดี ท่านไม่โกหกพกลม อะไรจริงก็จริง อะไรไม่จริงก็คือไม่จริง พี่น้องครับพิสูจน์หลักฐานด้วยวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์ 1+1 ต้องได้ 2 ถ้าไม่ใช่ 2 ผิด กองพิสูจน์หลักฐานนั้นคือวิทยาศาสตร์ แต่เมื่อใดกองพิสูจน์หลักฐานทำตัวเป็นนักวิทยาศาสตร์จอมปลอม เหมือนอย่างที่ออกมาแถลงข่าวนี้บ้านเมืองนี้อยู่ไม่ได้แหละ

อีกท่านคือ พลอากาศตรีนายแพทย์วิชาญ เปี้ยวนิ่ม ท่านคือหัวหน้าหน่วยนิติเวช ภาควิชาพยาธิวิทยา โรงพยาบาลรามา ท่านเป็นคนผ่าศพน้องโบว์และนายแพทย์อีกหลายคนที่ร่วมเป็นพยานพูดชัดเลย ว่าตอนผ่าศพน้องโบว์ กลิ่นแก๊สนี่ขึ้นมาหมดเลย กลิ่นแก๊สขึ้นมาหมด จนเขาแสบตาต้องหลบ กระจายอยู่ประมาณ 1-2 เมตร เพราะฉะนั้นที่ตำรวจบอกไม่โดนแก๊สน้ำตา จึงเป็นไปไม่ได้ เพราะฉะนั้นสาเหตุที่เขาตาย เขาไม่ได้ตายเพราะว่าโดนแก๊สน้ำตา แต่เขาตายเพราะสะเก็ดระเบิด ตำรวจปฏิเสธว่า ไม่มีระเบิด และพูดคำว่า ซีโฟร์

ยังงี้ดีกว่าพี่น้อง เรามาดูของดีกว่า ผมเอาวัตถุ เนี้ยะ โชคดี พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยยังเก็บหลักฐานพวกนี้เอาไว้เยอะ ผมต้องเตือนสติไปยังฝ่ายตำรวจด้วยนะฮะ ไม่ว่าจะเป็น พล.ต.ต.อำนวย หรือใครก็ตามที่ทำคดีนี้ เวลาเราพาคุณขึ้นศาล ผมจะเรียงหน้าพวกคุณขึ้นศาล เรามีหลักฐานพิสูจน์ชัด อันนี้คือ ระเบิด เขาเรียกว่า ระเบิดแก๊สน้ำตา เขาไม่ได้เรียกว่า แก๊สน้ำตา นะครับ ระเบิดแก๊สน้ำตานี้ที่ทำด้วยอลูมินั่ม เป็นของอเมริกัน เขาเขียนเลยว่า ลอง เลน ไลท์ เวท โปรเจคไทน์ สามารถยิงโค้งไปได้ประมาณ 150 หลา เฉลี่ยก็ประมาณ 150 เมตร และก็ เขามีระบุเสร็จเรียบร้อย

ส่วนอันนี้เขียวขี้ม้า คือของจีน อันนี้ยังอยู่สภาพที่ยังไม่ระเบิด พี่น้องครับ ผมจะผ่านไปภาพๆหนึ่ง ช่วยเอาภาพของรายละเอียดที่เขาผ่าระเบิดแก๊สน้ำตาของจีนออกมาให้ดูซิ พี่น้องต้องดู พี่น้องจะเห็นได้ชัดตรงช่วง ตรงกลางตรงนั้นมันมีชนวน และมันมีระเบิด ซึ่งตำรวจพยายามพูดว่ามันคือ ซีโฟร์ พี่น้องฟังคำว่า ซีโฟร์ ดีๆ ซีโฟร์คือ องค์ประกอบของระเบิด ซีโฟร์ประกอบด้วย สาร RDX 90 กว่าเปอร์เซนต์ และที่เหลือก็ผสมผสานกัน เพราะฉะนั้นแล้ว เขาบอกว่า เขาเจอแต่ซีโฟร์ เขาไม่เจอ RDX เท่ากับว่าอะไรรู้ไหมครับพี่น้อง เท่ากับว่า เหมือนที่คุณคำนูณ สิทธิสมานพูดนะ คุณเจอน้ำเชื่อม แต่ไม่เจอน้ำตาล คุณจะไปเจอน้ำตาลได้ไง น้ำตาลมันถูกเคี่ยวกลายเป็นน้ำเชื่อมแล้ว มันกลายเป็นเนื้อเดียวกันครับพี่น้อง

เพราะฉะนั้น คือ สิ่งที่ผมไม่อยากจะลงรายละเอียดทางเทคนิคมากมายนัก เพราะทางเทคนิคยังไงก็ตาม กองพิสูจน์หลักฐานอธิบายไม่ได้ มีผู้เชี่ยวชาญทางเทคนิคสามารถอธิบายได้ ผมจะอธิบายหลักปรัชญาให้ฟัง เขาบอก และเขาจงใจสื่อความหมายออกไป ว่า น้องโบว์ที่ตายนั้น เพราะน้องโบว์พกระเบิด ผมแก้ข้อกล่าวหาไปข้อแรกแล้ว ถ้าพกระเบิดกระเป๋าจะไม่เป็นอย่างนั้น ถูกไม่ถูกพี่น้อง

ข้อที่สองเนี้ยะ ถ้าพกระเบิดนะ ดูหน้าน้องโบว์นะ หน้าน้องโบว์ก้มลงไปอย่างนี้ หลังหันเข้าสู่สวนอัมพร ข้างหน้าอยู่ตรง บช.น.กองบัญชาการตำรวจนครบาล ระยะห่างไปที่จะยิงนะฮะ หลังอยู่ บช.น. หน้าอยู่สวนอัมพร ระยะที่ยิงออกไปเป็นระยะอะไรรู้ไหม เป็นระยะวิถีของปืนระเบิดแก๊สน้ำตา เข้าใจว่า คงมีการยิงออกมาจาก บช.น.และที่น่าใจนะพี่น้อง มีหลักฐานพิสูจน์ชัด ว่าระเบิดเนี้ยะ พี่น้องหันมาดูนี่ ของจีนอันนี้เป็นระเบิดแก๊สน้ำตาที่หมดอายุ และนายตำรวจที่ทำเรื่องขอระเบิดแก๊สน้ำตาไป พี่น้อง เขาระบุเลยว่า ขอของจีน เพราะเขารู้ว่า ของจีนมันมีระเบิดอยู่ข้างใน แล้วมันมีสะเก็ดระเบิดอยู่ข้างใน และเขาออกของขว้างและของยิง ทั้งที่หมดอายุก็เอาไป

อย่างนี้ถ้าหมดอายุ อะไรจะเกิดขึ้น แก๊สจะหมดอายุไป เหมือนกับท่านเอาลูกโป่งเนี้ยะ ทิ้งไว้ตั้งนาน ไอ้ลมที่อยู่ในลูกโป่งมันก็ค่อยๆ แฟ่บไปใช่มะ แต่หนังยางลูกโป่งยังอยู่มะ อยู่ ฉันใดฉันนั้น แก๊สที่หมดอายุ แต่ว่าซีโฟร์ ระเบิดที่มีส่วนผสม RDX ยังอยู่ อยู่ได้เป็น 100 ปี เอาละผมจะพิสูจน์ให้ดู ถ้าไม่มีระเบิดเนี้ยะ ผมจะให้ดู นี่คือหลักฐานที่พวกเราเก็บไว้ สะเก็ดระเบิดที่แพทย์ผ่าออก สะเก็ดระเบิดที่แพทย์ผ่าออกจากเหตุการณ์ 7 ตุลา คนที่ได้รับบาดเจ็บและแพทย์ผ่าออก สะเก็ดระเบิดอยู่ในนี้ทั้งหมด สะเก็ดระเบิดทั้งสิ้น จุดนี้ สะเก็ดระเบิด ดูใกล้ๆ สะเก็ดระเบิด คุณพงษ์พจน์ เพียรจันทร์ นี่ก็สะเก็ดระเบิดทั้งนั้น

คือสรุปง่ายๆ ผมจะถามว่า ตำรวจเมื่อไรจะเลิกโกหกประชาชนซะที คุณนี่เสียภาษีอาการของประชาชนเสียไปหมด พี่น้อง และนี่คือรองเท้า คุณชาญชัย ผสมทรัพย์ พันธมิตรฯชลบุรี พี่น้องครับ ผมไม่ได้เอาออกมา แต่ในรองเท้านี้จะเห็นชัดว่า มีรู มีรูซึ่งโดนสะเก็ดระเบิดหมดเลย เอ๊ะ ถ้าคุณยิงมีแต่แก๊สตาเนี้ยะ รองเท้ามันสำลักแก๊สน้ำตาหรือไง รองเท้ามันมีชีวิตที่สำลักแก๊สน้ำตาหรือไง คุณจะโกหกทั้งที ก็โกหกให้ดีหน่อย คุณเนี้ยะเป็นฆาตกรฆ่าประชาชน คุณยังไม่ยอมรับ เสร็จแล้ว เพียงคุณไม่กี่คน ทำให้วงการตำรวจพังทลายหมด มีหลักฐานหมด มีอีกเยอะ มีชื่อคนไข้วันผ่าพันธมิตรฯ อีกเยอะ ผมเก็บไว้หมด ผมจะบอกให้รู้ทำไมเราเก็บเอาไว้ ที่เราเก็บไว้เพราะเราต้องการเอาพวกคุณขึ้นศาลอาญา หลัง ป.ป.ช.ชี้มูล และเรามาดูภาพแผลน้องโบว์ ที่แพทย์ถ่ายไว้จะเห็นว่า ภาพแผลน้องโบว์ ที่พี่น้องเห็นเนี้ยะ เป็นภาพด้านซ้ายลำตัว กระเป๋าอยู่ด้านขวา เพราะฉะนั้นพี่น้องจะเห็นได้ชัด ว่าระเบิดมันมา ระเบิดมันตกที่พื้นมันกระเด็นเข้ามาทางด้านซ้ายน้องโบว์ เพราะฉะนั้นกระเป๋าอยู่ด้านขวา ผมจะถาม ถ้ากระเป๋ามันมีระเบิด ทำไมมันมีแผลด้านซ้าย และรูปพวกนี้ เป็นรูปซึ่งตอนแรกสื่อมวลชนทุกฉบับลง นี่คือทำไม ทำไม ผมถึงบอกพี่น้องว่า

ยังไงก็ตาม ต้องยืนอยู่ข้างเอเอสทีวี เพราะเอเอสทีวี เป็นสื่อเดียวที่ไม่โกหกคน สื่ออื่นโกหกหมดทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นช่อง 3 รายการสรยุทธ์พูดเนี้ยะ ใช้ไม่ได้ สื่อไม่รู้ว่าเป็นน้องโบว์ และตอนหลังเมื่อรู้ว่าเป็นน้องโบว์ ตำรวจเข้าไปแทรกแซงทำลายหลักฐาน สื่อก็เลยไม่ลงเลย เพียงแต่ว่าโชคดีที่ยังมีเอเอสทีวี เขาทำลายหลักฐานไม่ให้เผยแพร่ เพราะมันจงใจตบหน้าเขา

ทีนี้มันเผอิญมีภาพที่มีช่างภาพ กล้องวิดีโอถ่ายอยู่ แต่ไม่ได้รับการเผยแพร่ตามสื่อต่างๆ ยกเว้น เอเอสทีวีเท่านั้น พี่น้องเห็นรึยังว่า น่ากลัวไหมสังคมไทย คนฆ่าคน สื่อมวลชนสมรู้ร่วมคิด เนื่องจากพวกเขาบางคนเป็นตำรวจ โดยเฉพาะหนังสือพิมพ์ข่าวสด มติชน อำมหิตจริงๆ ผมไม่รู้ว่า จิตใจคุณขรรค์ชัย บุนปาน ทำด้วยอะไร จิตใจคุณฐากูร บุนปาน หลานชายคุณขรรค์ชัยทำด้วยอะไร สมัยก่อนก็เห็นรักชาติ รักประชาชน แต่เดี๋ยวนี้กลายเป็นเครื่องมือตำรวจ นอกจากเป็นเครื่องมือเรื่องนี้แล้ว ยังเป็นที่ปล่อยข่าวของตำรวจ อย่างข่าวพล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ปล่อยข่าวออกมา ว่ามี 21 คน ที่จะออกหมายจับ

พี่น้องครับ ตลกมาก มีหมดทุกคน ยกเว้น 2 คน คือ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และอีกคนคือ คุณไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ทำไมถึงขาดละ ก็เพราะว่า ระหว่างเหตุการณ์ 7 ตุลาคมที่บุกรัฐสภาอยู่นั้น 2 คนนั้นถูกขังคุกอยู่ ก็เลยไม่โดน มีผม มีคุณสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ มีคุณสุริยะใส กตะศิลา มีสำราญ รอดเพชร มีสาวิทย์ แก้วหวาน มีวีระ สมความคิด มีกิตติชัย ใสสะอาด มีสุชาติ ศรีสังข์ มีพิภพ ธงไชย มีสมศักดิ์ โกศัยสุข มีอมร อมรรัตนานนท์ มีศิริชัย ไม้งาม มีชิดชัย มงคล มีอำนาจ พละมี มีประยุทธ์ วีระกิตติ มีสมบูรณ์ ทองบุราณ ประพันธ์ คูณมี พิเชษฐ์ พัฒนโชติ ศุภผล เอี่ยมเมธาวี มาลีรัตน์ แก้วก่า และพี่ปองของผม อัญชลี ไพรรีรัก เดี๋ยวปล่อยให้พี่ปองเขาฟาดฟันเองดีกว่า

สิ่งที่ผมจะชี้ให้เห็นว่า ตำรวจนั้นเนี้ยะ ปล่อยข่าวแบบนี้ตลอดเวลา และสื่อมวลชน สื่อแรกที่ปล่อยให้และลงให้หมดทุกอย่างคือ ข่าวสด และมติชน พี่น้องเห็นรึยัง ทำไมผมบอกว่าอย่าไปซื้อหนังสือพิมพ์แบบนี้ ผมเคยพูดจำได้ไหม และต้องบอกญาติพี่น้องทุกคนว่า อย่าไปซื้อ หนังสือพิมพ์เครือมติชน งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติทุกวันนี้ เต็นท์มติชนก็อย่าไปเข้า เข้าแล้วไม่มีสิริมงคล พี่น้อง เป็นหนังสือพิมพ์ที่อยู่ยืนข้าง ใจ อึ้งภากรณ์ ที่สนับสนุนเสื้อแดง เป็นหนังสือพิมพ์ที่ใส่ร้ายน้องโบว์ขนาดนี้ น้องโบว์ชาติตระกูลดี พ่อแม่มีเงินรักชาติรักแผ่นดิน ไปประท้วงรัฐบาลนอมินีของทักษิณ ไปกับพี่สาว ไปกับแม่ 3 คน พ่ออยู่บ้าน นี่ไงพี่น้อง รองเท้าคู่นี้ ที่เท้าขาด นิ้วขาด เป็นรองเท้าแม่น้องโบว์ เจ้าของกิจการ มีเงินทอง บ้านหลังใหญ่เบ้อเร่อ แต่ไปเดินถนน เรียนจบชั้นสูงจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อแต่ถูกอาวุธทำร้ายจนตาย แทนที่ หนังสือพิมพ์ คนอย่างคุณขรรค์ชัย บุนปาน ฐากร บุนปาน คุณขรรค์ชัย นี่จบคณะโบราณคดี ศิลปากร ผมนึกไม่ถึง คนจบโบราณคดียังไม่มีจุดยืนทางสังคมแบบนี้

พี่น้องเข้าใจรึยัง เพราะงั้นวันนี้ สงคราม 2 สงคราม มันเป็นสงครามที่พิสูจน์ชัด ว่าใครโกหก ใครพูดความจริง พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พูดความจริง เอเอสทีวี หนังสือพิมพ์เอเอสทีวีผู้จัดการ เว็บไซต์ผู้จัดการพูดความจริง ข่าวสดโกหก มติชนโกหก ร่วมมือกับตำรวจเพื่อโกหก เฮ้อ เหนื่อยไหมพี่น้อง ต้องสู้กับไอ้ประเภทนี้อีกต่อไป พี่น้องครับ พักกันสักครู่นะครับแล้วเราจะกลับมาใหม่

(-----เบรก 3-------)

กลับมาอีกครั้งนึงครับ ท่านผู้ชมครับ ขณะนี้เป็นเวลา 06.34 น.ก็หลายๆ คน กำลังอยู่ในห้องน้ำแต่งตัว เปิดเสียงดังๆ ฟังเพลง หลายคนก็ขับรถก็ขับรถอยู่ หมุนไปที่คลื่น 97.75 นะครับ

เออ ผมจะพูดเรื่องการลดดอกเบี้ยนิดนึง คือเมื่อวานนี้ คณะกรรมการการเงิน บอกว่า ลดดอกเบี้ยลงอีก 0.5% หรือ ครึ่งเปอร์เซนต์ ทำให้ดอกเบี้ยออมทรัพย์ตอนนี้ ไม่ถึง 1% แค่ 0.5% เอง และบอกว่าเขาลดดอกเบี้ยเงินกู้ด้วย คือเขาจะลดดอกเบี้ยไปเรื่อยๆ แต่ขณะเดียวกัน ส่วนต่างของเงินกู้กับเงินฝากจะมีอยู่ประมาณ 6% ซึ่งเป็นส่วนต่างที่ ขอโทษนะครับ ขอพูดภาษาผม โคตรสูงเลย ธนาคารไทยเป็นธนาคารที่มีแต่ได้ นายโจเซฟ สติกลิตซ์ ซึ่งเป็นนักเศรษฐศาสตร์ รางวัลโนเบล ไพรซ์ เขาพูดเลยนะ เขาบอกบทบาทธนาคารพาณิชย์ไม่ได้เป็นบทบาทที่สร้างสรรค์ แต่เป็นบทบาทที่ทำลาย

พี่น้องคงได้ดูรายการของ ทวงสิทธิ์ลูกหนี้ไทยไหม ทุกๆ คืน หลังรายการคนในข่าว โดยคุณปานเทพ เป็นพิธีกร และมีคุณหน่อง กัลยาณี ทนายสุวัฒน์ คุณสงวน และวันดีคืนดีจะมี แขกรับเชิญเข้ามา ทวงสิทธิ์ลูกหนี้ไทยเนี้ยะเขาอธิบายชัดเลย ว่าธนาคารเมืองไทย เอาแต่ได้ไม่ยอมเสีย เพราะงั้นแล้ววันหลังผมจะมาพูดเรื่องธนาคารไทยอีกที

วันนี้จะชี้ให้เห็นว่า การลดนโยบายดอกเบี้ยเนี้ยะ ลดไปเรื่อยๆ ลดไปจนถึงเหลือ 0 ถ้าดอกเบี้ยเงินฝากเหลือ 0 แล้วคนที่มีเงินฝากอยู่เนี้ยะจะทำยังไง โจเซฟ สติกลิตซ์ ผู้ที่มีรางวัลโนเบล ไพรซ์ ที่คุณอภิสิทธิ์จะเชิญมาเป็น ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ เขาพูดยังไงรู้ไหมฮะ เขาบอกว่า มันถึงเวลาที่ต้องยุติแล้ว ของการที่จะบอกคนอเมริกัน เขาพูดกับสังคมอเมริกานะครับ ว่า ในการที่จะส่งเสริมให้คนใช้เงินเนี้ยะ แทนที่จะออมเงิน ให้เลิกได้แล้ว คือเขาพูดง่ายๆ ว่าให้คนออมเงิน ให้หยุดใช้เงินลงบ้าง ทีนี้ อเมริกาก็บอกว่า ไม่ได้ ต้องใช้ และคุณใช้ คุณจะไปออมได้ไง และทุกวันนี้อเมริกา เหมือนอย่างที่ โอบามาพูดทุกวันนี้ โอบามาเนี้ยะ เพิ่งของบประมาณผ่านไป พี่น้องรู้ไหมงบประมาณอะไร งบประมาณของอเมริกา เขาผ่านไปเท่าไร 156.6 ล้านล้านบาท งบประมาณเขา ขณะที่งบประมาณเราแค่ 1.8 ล้านล้านบาท หรือพูดง่ายๆ ว่า เขามีงบประมาณในการใช้จ่ายมากกว่าเรา 86 เท่า เหมือนเรามีล้านบาท เขามี 86 ล้านบาท และส่วนใหญ่งบประมาณเขา คืองบประมาณที่เอาไปเสริมสร้างความแข็งแกร่งของธนาคาร เพื่ออะไรรู้ไหม เพื่อให้ธนาคารปล่อยกู้ออกมา เพื่อให้คนมาใช้ๆๆๆ

นายโจเซฟ สติกลิตซ์ บอกว่า ไม่ใช่ หยุดได้แล้ว นายโจเซฟ สติกลิตซ์ ไม่ได้คิดว่า การสนับสนุนที่จะให้ช่วยชีวิตกู้ชีพธนาคารเป็นทางออก และเป็นเรื่องจริง เพราะวันนี้พี่น้องที่มีอายุเท่าผม เมื่อปี 2540 จำได้ไหมที่สถาบันการเงินเมืองไทยล้ม และผมเป็นคนสู้มาตลอด บอกว่า เราต้องปกป้องลูกหนี้ ไม่ใช่เพราะผมเป็นลูกหนี้ มีใครบ้างในสังคมไทยที่ไม่เป็นลูกหนี้ สังคมไทยมีคนเป็นลูกหนี้อยู่ประมาณ 30 กว่าล้านคน 30 กว่าล้านคนเนี้ยะ เกินกว่า 50% คนที่พูดเก่ง พูดดี พวกนักการเมืองทั้งหลายที่ทำตัวเป็นซื่อ ใส สะอาด และบริสุทธิ์ บอกว่า สนธิ นั้นมีหนี้เยอะ หรือฝ่ายเสื้อแดงที่บอกว่า ก็สนธิมันมีหนี้เยอะ ไม่มีเยอะได้ยังไง ก็สนธิมันไม่เคยโกงใคร สนธิมันทำหากินด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ทุกวันนี้ เอเอสทีวี ถ้าไม่มีพี่น้องช่วยจะอยู่ได้ยังไง ไม่เหมือนพวกคุณนี่ พวกคุณทั้งรับประทาน ทั้งยัด ทุกอย่าง ทั้งคอร์รัปชั่น ทุกประการ คุณถึงไม่หนี้ไง แต่ว่าคุณเป็นคนบาปของแผ่นดิน พวกผมต้องมาใช้หนี้แผ่นดิน เพื่อไล่พวกคุณออกไป เนี้ยะมันต่างกัน

กลับมาอีกนิดหนึ่ง โอบามาในขณะนี้มีปัญหามาก เพราะการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของโลก ต้องหลุดตัวออกไปจากกรอบ เดี๋ยวนี้กรอบนักเศรษฐศาสตร์ทั่วๆ ไปที่เขาพูดกันบอก เฮ้ยไม่ได้ พี่น้องจำไว้นะ สูตรสำเร็จของพวกที่เรียนมาจากเมืองนอกจะเป็นอย่างนี้ วิธีการจะให้เศรษฐกิจหมุนต่อไปต้องปล่อยกู้ให้มาก ให้คนเป็นหนี้มากขึ้น พอเป็นหนี้มากขึ้นแล้วมีการจับจ่ายใช้สอยเศรษฐกิจจะได้หมุน คนก็เป็นหนี้ไปเรื่อยๆ แต่วิธีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เป็นอย่างนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ บอกว่า คุณมีค่าใช้จ่ายสูงเท่านี้ แล้วคุณมีรายได้น้อยกว่า ถ้าเป็นทักษิณ ชินวัตร หรือฝรั่ง ก็บอกว่า เพิ่มรายได้ให้มันสูงขึ้นเพื่อจับจ่ายใช้สอย คืออย่าลดรายจ่าย แต่พระเจ้าอยู่หัวบอกว่า ให้ลดรายจ่ายลงมา ให้เท่ารายได้ ลดรายจ่ายลดยังไง โทรศัพท์มือถือเคยโทรเดือนละ 1,000 ลดเหลือเดือนละไม่เกิน 200 รถยนต์เคยใช้เดือนละ 6,000 ลดเหลือ 3,000 เคยไปดูหนัง ลดลงมาซะก่อน ลดจนกระทั่ง พอสิ้นเดือนแล้ว เงินที่มีอยู่ จ่ายออกไปแล้วไม่เป็นหนี้ใคร ไม่ต้องไปแลกเช็กใคร ไม่ต้องไปกู้หนี้ยืมสินใคร นั่นหละคือจุดเริ่มต้นของเศรษฐกิจพอเพียง หมายความว่า อยู่ตรงนี้ให้ได้ก่อน พออยู่ได้แล้ว พอเริ่มเคยชินแล้ว จากการที่เคยเปิดแอร์ทั้งคืนทั้งวัน ก็ลดลงมาเหลือเปิดแอร์เฉพาะก่อนนอน พอเริ่มง่วงนอนแล้วลุกขึ้นมาปิดแอร์แล้วเปิดหน้าต่าง ลดค่าไฟลงไปอีกนิด จนกระทั่งรายได้ที่เคยเท่ารายจ่าย รายได้เริ่มมากกว่ารายจ่ายนิดนึงแล้วค่อยขยับขยายว่า เงินที่เกินไปจะเอาไปทำอะไร นายสติกลิตซ์ และพระพุทธเจ้า กลับบอกว่า รายได้ที่มากกว่ารายจ่ายนั้นไม่ต้องไปทำอะไรหรอก เอาฝากไว้ในแบงก์

พี่น้องครับ สังคมใดถ้าไม่มีฐานออมทรัพย์ที่แข็งแกร่ง สังคมนั้นไม่เจริญ ฉันใดฉันนั้น สังคมใดที่ไม่มีการออมทรัพย์เลย เหมือนอเมริกาวันนี้ ไม่มีการออมทรัพย์เลย เมื่อไม่ออมทรัพย์แล้วต้องใช้จ่าย ใช้จ่ายอเมริกาเอาเงินมาจากไหน อเมริกาก็ยืมเงินมาจากประชาชน นั่นคือสิ่งซึ่ง นางฮิลลารี คลินตัน เดินทางไปประเทศเอเชีย แล้วจบลงที่ประเทศจีน ผมอยากให้ฟังนางฮิลลารีพูดสักนิดหนึ่ง แล้วผมจะอธิบายให้พ่อแม่พี่น้องฟัง ว่าที่เขาพูดนัยที่แท้จริงมันหมายความว่ายังไง ไปฟังนางคลินตันพูดสักนิดหนึ่ง

(VTR ฮิลลารี คลินตัน)

สรุปง่าย คือคลินตันกำลังจะบอกอย่างนี้ ประเทศจีนเป็นประเทศที่ถือพันธบัตร มีเงินสำรอง เงินดอลลาร์เยอะที่สุดในโลก คือ 2 ล้านล้านเหรียญ เขามีเงินสำรอง เงินก้อนนี้เขาเอาไปไหนบ้าง เขาไปซื้อพันธบัตรอเมริกัน เงินก็ต้องอยู่กับอเมริกา อเมริกาก็เอาเงินที่จีนไปซื้อพันธบัตร หรือทั่วโลกไปซื้อพันธบัตรนั้น เอาเป็นเงินมาทดแทนเงินที่อเมริกาไม่มี พูดง่ายๆ ว่า อเมริกายืมเงินคนจน คือประเทศจีน พวกเรา เอาไปใช้ เหมือนกับเงินของเราที่เป็นยูเอส ประมาณแสนกว่าล้านดอลลาร์ เราก็เอาไปซื้อพันธบัตรเขา คือคลินตันบอกว่า จีนกับอเมริกานั้นมันผูกติดกัน อย่าไปทิ้งซึ่งกันและกัน ขอให้จีนมาซื้อพันธบัตรอเมริกาต่อเถอะ เมื่อซื้อพันธบัตรอเมริกาเสร็จเรียบร้อยแล้ว อเมริกาจะได้เอาเงินนี้ไปปล่อยเงินกู้ ทำให้เศรษฐกิจอเมริกาดีขึ้น เพื่ออเมริกาจะได้มาซื้อของจีนต่อไป คือมันเป็นวงจรอุบาทว์ จีนเลยติดกับ ถูกใส่กุญแจมือคู่กับอเมริกาตลอดเวลา อเมริกาล้มถ้าจีนไม่หนุนอเมริกาจีนก็ต้องเหนื่อยไปด้วย

ผมจะบอกพี่น้องว่า ตั้งแต่ผมเห็นมา ไม่มีอะไรยิ่งใหญ่กว่า ธรรมะของพระพุทธเจ้า สิ่งที่อเมริกาทำกับจีน สิ่งที่ไทยกำลังทำอยู่ เราต้องทำอยู่บนพื้นฐานของ อัตตาหิอัตโนนาโถ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน เราจำเป็นต้องพึ่งตนเองเราอย่าไปพึ่งคนอื่นเขา เรามีปัญหา เราพิจารณาที่เหตุก่อน ว่าผลที่เกิดขึ้นเหตุมันมายังไง ผลที่เกิดขึ้นในทั่วโลก เพราะว่ามันจับจ่ายใช้สอยเกินตัว แล้วเหตุมาจากไหน เหตุมันเกิดขึ้นจาก เนื่องจากว่า เอาเงินไปแจกชาวบ้าน ให้คนกู้เป็นหนี้ พี่น้องที่ฟังผมปราศรัยยังจำได้ใช่ไหม วันนี้มีบทพิสูจน์คำปราศรัยผมทุกข้อ ผมไม่ได้เป็นพ่อหมออย่างที่คุณแอ้ม สโรชา บอก แต่ผมเป็นคนที่ดูเหตุดูผล ผมจะพิจารณาทุกอย่าง แล้วดูที่เหตุ พอดูที่เหตุเสร็จแล้วผมรู้ว่าผลจะเป็นอย่างนี้ ผมฟันธงไปได้เลย

เหตุที่สำคัญที่สุดของการล่มสลายของเศรษฐกิจ ก็เพราะว่า 1. นายทุนไม่รู้จักพอ มีความโลภอยากจะรวยมากขึ้น นั่นคือที่มาว่า ทำไมขึ้นราคาสินค้า ขึ้นราคาบ้าน ขึ้นราคาที่ดิน แล้วเอาประชาชนเป็นผู้ซื้อ ประชาชนมีเงินไม่พอ ก็ยืดหนี้ จากเคยผ่อนส่งบ้าน 15 ปี เป็น 30 ปี เคยดาวน์บ้าน 30 เปอร์เซ็นต์ ก็ดาวน์แค่ 5 เปอร์เซ็นต์ก็พอ เคยผ่อนส่งรถ 3 ปีหมดก็ยืดไปเป็น 7 ปี สมัยก่อนดาวน์รถ 25 เปอร์เซ็นต์ เดี๋ยวนี้ 10,000 บาท ก็ดาวน์ได้แล้ว ที่เหลือผ่อนเป็นปี เห็นไหม คนไม่รู้จักพอ คือไม่รู้จักกิเลสตัวเอง ไม่รู้จักมีสติในการใช้เงินใช้ทอง นายทุนไม่รู้จักพออยากจะกำไรมากขึ้น คนไทยเลยเห็นหนี้เป็นสินกันหัวโตไปหมดเลย เพราะฉะนั้นแล้วด้วยเหตุนี้ สติจึงเป็นเรื่องสำคัญที่สุด จะเห็นได้ชัดนะครับพี่น้อง

เรามาพูดกันเรื่องของ คุณศิโรตม์ สวัสดิพาณิชย์ นิดนึง คุณศิโรตม์ สวัสดิพาณิชย์ อดีตอธิบดีกรมสรรพากร ที่ถูก คตส. และ ป.ป.ช.ชี้มูลจนกระทั่งโดนไล่ออกจากราชการ เกิดอะไรขึ้นพี่น้อง ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าแกไม่ผิด คือบอกว่า แกมีสิทธิ์ การที่แกลดภาษีให้คุณบรรณพจน์ ดามาพงศ์ แกไม่ผิด น่าสนใจมากน่าสนใจองค์คณะผู้พิพากษาที่พิพากษา เพราะท่านอธิบดีศาลอาญาท่านมีความเห็นแย้ง ท่านแย้งว่า ท่านบอกว่า ถึงไม่ผิดแต่ว่า 157 ต้องผิด คือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และปฏิบัติหน้าที่มิชอบ โดยท่านให้เหตุผลว่า พฤติกรรมของคุณศิโรตม์ และอีกหลายคนที่ถูกยกฟ้อง เป็นพฤติกรรมส่อเจตนาว่าจงใจจะช่วยเหลือ ถึงแม้จะมีสิทธิ์ทำ แต่จงใจจะช่วยเหลือ ท่านอธิบดีศาลอาญาและคณะทำงานท่านชี้ประเด็นว่า พฤติกรรมเร่งรีบพิจารณาเรื่องนี้ให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาอันสั้นมากๆ ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในการทำงานของกรมสรรพากร ธรรมดาการลดภาษี การยกเว้นภาษี พี่น้องที่เคยไปติดต่อสรรพากรจะรู้ว่า ไม่มีวันจบ จบไม่ได้เลยงานนี้ โอ้โหเจรจาแล้วเจรจาอีก เขาบอกว่า พิจารณาไม่ได้หรอกครับ ผิดประเด็น แต่กรณีคุณบรรณพจน์ ดามาพงศ์ อธิบดีคนนี้ ซึ่งตอนนั้นเป็นรองอธิบดี รักษาการอธิบดีอยู่ อธิบดีศาลอาญาท่านชี้ให้เห็นว่า คนที่เป็นรองอธิบดีและรักษาการอธิบดีนั้น ไม่ควรจะตัดสินใจ ไม่น่าจะกล้าตัดสินใจโดยเร็ว แทนอธิบดี อย่างน้อยต้องดึงเรื่องไว้แล้วรอให้อธิบดีเป็นคนตัดสินใจ แปลว่าอะไรพี่น้อง แปลว่าการตัดสินใจครั้งนี้ มีเจตนาเข้าข่ายมาตรา 157 ซึ่งสามารถจะฟ้องร้องได้ คือท่านกำลังชี้ ชี้ทางออก ชี้แนวให้อัยการอุทธรณ์เรื่องนี้ ผมไม่ได้พูดเองนะครับ ท่านอธิบดีศาลอาญา ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรงขององค์คณะที่พิจารณาคดีของคุณศิโรตม์ ผมถึงบอกว่า วันนี้เรื่องราวของคุณศิโรตม์ยังไม่จบ เพราะฉะนั้นแล้วคุณศิโรตม์ยังจะต้องเจอเวรกรรมต่อไป ปีนี้คุณศิโรตม์ อายุ 59 ปีแล้ว ปีหน้าน่าจะเกษียณอายุ คุณศิโรตม์แน่นอนที่สุด กำลังยื่นเรื่องไปที่ ฟ้องไปที่ศาลปกครอง เพื่อขอกลับเข้าไปรับราชการอีกครั้งหนึ่ง เป็นเรื่องที่จะต้องต่อสู้กันไป ในวาระต่างๆ เหล่านี้ พ่อแม่พี่น้องเข้าใจเรื่องคุณศิโรตม์แล้วนะครับ

เวลามีอยู่ไม่มาก ผมคิดว่าเราพักกันสักครู่แล้วเดี๋ยวเราจะกลับมาจบ สรุปกันว่ายังเหลือเรื่องอะไรบ้าง

สวัสดีอีกครั้งครับท่านผู้ชม ท่านผู้ฟัง ตอนนี้เวลา 06.50 น. หลายๆ ท่านคงกำลังจะออกจากบ้าน หลายท่านยังไม่ออก สุดแล้วแต่บ้านอยู่ห่างจากที่ทำงานไกลหรือไม่ไกล

มีเรื่องเหลืออีกประมาณ 1-2 เรื่องที่ผมอยากจะพูดให้พ่อแม่พี่น้องฟัง ตอนนี้ผมจะพูดไว้ล่วงหน้า เรามาดูการทำงานของประธานาธิบดีบารัก โอบามา ความรู้สึกส่วนตัวผม ซึ่งแน่นอนที่สุด ความรู้สึกของผมพูดออกไปที่ไร นักวิชาการจะไม่เห็นด้วยตลอดเวลา บอกว่าเป็นไปไม่ได้ แต่พอเวลาผ่านไประยะหนึ่งก็เป็นไปได้หมด ข้อแตกต่างระหว่างเขากับผมคือ ผมเป็นคนที่คิดนอกกรอบ แล้วผมคิดว่า โลกทุกวันนี้ถ้าใครคิดในกรอบมีอันเป็นไปหมดทุกคน ผมมองว่า นายโอบามาในขณะนี้กำลังเดินไปสู่ลักษณะกึ่งๆ สังคมนิยม ทำไมผมถึงพูดเช่นนี้ เป็นครั้งแรกที่ประเทศสหรัฐอเมริกากำลังเริ่มที่จะยึดธนาคาร คือเขาไปมองมุมกลับ แทนที่เขาจะปล่อยให้ธนาคารล้มตามหลักเศรษฐกิจเสรี คืออเมริกาเป็นประเทศที่น่าไหว้หลังหลอกมากที่สุด ในช่วงปี 2540 ที่ธนาคาร สถาบันการเงินเราล้ม เวลาเราจะเอารัฐบาลมาช่วย เขาบอกว่าผิด ห้ามทำ แต่มาวันนี้อเมริกาแทบจะยึดแบงก์หมดทุกแบงก์แล้ว ล่าสุดประกาศว่า พร้อมจะเข้าไปถือหุ้นในซิตี้แบงก์ซิตี้กรุ๊ป ถึง 84 เปอร์เซ็นต์ ซิตี้กรุ๊ป เป็นสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก ไปช่วยเอไอจี ซึ่งขอเงินเพิ่ม ประมาณ 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐ แล้วยังต้องใช้เงินอีกเยอะเข้ามาจนเจือสถาบันการเงิน

มันเลยเกิดข้อคิดอย่างนี้ เกิดข้อคิดว่า เศรษฐกิจในโลกนี้มันจะเป็นไปยังไงกัน บางคนบอกว่าปีหน้าดี บางคนบอกว่าต้องรอปี 53 แต่ปรากฏว่า ปี 53 หรือปี 54 ไม่สำคัญ ที่สำคัญคือว่า ลักษณะเศรษฐกิจแบบปลาใหญ่กินปลาเล็ก แล้วให้นายทุน นายธนาคารร่ำรวยอยู่ฝ่ายเดียว ในที่สุดประชาชนทั่วโลกต้องเป็นทาสในการผ่อนส่งทุกอย่าง ซื้อของแพง มันจะอยู่ไม่ได้อีกต่อไป นายสติกลิตซ์ มีความเห็น และผมมีความเห็นพร้อมกับนายสติกลิตซ์ เหมือนกัน ที่น่าสนใจคือ นายจอร์จ โซรอส ก็เห็นด้วยกับความคิดอันนี้ พูดง่ายๆ ว่า ลักษณะของวิกฤตทางการเงินมันตกเหวยังไม่ถึงก้นเหว เมื่อถึงแล้ว มันจะฟื้นฟูขึ้นมาให้เหมือนเดิมได้ยังไง ผมเข้าใจว่าระบบเศรษฐกิจเสรีเขาต้องการดึงดัน ดันทุกอย่างเพื่อให้กลับไปสู่เหมือนเดิม คือว่า ขอให้เหมือนเดิม เหมือนเพลงไทยก่อนจากกัน เพราะฉะนั้นเราจะเห็นว่า โอกาสที่มันจะกลับไป อะไรมันมีขึ้นมันก็ต้องมีลง คำถาม ถ้าลงแล้วก็ต้องขึ้นใหม่ แต่ขึ้นใหม่ครั้งนี้จะขึ้นยังไง มันขึ้นไม่เหมือนเก่าแล้ว เหมือนคุณทักษิณ เคยขึ้นสู่สูงสุดแล้วลงมา คุณทักษิณมีโอกาสจะขึ้นอีกหรือเปล่า คุณทักษิณ ก็ไม่มีโอกาสขึ้น ด้วยเหตุนี้แล้วกรอบ แนวความคิดของแศรษฐกิจมันต้องเปลี่ยน ตอนนี้มีคนพูดมาขึ้นแล้ว โจเซฟ สติกลิตซ์ พูดมากขึ้น จอร์จ โซรอส นักลงทุนก็เห็นด้วย ยอมรับว่าเป็นอย่างนี้ หลายต่อหลายอันเริ่มพูดแล้ว ผมกำลังตั้งข้อสงสัยเหมือนกันว่า ทีมงานทั้งหมด แม้กระทั่งนายพอล คุกแมน พอล คุกแมน คือนักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนบอลไพรส์เหมือนกัน คนล่าสุดก็ระบุชัด เขายังไม่เห็นทางออกของวิกฤตการเงินนี้เลย ทีนี้พอคนที่เชียร์เอาเงินใส่เข้าไปก็ไม่ต่างกว่านักลงทุนในเมืองไทย นักเล่นหุ้นในเมืองไทย ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ ไม่ได้ต่างกว่าท่านปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม คือคนซึ่งอยู่ในแวดวงกรอบเดิมๆ จะเห็นด้วยกับอันนี้ ว่าต้องใส่เงินเข้าไป แต่คนซึ่งคิดนอกกรอบ

พี่น้องผมเป็นคนแรกในประเทศไทยที่พูดเมื่อปี 2548 ผมบอกว่า ราคาน้ำมันจะขึ้นถึง 50-60 เหรียญ พี่น้องรู้มั๊ยขึ้นถึง 140 เหรียญ ตอนที่ผมพูดผมยังจำได้ คุณวิเศษ จูภิบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ต่อว่าผม บอกว่าเป็นไปไม่ได้ มันเป็นวงจรของมัน เมื่อถึงหน้าหนาวคนใช้น้ำมันเยอะน้ำมันก็แพง เมื่อเข้าหน้าร้อนน้ำมันก็ตกลงมา แล้ววันนี้เป็นยังไง เพราะฉะนั้นแล้วผมกำลังตั้งข้อสงสัยตรงนี้นะครับ

พี่น้องครับ อีกข่าวชิ้นนึงผมอยากจะให้ดูนะครับ คือบริษัทคริสตี้เขาจัดให้มีการประมูล บริษัทคริสตี้คือบริษัทประมูลสินค้า ประมูลของ หัวนักษัตร คือ หัวที่เขาทำขึ้นมาเป็นนักษัตร เช่น หัวหนู หัวกระต่าย นักษัตรหนู นักษัตรกระต่าย หัวนักษัตรที่มีเรื่องมีราวขึ้นมาเพราะอะไร เพราะหัวนักษัตรนี้เคยตั้งอยู่ที่พระราชวังที่เมืองจีน เรียกว่า หยวนหมิงหยวน หยวนหมิงหยวนคือพระราชวังซึ่งจักพรรดิเฉียนหลง ซึ่งในยุคเฉียนหลง ประมาณปี พ.ศ.2343 เป็นคนสร้างหยวนหมิงหยวนขึ้นมา สร้างเพื่อให้จักรพรรดิพักร้อน หมดจากเฉียนหลงคือ ซูสีไทเฮา แล้วเกิดสงครามฝิ่นครั้งที่ 2 รบราฆ่าฟันกัน โดยที่สงครามฝิ่นครั้งที่ 2 อยู่ในยุคสมัยรัชกาลที่ 3 คือ ฝรั่งเศส เยอรมัน เข้าไปยึดปักกิ่ง พอยึดเสร็จเรียบร้อยแล้วแทนที่จะถอนทหารไป ด้วยความแค้นที่จีนฆ่าคนฝรั่งเศส เยอรมัน ก็เลยบุกเข้าไปเผาพระราชวังหยวนหมิงหยวน ระหว่างเผาเลยยกสมบัติออกมาเต็มไปหมด เหมือนกับสมัยอเมริกันบุกอิรัก ตอนที่บุกอิรัก บุกเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ของอิรักแล้วขโมยของพิพิธภัณฑ์ออกมาหมดเลย แล้วเอาไปขาย ตอนนี้ปรากฏว่า ฝรั่งเศส คริสตี้ ยังเดินหน้าให้ประมูลต่อไป โดยที่จีนประท้วงบอก นี่คือสมบัติของจีน ประมูลไม่ได้ต้องคืนจีน ไปฟ้องศาล ศาลฝรั่งเศสไม่ยอม ศาลบอกเป็นสิทธิผู้ประมูล

พี่น้องครับ วันแรกนี่ก็ ข่าวคราวมันเยอะแยะ เอาแบล็คกราวน์ของข่าวนะครับ ถ้าจะให้เจ็บๆ คันๆ ของข่าว ต้องรอพี่ปองของผมนะครับ ซึ่งก็เข้ามาในห้องส่งแล้ว

สุดท้ายต่อเชื้อให้พี่ปองเขาสักนิดก็แล้วกันนะ ความจริงมีคนเขายุให้ผมบอกว่า เล่นมุกไปฟ้องศาลแพ่งขอคุ้มครองชั่วคราว ข้อหาคุณจักรภพ เพ็ญแข คุณจตุพร พรหมพันธุ์ คุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ คุณวีระ มุสิกพงศ์ พวกเสื้อแดงละเมิดลิขสิทธิ์เสื้อเหลือง คือลอกเลียนแบบหมดทุกอย่างเลย ผมก็บอกว่า อย่าไปฟ้องเลย เขาบอกทำไม มุกนี้ใช้ไม่ได้หรอก เพราะถ้าฟ้องแล้วเราจะมีรายการตลก ขำขันให้เราดูได้ยังไง เพราะทุกวันนี้ผมมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุข ผมเห็นคุณจักรภพ ผมเห็นคุณจตุพร นั่งปาดเหงื่ออยู่หน้าทำเนียบ แล้วก็มีขนมจีนอยู่เข่งเดียว มีคนเข้าแถวอยู่ประมาณ 3,000 คน รอรับประทาน ไม่เหมือนเรา คุณปองบอก พี่น้องขอน้ำ เดี๋ยวมาแล้ว มาเป็นคันรถ พวกนี้มีขนมจีนอยู่เข่งเดียว ที่สำคัญคือ วิ่งไปร้านแถวนางเลิ้ง 2 ร้าน คนไม่รู้หรอก ร้านนึงไปสั่งข้าว 3,000 กล่อง พอเขาทำเสร็จเอาไปส่งปรากฏไม่มีใครรับเพราะไม่มีใครจ่ายเงิน พอไม่มีใครจ่ายเงิน เขาก็ด่าเช็ดเลย แล้วไปอีกร้าน 300 กล่อง เขาบอกให้ใคร ให้เสื้อแดง เจ้าของร้านไม่ยอมให้ของ มันก็ไม่จ่ายเงิน เขาเลยส่งข้าวมาแจกที่ ASTV ให้คน ASTV ได้กินกัน ผมคิดว่า รายการเด๋อ ดอกสะเดา พวกนี้ชิดซ้ายหมดเลย ดูดีๆ มันตลกจริงๆ คุณณัฐวุฒิแกเคยเป็นตลกคาเฟ่ แกก็เป็นตลกคาเฟ่อยู่ ไม่เคยพลาด รายการเล่าข่าวก็เลียนแบบเหมือนพี่ปอง-น้องเก๊ ทุกอย่างมีหมด แล้วที่ตลกที่สุด ผมอยากจะให้ฟัง คุณวีระ มุสิกพงศ์ สลายการชุมนุม คุณวีระพูดยังไงรู้มั๊ย เราตัดญาติขาดมิตรกับรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ เราจะรวบรวมคนให้ได้เป็นล้านคนเพื่อขับไล่รัฐบาล เอาละไม่เป็นไรพูดอย่างนี้ถูกต้อง ที่สำคัญที่คุณวีระใช้คำพูดที่น่ากลัว และน่าสังเวช และน่าทุเรศมากคือ และไม่ใช่แค่ไล่รัฐบาลประชาธิปัตย์เท่านั้น แต่รวมไปถึงโคตรเหง้าศักราช หรือพ่อของมัน พี่น้องที่ติดตามข่าวคงรู้ว่าคุณวีระหมายถึงใคร เราต้องเตรียมพร้อม คนของเราทั้งประเทศ เพื่อโค่นล้มคนบงการ นี่จะเป็นจุดเริ่มต้นของประชาธิปไตยไทย จะขยายความยังไงเดี๋ยวผมให้พี่ปองพูดต่อ แต่ที่สยองขวัญ พี่น้องรู้มั๊ยเรื่องอะไร เขาประกาศว่างวดหน้าเขาจะเอามาล้านคน ใครสยองขวัญรู้มั๊ย คนจ่ายเงินสยองขวัญ ผมคิดว่าวันนี้ขนทวารมันลุกซู่ไปหมดแล้ว เชื่อผมซิ ทั้งขนจมูก ขนทวาร ขนรักแร้ มันลุก เพราะทำไมรู้มั๊ย คราวที่แล้วบอกจะเอามาแสนนึง แล้วการประกาศว่าจะเอามาแสนนึง คือการตกลงภายใน ว่าท่านครับผมเอามาได้แสนนึง แสนนึงตีซะหัวละ 1,000 ก็ 100 ล้าน หรือ 500 ก็ 50 ล้าน ปรากฏว่าได้มาแค่หมื่นกว่าคน แล้วแพ้แดดหายไปประมาณเกินกว่าครึ่ง พอตกเย็น ขวัญชัย ไพรพนา ได้เงินไม่เต็มที่ บอกผมไปละ กูไปละ ขนคนกลับ ขวัญชัยนี่ก็แน่ บอกเอามา 1,200 คนแต่นับไปนับมาแล้วมีแค่ 300 คน ขวัญชัยก็กลับ โหรงเหรงเหลือถึง 600 คน เมื่อคืนก็มากสุด 3,000 คน พอบอกเอาล้านคนแล้วจะทำไงล่ะพี่น้อง คนจ่ายเงินบอก ถ้าคิดหัวละ 1,000 นี่พันล้านกูจะเอาที่ไหน เพราะฉะนั้นแล้วตอนนี้คนจ่ายเงินวิ่งกันกระเจิง ส่วนเรื่องคุณทักษิณจะไปพูดที่ฮ่องกง เดี๋ยวให้พี่ปองพูดดีกว่า วันนี้หมดเวลาแล้วเพียงแค่นี้ เราใช้เพลงไตเติ้ลของเรา ชื่อ วอทเอวันเดอร์ฟลูเวิลด์ โดยหลุยส์ อาร์มสตรอง ซึ่งเพลงนี้ร้องเมื่อปี ค.ศ.1967 หรือ 2510 เป็นเพลงมีความหมายมาก เป็นเพลงให้โลกนั้นมีสันติสุข ให้คนเรารักกัน

พี่น้องครับ รายการนี้มีทุกวันจันทร์-ศุกร์ วันไหนถ้าไม่อยู่เมืองไทย อย่างวันไปสมุย ผมจะอัดเป็นเทปล่วงหน้าไว้ แต่เทปที่อัดไม่ใช่รายการข่าวสด แต่จะเป็นรายการองค์ความรู้อธิบายเป็นเรื่องๆ ไป หวังว่าคงจะสะใจและพอใจที่ได้ทรมานให้ผมตื่นมาตี 4 เพื่อมาจัดรายการให้พ่อแม่พี่น้อง เพื่อให้พี่น้องพอใจ โทษฐานที่มารับใช้พ่อแม่พี่น้องก็ต้องทนไปเองครับ สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องครับ"




กำลังโหลดความคิดเห็น