“สนธิ” เปิดโปงซ้ำ แฉ “ตำรวจมาร” บิดเบือน-ให้ร้าย “น้องโบว์” เสียชีวิตเพราะพกระเบิดซีโฟร์ อัดยับ “พัชรวาท” เฉไฉอ้างไม่รู้เรื่องรายงานสรุปเหตุการณ์ 7 ต.ค.ที่ทำเสร็จสิ้นมานานถึง 4 เดือน จวกซ้ำ “ข่าวสด-มติชน” เสนอข่าวเอียงข้างตำรวจ เหตุเพราะต้องการให้ “นช.แม้ว” กลับเข้าประเทศ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง สนธิ ลิ้มทองกุล
วันนี้ (27 ก.พ.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวในรายการ “กู๊ดมอร์นิ่ง ไทยแลนด์” ซึ่งออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี เวลา 06.00-07.00 น. โดยนายสนธิกล่าวว่า วันนี้เป็นวันแรกของการจัดรายการ กู๊ดมอร์นิ่งไทยแลนด์ ส่วนสาเหตุที่ตนต้องมาจัดรายการในตอนเช้า เนื่องจากต้องการบังคับตัวเองให้ตื่นเช้า ส่วนรายการที่จัดนั้น จะหยิบยกเอาเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้เพียงบางเรื่อง แต่จะไม่ไปแข่งกับรายการของ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก โดยเราจะเอาองค์ความรู้ในเรื่องที่ตนจะพูด มาบอกเล่าให้พ่อแม่พี่น้องเข้าใจ ฉะนั้นพวกเราจึงไม่ต้องไปดูรายการเช้าของสถานีโทรทัศน์ช่องอื่นๆ เพราะขณะนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องรู้เรื่องราวทางการเมือง เพราะมีความสำคัญเป็นอย่างมาก
“เรื่องสำคัญที่ผมอยากจะพูด และจำเป็นต้องพูด คือ ผลการแถลงข่าวของกองพิสูจน์หลักฐานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งระบุความจริงเพียง 30 เปอร์เซ็นต์ ถึงสาเหตุของการเสียชีวิตของน้องโบว์ ว่ามีสารซีโฟร์ติดอยู่ ฉะนั้นผมจึงต้องนำหลักฐาน และเหตุผลมาอธิบาย เพราะในขณะนี้มีการบิดเบือน เนื่องจากใกล้กับเวลาที่ ป.ป.ช.กำลังจะชี้มูลความผิดผู้ที่ฆ่าประชาชนด้วยความรุนแรง ทำให้มีคนที่เดือดร้อนมากมาย เพราะกลัวว่าตัวเองว่าจะโดนคดีด้วย จึงปล่อยข่าวต่างๆ ออกมา โดยใช้หนังสือพิมพ์ทั้งข่าวสด และหนังสือพิมพ์เครือมติชน ซึ่งทำทุกอย่างเพื่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกต้อง และกลับมาประเทศไทย” นายสนธิ กล่าว
นายสนธิ กล่าวอีกว่า สิ่งที่น่าประหลาดใจก็คือ รายงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจกรณีการเสียชีวิตของน้องโบว์ ซึ่งรายงานดังกล่าวทำเสร็จเมื่อวันที่ 10 ต.ค.2551 เวลาผ่านไปนานถึง 4 เดือน เพิ่งจะมีการแถลงข่าวการเสียชีวิตของน้องโบว์ ที่สำคัญ พล.ต.อ.พัชรวาท วงศ์สุวรรณ ออกมาปฏิเสธว่าไม่รู้เรื่องว่ารายงานชิ้นดังกล่าวเสร็จสิ้นมานถึง 4 เดือนแล้ว จึงเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น ส่วนประเด็นที่สำคัญที่สุดคือ ฝ่ายเรายืนยันพร้อมหลักฐานว่า ตำรวจใช้อาวุธร้ายแรงปราบปรามประชาชน โดยน้องโบว์ ถูกระเบิดแก๊สน้ำตาจนเสียชีวิต ในขณะที่ตำรวจกลับอ้างว่าน้องโบว์ พกระเบิดซีโฟร์ไปด้วย และเมื่อดูจากแฟ้มภาพแล้ว ประเป๋าที่น้องโบว์ พกไปร่วมชุมนุมยังอยู่ในสภาพเกือบปกติ ซึ่งถ้าเป็นอย่างที่ตำรวจพูด รูปร่างน้องโบว์ จะอยู่ในสภาพนั้นหรือไม่ ฉะนั้นจึงพิสูจน์ชัดเจนว่าตำรวจโกหก
“นอกจากนี้ ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานยังระบุอีกว่า น้องโบว์เสียชีวิตเพราะแก๊สน้ำตา และมีสารซีโฟร์ติดตามเสื้อผ้า โดยเขาไม่ได้ชันสูตรศพ ที่น่าสนใจคือ พล.ต.ท.อัมพร จารุจิณดา ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านระเบิด และอาวุธปืน ซึ่งมีความน่าเชื่อถือ ที่สำคัญคือ เป็นตำรวจน้ำดี ไม่โกหก และยึดหลักวิทยาศาสตร์ เข้าไปชันสูตรศพน้องโบว์ ด้วยตัวเอง นอกจากนี้ยังมี พลอากาศตรี นพ.วิชาญ เบี้ยวนิ่ม หัวหน้าหน่วยนิติเวชภาควิชาพยาธิ รพ.รามาธิบดี ซึ่งเป็นคนผ่าศพน้องโบว์ ยืนยันว่า มีกลิ่นแก๊สตลบขึ้นมาในระหว่างผ่าศพ ฉะนั้น ที่ตำรวจระบุว่าน้องโบว์ไม่ได้โดนแก๊สน้ำตานั้นจึงเป็นไปไม่ได้ ฉะนั้นขอเตือนไปยัง พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รวมทั้งตำรวจที่กำลังทำคดีนี้ว่า เวลาเราพาคนที่เกี่ยวข้องขึ้นศาล เรามีหลักฐานมากมายที่จะพิสูจน์ได้อย่างชัดเจน” แกนนำพันธมิตรฯ กล่าว
นายสนธิ กล่าวอีกว่า ที่สำคัญเราเก็บหลักฐานสะเก็ดระเบิดแก๊สน้ำตาที่ใช้กับพวกเรา จะเห็นได้ชัดเจนว่า ระเบิดแก๊สน้ำตาผลิตมาจากประเทศจีน โดยมีแกนกลางเป็นชวนวน และมีระเบิด ซึ่งตำรวจพยายามพูดว่านั่นคือระเบิดซีโฟร์ แต่ความเป็นจริงแล้วซีโฟร์ คือองค์ประกอบของระเบิด ซึ่งประกอบไปด้วยสารอาร์ดีเอ็กซ์ 90 กล่าเปอร์เซ็นต์ โดยที่เหลือเป็นส่วนที่ผสมผสานกัน แต่ตำรวจกลับระบุว่า เขาตรวจเจอแต่สารซีโฟร์ แต่ไม่เจอสารอาร์ดีเอ็กซ์ นั่นแปลว่าเขาจงใจที่จะสื่อความหมายว่าน้องโบว์พกระเบิด ที่สำคัญ น้องโบว์ขณะถูกระเบิดนั้นก้มหน้าอยู่ ซึ่งอยู่ในระยะวิถีซึ่งถูกยิงออกมาจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล
“ที่สำคัญคือ แก๊สน้ำตามันหมดอายุ แต่ซีโฟร์ซึ่งเป็นส่วนประกอบนั้นอยู่ได้เป็นร้อยปี สรุปคือ เมื่อไหร่ตำรวจจะเลิกโกหกประชาชนเสียที ทั้งๆ ที่คุณเป็นฆาตกรฆ่าประชาชน แต่กลับไม่ยอมรับ ทำให้วงการตำรวจพังทลายไปหมด ส่วนที่เราไม่เปิดเผยหลักฐานชิ้นสำคัญๆ ออกมานั้น เพราะเราต้องการที่จะลากตำรวจไปขึ้นศาลอาญา หลังจาก ป.ป.ช.ชี้มูล ตอนแรกสื่อมวลชนทุกฉบับลงข่าวว่า น้องโบว์ พกระเบิด แต่ตอนหลังสื่อรู้ ตำรวจจึงเข้าไปทำลายหลักฐานเพื่อไม่ให้สื่อเผยแพร่” แกนนำพันธมิตรฯ ระบุ
นายสนธิ กล่าวต่อว่า ยังมีภาพอีกหลายภาพที่ยังไม่ได้รับการเผยแพร่ ยกเว้นมีแต่เอเอสทีวีเท่านั้นที่มีภาพเหล่านั้น จึงอยากถามนายขรรค์ชัย บุนปาน ว่าจิตใจทำด้วยอะไร ทำไมถึงยอมให้หนังสือพิมพ์ข่าวสด และหนังสือพิมพ์มติชน เสนอข่าวออกไปเช่นนั้น ที่สำคัญคือ ยอมเป็นเครื่องมือของตำรวจ ฉะนั้นที่ตนบอกว่าอย่าไปซื้อหนังสือพิมพ์เครือมติชนนั้น เพราะเป็นหนังสือพิมพ์ที่สนับสนุนกลุ่มเสื้อแดง และใส่ร้ายน้องโบว์ รวมทั้งยังสนับสนุนนายใจ อึ๊งภากรณ์ ซึ่งเป็นผู้ที่ออกแถลงการณ์สยามแดงโจมตีสถาบัน