กมธ.ยุติธรรม พบพิรุธรัฐบาลชายอำมหิตจับมือนักธุรกิจโรงเบียร์ จ.ภูเก็ต อยู่เบื้องหลังนมบูดในพื้นที่ภาคใต้ ป.ป.ช.แนะยื่นดีเอสไอสอบเส้นทางการเงิน เชื่อกระทำกันเป็นขบวนการและยาวนาน
วันนี้ (25 ก.พ.) ที่รัฐสภา นายสุวโรช พะลัง ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาฯ แถลงถึงผลการตรวจสอบปัญหานมโรงเรียนที่อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร ว่าที่ประชุมกรรมาธิการนัดพิเศษเมื่อวันอังคารที่ 24ก.พ.ที่ผ่านมา ได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องในการบริหารนมโรงเรียนในพื้นที่มาชี้แจงอาทิ นายสมโภช โชติช่วง นายอำเภอพะโต๊ะ จ.ชุมพร นายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ ผวจ.ชุมพร น.ส.สุพัตรา ธนเสนีวัฒน์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พบว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังการจัดโผ จัดโควตาให้กับ 18 บริษัทในโซนที่ 2 ซึ่งประกอบด้วย 22 จังหวัดในภาคตะวันตก และภาคใต้มีชื่อตรงกัน คือ นายเจริญ เดชเกิด อายุ 44 ปี ซึ่งนายอำเภอพะโต๊ะระบุว่า นายเจริญคนนี้เคยถูกสหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรี จำกัด (ในพระบรมราชูปถัมภ์) แจ้งความดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงและยักยอกทรัพย์จำนวน 260 ล้านบาท โดยแอบอ้างว่าได้รับมอบหมายจากสหกรณ์โคนมฯ ให้เป็นผู้รับเช็คจากธนาคาร ในการนำไปจัดจำหน่ายนมโรงเรียน
นายสุวโรช กล่าวด้วยว่า จากการที่ตนได้รับมอบหมายให้ลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่ จ.ชุมพร ก็พบข้อเท็จจริงที่ตรงกัน คือ ชื่อของบุคคลคนนี้จะเป็นผู้วิ่งเต้นในหลายจังหวัด มีน้ำหนักเชื่อได้ว่าน่าจะเป็นบุคคลที่อยู่เบื้องหลังนมโรงเรียนที่มีปัญหา ซึ่งพบว่านายเจริญเป็นคนร่ำรวยในจังหวัดภูเก็ต ประกอบธุรกิจนมและทำธุรกิจเกี่ยวกับโรงเบียร์มูลค่าหลายร้อยล้านที่ จ.ภูเก็ต โดยไม่ต้องกู้เงินจากธนาคารแม้แต่บาทเดียว ทั้งนี้ เมื่อตัวแทนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ และป.ป.ช. ซึ่งคณะกรรมาธิการฯ ได้เชิญมาร่วมสังเกตการณ์ในการประชุมด้วยได้รับทราบเบาะแส ก็ได้แนะนำให้คณะกรรมาธิการฯ ไปแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อที่ดีเอสไอจะสามารถรับมาคำเนินคดี และติดตามเส้นทางการเงินของคนกลุ่มนี้ได้
นายสุวโรชกล่าวอีกว่า หากสามารถตัดโซ่วงจรเหลือบที่หากินกับนมเด็กได้จะช่วยให้นมไม่ได้คุณภาพลดลง เนื่องจากผู้บริหารโรงเรียนทุกแห่งยอมรับว่าไม่สามารถตรวจสอบคุณภาพได้เลย เนื่องจากส่วนกลางรับรองและคัดเลือกบริษัทมาให้แล้ว ทางโรงเรียนทำได้เพียงแค่ตรวจนับจำนวน ตนเชื่อว่าหากมีการตรวจสอบเส้นทางการเงินของบุคคลดังกล่าวจะสามารถทราบเบาะแสของขบวนการได้แน่นอน เนื่องจากคนกลุ่มนี้ทำกันมานาน ทั้งนี้ เรื่องทั้งหมดล้วนมาจากรัฐบาลชุดที่แล้วทั้งสิ้น ตั้งแต่การคัดเลือกบริษัทผู้ประกอบการแปรรูปนมของคณะอนุกรรมการบริหารโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียนเมื่อวันที่15 ต.ค.2551 ซึ่งคณะอนุกรรมการชุดนี้ล้วนมีส่วนสำคัญในการคัดเลือกบริษัทผู้ประกอบการอย่างมาก