“ไข่แม้ว” จี้นายกฯ ปลด “อิสสระ” อ้างล้วงลูกสอบปลากระป๋องเน่า

“เพื่อไทย” เดินอีกเกม ยื่นหนังสือนายกฯ จี้ สั่ง “อิสสระ สมชัย” ยุติการทำหน้าที่ อ้างแทรกแซงการสอบสวนถุงยังชีพช่วยเหลือ “วิฑูรย์” ขู่ละเว้นเจอบรรจุลงบัญชีหนังหมาอภิปรายไม่ไว้วางใจเพิ่ม

วันนี้ (23 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายไพโรจน์ อิสระเสรีพงษ์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้นายอภิสิทธิ์ใช้อำนาจตามมาตรา 11 (1) แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 สั่งให้ รมต.หยุดการปฏิบัติหน้าที่

นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า หลังจากที่นายวิทูรย์ นามบุตร ได้ลาออกจาก รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และได้มีการแต่งตั้งนายอิสสระ สมชัย มาดำรงตำแหน่งแทนนั้น ปรากฏว่ามีข้าราชการที่หวังดีต่อบ้านเมือง และเห็นว่ามีความพยามที่จะช่วยเหลือ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่เข้าไปเกี่ยวข้องในการจัดซื้อถุงยังชีพ โดยพยายามให้ข้อเท็จจริงของคณะกรรมการชุดต่างๆ มีผลสรุปว่าราชการไม่ได้เกิดความเสียหายและไม่มีการทุจริต งบประมาณแผ่นดินไม่มีนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องแต่อย่างไร ซึ่งข้าราชการได้ให้ข้อมูลกับตนว่านายอิสสระพยายามที่จะโน้มน้าวชักจูง หรือแม้กระทั่งข่มขู่ข้าราชการไม่ให้ข้อเท็จจริงแก่คณะกรรมการชุดสอบสวน โดยพยายามให้ข้าราชการให้ปากคำว่าการแจกถุงยังชีพดังกล่าวไม่มีการทุจริต ทั้งที่มีหลักฐานชัดว่าได้มีการนำของที่ไม่มีคุณภาพ มาแจกให้ประชาชนและความเสียหายจะไม่เกิดขึ้นหากไม่มีการร่วมมือระหว่างนักการเมืองกับข้าราชการ

นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า รมว.พม.ทั้งคนปัจจุบันและอดีตล้วนเป็นคนของพรรคประชาธิปไตย์ทั้งนั้น และเป็น ส.ส.อุบลราชธานี ทำให้สังคมเกิดความคลางแคลงใจว่าการสอบสวนไม่เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์และตรงไปตรงมา และมีความพยามที่จะให้ข้าราชการให้ถ้อยคำหรือการกระทำใดๆ ที่ให้ รมต.คนเดิมพ้นผิด โดยใช้ข้าราชการฟอกความบริสุทธิ์ให้พวกตนเอง ดังนั้น ในฐานะที่นายกฯ เป็นคนยึดมั่นในความบริสุทธิ์ และเป็นคนที่ออกกฎเหล็ก 9 ข้อให้รัฐมนตรีทุกคนปฏิบัติ รวมถึงได้ประกาศให้มีการบิรหารราชการด้วยความโปร่งใส ปราบปรามการทุจริตทุกรูปแบบ

“ทั้งนายอิสสระ และนายวิทูรย์ล้วนเป็น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ มีความสงสัยว่าจะไม่เกิดความโปร่งใส ซึ่งจะสร้างรอยด่างให้กับนายกฯ ที่จะบริหารราชการแผ่นดิน และการที่ รมว.ใช้สถานะความเป็น รมว.ไปก้าวก่ายแทรกแซง การทำงานของคณะกรรมการชุดต่างๆ อาจเข้าข่ายการกระทำผิดตามาตรา 266 และ 268 ดังนั้น เพื่อความบริสุทธิ์และโปร่งใสของนายกฯ ขอให้นายกฯ ใช้มาตรา 11(1) มีคำสั่งให้นายอิสสระให้หยุดการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวจนกว่าจะมีการสอบสวนเสร็จสิ้น หากนายกฯ ไม่ดำเนินการ ฝ่ายค้านจะนำเรื่องนี้ไปอภิปรายไม่ไว้วางใจและยืนยันว่าเรามีข้อมูลที่จะสามารถดำเนินการกับทั้งสองคนได้แน่นอน” นายพร้อมพงศ์ กล่าว

อนึ่ง กรณีการแจกปลากระป๋องเน่าเกิดขึ้นเมื่อกลางเดือน ม.ค.52 ที่ผ่านมา โดยชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วมที่ จ.พัทลุง ได้นำถุงยังชีพที่กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ นำไปแจก 1,500 ถุง ส่งคืนให้ทางราชการเนื่องจากประกระป๋องที่บรรจุในถุงยังชีกมีกลิ่นเน่าเสีย และยังพบว่าสิ่งของอื่นๆ ก็ไม่มีคุณภาพด้วย ซึ่งนายวิฑูรย์ นามบุตร รัฐมนตรีในขณะนั้นได้ชี้แจงว่าเป็นถุงยังชีพที่ได้จากการบริจาค ยังไม่มีการใช้งบประมาณของทางราชการจัดซื้อแต่อย่างใด แต่ได้แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีเพื่อให้มีการสอบสวนในเรื่องนี้

อย่างไรก็ตาม กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ซึ่งเพิ่งจะตั้งขึ้นหลังการปรับปรุงกระทรวงทบวงกรมต่างๆ ในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในปี 2545 ซึ่งคนของพรรคไทยรักไทยได้เป็นรัฐมนตรีดูแลกระทรวงนี้ตลอดยกเว้นรัฐบาลหลังการยึดอำนาจวันที่ 19 ก.ย.49 เท่านั้น แต่หลังจากพรรคพลังประชาชนมาเป็นรัฐบาล คนของเครือข่าย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้มาเป็นรัฐมนตรีกระทรวงนี้อีกครั้ง และได้มีการช่วยเหลือปลัดกระทรวงที่ถูกชี้มูลความผิดเรื่องปัญหาชู้สาวให้กลับมาเป้นปลัดกระทรวงอีกครั้ง ขณะที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ เองก็เคยเป็นโฆษกกระทรวงนี้มาก่อน