กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกพืช 13 ชนิด บุกสภาเทพริกสดประท้วง ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมกำหนดให้พืชสมุนไพรเป็นวัตถุอันตราย จี้สอบอธิบดีอุตสาหกรรมและอธิบดีกรมวิชาการเกษตร ละเว้นหน้าที่ เชื่อเอื้อประโยชน์ให้ 6 บริษัทยกใหญ่ ไม่ต้องเสียภาษี พร้อมค่าปรับจากศาลนับหมื่นล้าน
วันนี้ (18 ม.ค.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 12.30 น.กลุ่มประชาชนผู้บริโภคและเกษตรกรผู้ปลูกพืช 13 ชนิด กว่า 50 คน นำโดย น.ส.มะลิวัลย์ งามปานแก้ว ได้เดินทางมายังรัฐสภา โดยได้นำพริกสดจำนวนมากมาเททิ้ง เพื่อประท้วงกรณีที่กระทรวงอุตสาหกรรม ออกประกาศให้สมุนไพร 13 ชนิด เป็นวัตถุอันตราย พร้อมกันนี้ ยังได้ยื่นหนังสือถึง นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย โดยเรียกร้องให้ยกเลิกประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ที่ให้พืชทั้ง 13 ชนิด เป็นวัตถุอันตรายตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ.2535 โดยทันที และให้ย้าย นายรัชดา สิงคาลวณิช อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม และ นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ออกจากตำแหน่ง พร้อมทั้งให้สอบสวนทั้ง 2 คน ว่า มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ในการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ด้วยหรือไม่ เนื่องจากทำงานไม่โปร่งใส ทำให้เกษตรกรเดือดร้อน โดยเฉพาะการยกเลิกกฎหมายวัตถุอันตรายไม่ให้สารซัลเฟอร์ หรือ “กำมะถัน” เป็นวัตถุอันตรายนั้น ทำให้ภาครัฐต้องสูญเสียภาษีที่ควรจะได้รับปีละหลายพันล้านบาทจากผู้นำเข้าสารซัลเฟอร์ รายใหญ่
น.ส.มะลิวัลย์ กล่าวว่า ประกาศของกระทรวงอุตสาหกรรมทำให้เกษตรที่ปลูกพืช 13 ชนิดได้รับความเดือดร้อนอย่างยิ่ง เพราะประชาชนเข้าใจว่าเป็นวัตถุอันตราย ขณะเดียวกันสารเคมีที่อันตรายหลายชนิดกลับถูกยกเลิกไม่ให้เป็นวัตถุอันตราย ขอตั้งข้อสังเกตว่า มาตรการดังกล่าวมาจากข้าราชการพยายามจะเอื้อประโยชน์ให้กับ 6 บริษัทยักษ์ใหญ่หรือไม่ เพราะบริษัทเหล่านี้จะได้ประโยชน์จากการไม่ต้องเสียภาษี และมีแนวโน้มว่าจะไม่ต้องจ่ายค่าปรับจากศาลนับหมื่นล้านบาทหากแพ้คดีที่ฟ้องร้องกันในเรื่องสารอันตราย เพราะสารเคมีดังกล่าวได้ถูกยกเลิกการเป็นวัตถุอันตรายตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมเรียบร้อยแล้ว
ด้าน นายวิชาญ กล่าวว่า ตนจะนำข้อเรียกร้องของกลุ่มประชาชนไปยื่นต่อคณะกรรมาธิการ 4 คณะ คือ กมธ.เกษตรฯ กมธ.วิทยาศาสตร์ กมธ.อุตสาหกรรม และ กมธ.สาธารณสุข เพื่อให้พิจารณาต่อไป