“อภิสิทธิ์” เรียกประชุมกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ถกรับมือซักฟอกฝ่ายค้าน หลังฝ่ายค้านเปลี่ยนยุทธศาสตร์โจมตีเรื่องส่วนตัว ยังมั่นใจลูกพรรครักษากฎเหล็ก 9 ข้อที่กระทบต่อส่วนรวมได้ พร้อมกำชับรัฐมนตรีตามจิกโครงการนมบูด ชี้เป็นปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไข
วันนี้ (19 ก.พ.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงผลการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ที่มี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงการที่ฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีบางคน ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ยืนยันว่าสนับสนุนกระบวนการตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ถ้าการดำเนินการนั้นเห็นชัดว่าเพื่อประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่ และไม่ดำเนินการในลักษณะใส่ร้าย หรือใส่ความเท็จ เรามั่นใจว่า เรื่องที่ฝ่ายค้านสร้างกระแสเกี่ยวกับการใช้เงินไม่ว่าจะเป็นเรื่องงบลับ 2,000 ล้านบาท และเงิน 250 ล้านบาทหรือเงิน 23 ล้านบาท ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่ปราศจากความจริง ทั้งนี้ คิดว่า ประชาชนทราบ และเข้าใจดีแล้วว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีส่วนรู้เห็น หรือเกี่ยวข้องกับการทำงานของพรรค ทั้งในอดีตและปัจจุบันแต่อย่างใด ซึ่งพรรคเห็นว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องชี้แจงอะไรอีก จนกระทั่งมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่สิ่งที่พรรคเป็นห่วง คือ แนวโน้มของพรรคฝ่ายค้านที่ยังขับเคลื่อนการเมืองนอกสภาผ่านการทำงานของกลุ่ม นปช.อย่างต่อเนื่องที่จะมีการชุมนุมตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ.นี้ โดยจะมีการปลุกระดมเตรียมใช้ความรุนแรง ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำลายความเชื่อมั่นของประเทศในสายตาชาวโลก
ผู้สื่อข่าวถามว่าได้หารือถึงการเตรียมตั้งรับการอภิปรายดังกล่าวของฝ่ายค้านอย่างไร โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยกันว่าตามข้อมูลของบุคคลที่ฝ่ายค้านอ้างถึง ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการชี้แจงไปแล้ว เมื่อพรรครับฟังแล้วเห็นว่าเชื่อถือได้และยืนยันว่าส่วนที่เป็นข้อกล่าวหานั้นไม่เกี่ยวข้องกับพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งนี้ เรื่องต่างๆ คงต้องรอให้ถึงวันอภิปราย ซึ่งจำเป็นที่จะต้องพูดเรื่องเหล่านี้เพิ่มเติม
“พรรคไม่ได้กังวล ต่อข้อกล่าวหาทั้ง 5 ข้อ แต่ยังไม่เห็นว่าญัตติเป็นเรื่องอะไร แต่ดูเหมือนว่าจะเปลี่ยนจากเรื่องเงินไปเป็นเรื่องส่วนตัวแล้ว ซึ่งพรรคยืนยันว่าถ้าเป็นพฤติกรรมส่วนตัวของรัฐมนตรีคนใดที่กระทบกับการทำงานของรัฐมนตรี ฝ่ายค้านก็สามารถทำได้ แต่ถ้าเป็นแค่การหยิบยกเรื่องส่วนตัวมาเพื่อโจมตีและทำลายความน่าเชื่อถือในลักษณะใส่ร้ายใส่ความรายวัน พรรคก็เห็นว่าไม่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานของรัฐบาลชุดนี้ และเป็นเรื่องของจิตสำนึกของผู้กล่าวหาว่าจะเล่นการเมืองแบบเก่าโดยการใส่ร้ายทำลายกัน หรือจะเสนอทางเลือกที่เป็นทางออกให้กับการแก้ปัญหาของประชาชน”
เมื่อถามว่า จะให้รัฐมนตรีแต่ละคนที่ถูกพาดพิงชี้แจงเองใช่หรือไม่ นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า ตอนนี้ข้อกล่าวหาไม่ชัด เพราะเป็นการเปลี่ยนประเด็นจากเรื่องเงินไปเป็นเรื่องการใช้เส้นนอกระบบและกลายเป็นเรื่องส่วนตัว จึงอยากรอให้ฝ่ายค้านมีเอกภาพก่อนว่าจะตรวจสอบรัฐบาลในเรื่องใดเพื่อประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ ไม่ใช่เป็นการสร้างกระแสเพื่อประโยชน์ของคนส่วนน้อยที่เป็นต้นเหตุของวิกฤตในอดีต
ต่อข้อถามว่าข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านอาจเชื่อมโยงเรื่องคุณธรรมและจริยธรรมตามที่นายกฯเคยประกาศกฎ 9 ข้อไว้ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า คุณธรรมจริยธรรมที่เป็นมาตรฐานทางการเมืองต้องเป็นคุณธรรมจริยธรรมที่กระทบต่อการทำงานเพื่อส่วนรวม เพราะจะมีเส้นระหว่างเรื่องส่วนตัวแล้วกระทบต่อส่วนรวม ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินนโยบายและการทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งนายกฯได้พูดชัดว่ามาตรฐานทางการเมืองของรัฐมนตรีต้องสูงกว่ามาตรฐานทางกฎหมาย
นอกจานี้ นพ.บุรณัชย์ เปิดเผยด้วยว่า นายอภิสิทธิ์ ได้แสดงความพอใจต่อการทำงานที่ได้ผลักดันนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์และพรรคร่วมรัฐบาลให้ถึงประชาชนตามกรอบเวลาที่กำหนดไว้ และยังกำชับให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาในนโยบายที่ต่อเนื่องจากรัฐบาลชุดที่แล้ว โดยเฉพาะโครงการนมโรงเรียนที่ตอนนี้เกิดปัญหาจากการปล่อยปละละเลยจากรัฐบาลชุดที่แล้ว หรือการจงใจทุจริตโดยการวางกรอบของรัฐบาลชุดที่แล้ว ซึ่งมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงวิทยาศาสตร์ และกระทรวงมหาดไทย ดำเนินการหาตัวผู้กระทำผิดมารับผิดชอบ เพราะเป็นเรื่องที่กระทบต่อความรู้สึกในวงกว้าง แต่โครงการดังกล่าวยังจำเป็นต่อนักเรียนในระดับประถมศึกษาและเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม